การพูดคุยเจรจาถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับนักธุรกิจหลายๆ
คน สำคัญถึงขนาดที่ว่ามีการเปิดคอร์สเรียนสำหรับเรื่องการพูด
การติดต่อสื่อสารโดยเฉพาะ เพราะบางคนพูดจนไม่ได้ฟังความคิดเห็นคนอื่น
บางคนเงียบจนคู่สนทนาเกิดความอึดอัด
ดังนั้นแล้วการเจรจาที่ดีจึงต้องมีความพอดีในบทสนทนา รู้จังหวะพูด รู้จังหวะหยุด
เพื่อให้การสนทนานั้นลื่นไหลและสามารถพูดคุยเรื่องธุรกิจได้ง่ายมากยิ่ง
แต่!
ถ้าการพูดคุยของคุณอยู่ในเกณฑ์ดีแล้ว แต่คุณไม่สามารถอ่านใจของคู่สนทนาได้
ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน
อาจจะทำให้การเจรจาทางด้านธุรกิจนั้นถึงทางตันและปิดจบการขายไม่ได้
ดังนั้นคุณคงต้องลองสังเกต 'ภาษากาย' ของคู่สนทนาว่าแท้ที่จริงแล้วการเจรจาธุรกิจของคุณ จะมีแนวโน้มไปในทาง Said yes หรือ Said No มากกว่ากัน โดยเรามีวิธีสังเกตคู่สนทนาง่ายๆ ดังนี้...
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
สบตาและตั้งใจฟังสิ่งที่คุณนำเสนอ
หากคู่เจรจาของคุณสบตาและมีทีท่าตั้งใจฟังสิ่งที่คุณพูดอยู่เสมอ
นั่นก็ถือเป็นการบ่งบอกว่าเขากำลังสนใจในสิ่งที่คุณกำลังนำเสนอให้กับเขา
มีแนวโน้มว่าจะการเจรจาธุรกิจของคุณในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จสูง
ซึ่งสบตาในที่นี้อาจจะมีการพยักหน้ารวมด้วย หรือมีการตั้งคำถาม
ถามในสิ่งที่คุณพูดไปเป็นระยะ
จดบันทึกสิ่งที่คุณพูดอยู่ตลอดเวลา
ถ้าคู่เจรจาของคุณก้มจดบันทึกสิ่งที่คุณพูดอยู่ตลอด
นั่นแสดงว่าเขากำลังสนใจและต้องการที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ให้มากที่สุด
ซึ่งคุณอาจจะต้องลดความเร็วในการนำเสนองานหรือการเจรจาลงมาหน่อย
เพื่อให้คู่เจรจาของคุณจดทัน อีกทั้งคุณอาจจะพูดเฉพาะเรื่องที่สำคัญ
ที่ต้องการเน้นย้ำให้เขาจดบันทึก เพื่อนำกลับไปพิจารณาในภายหลังนั่นเอง
พยักหน้าเล็กน้อยในขณะที่ทำการเจรจา
การพยักหน้าเล็กน้อยในขณะการเจรจาธุรกิจอยู่นั่น
บ่งบอกว่าคู่เจรจาของคุณเห็นด้วยในสิ่งที่คุณกำลังพูด
ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการเจรจาครั้งนี้ แต่เมื่อไหร่ที่เขาพยักหน้าแรงและถี่
นั่นกำลังบ่งบอกว่าเขาต้องการที่จะรีบจบบทสนทนาให้เร็วที่สุด
ซึ่งคุณอาจจะเปลี่ยนหัวข้อในการเจรจาให้ดู Relax มากขึ้นกว่าเดิม หรือตั้งคำถามให้เขาตอบบ้าง เพื่อลดความเบื่อหน่ายในการเจรจาครั้งนี้
จับบริเวณคางและมองไปยังบุคคลที่
3
ถ้าเมื่อไหร่ที่คู่เจรจาของคุณเอามือจับไปที่คางและมองไปยังบุคคลที่
3
นั่นแสดงว่าเขาเริ่มไม่สนใจและไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพูดหรือนำเสนอออกมาเท่าไหร่นัก
ดังนั้นถ้าคุณเห็นว่าคู่เจรจาเริ่มมีภาษากายแบบนี้ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเรื่องหรือปรับแนวคิดในการพูด
ก่อนที่อะไรมันจะสายเกินไป เพราะบางคนยังฝืนดันทุรังพูดต่อ
สรุปแล้วการเจรจาธุรกิจก็ล้มเหลวไปตามคาดการณ์ไว้
ยกมือขึ้นมาสัมผัสบริเวณแก้ม
การยกมือมาสัมผัสบริเวณแก้มแสดงให้รู้ว่าคู่เจรจาของคุณกำลังคิดวิเคราะห์ตามในสิ่งที่คุณพูด
หรือกำลังสับสนอยู่ ฉะนั้นแล้วถ้าเมื่อไหร่ที่คู่เจรจาของคุณมีภาษากายแบบนี้
ให้คุณรีบสรุปใจความสำคัญต่างๆ ให้เขาเห็นประโยชน์หรือข้อดีธุรกิจของคุณ
เพื่อที่จะได้เป็นการตอกย้ำให้เขาเข้าใจและสามารถตัดสินใจได้ในเวลาต่อมา
เชิดคางขึ้นแล้วกอดอก
ภาษากายในข้อสุดท้ายที่เรานำมาฝาก
นั่นก็คือ การเชิดคางขึ้นและกอดอก
นั่นบ่งบอกว่าเขากำลังไม่พอใจในสิ่งที่คุณพูดเท่าไหร่นัก
คุณอาจจะต้องรีบจบการสนทนาและหาวันนัดเพื่อพูดคุยกันใหม่ ไม่เช่นนั้นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จจะเหลือน้อยมาก
ทางที่ดีกลับมาตั้งหลักใหม่ก่อนดีกว่า
นี่เป็นวิธีสังเกตคู่สนทนาจาก
'ภาษากาย' เบื้องต้น
ที่พอจะช่วยให้คุณคาดเดาได้ว่า เขาหรือเธอ สนใจในตัวธุรกิจของคุณมากน้อยเพียงใด
แต่!
การสังเกตภาษากายไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าการเจรจาครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จหรือไม่
เพราะการเจรจาธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จและปิดการขายได้นั้น จะต้องพึ่งหลายๆ ปัจจัย
เช่น การ Service Promotion ราคา
เป็นต้น ฉะนั้นแล้วการสังเกตภาษากายของคู่เจรจา จึงเป็นเพียงอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้คุณนั้น
สามารถจับทางและความคิดเบื้องต้นของคู่เจรจาธุรกิจได้นั่นเอง