โครงการยังสมาร์ท ฟาร์ม (Young Smart Farm) การพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ของโรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก ต.ตาคง อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เพื่อทดแทนเกษตรกรผู้สูงอายุ สร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่หันมาประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยยึดหลักการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรด้วยตัวเกษตรกร ควบคู่เรียนหนังสือในห้องเรียนเหมือนโรงเรียนปกติทั่วไป ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้จนประสบความสำเร็จ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
นับจากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2561
มาจนถึงปัจจุบันได้สอนวิชาชีพการเลี้ยงสัตว์ต่างๆหลากหลายชนิดภายใต้โครงการ “ฟาร์ม โคเนื้อคงวิทย์”
โรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก มาแล้วหลายรุ่นทำให้เด็กนักเรียนสามารถต่อยอดเป็นอาชีพหลักตอนที่จบการศึกษาไปแล้วโดยไม่ต้องอพยพขายแรงงานต่างถิ่นเพราะอาชีพดังกล่าวเดินตามรอยแล้วมีชีวิตที่มั่นคง
โครงการ”ฟาร์มโคเนื้อ”เป็นการริเริ่มความคิดของ นายสุรพงษ์ รัตนโคตร ผู้อำนวยการโรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ทักษะวิชาชีพสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันหลังจากจบการศึกษา โดยภายในฟาร์มมีการเลี้ยงวัวหลากหลายสายพันธุ์ ประกอบด้วย โคลูกผสม ชาโรเล่ โคลูกผสมวากิว โคลูกผสมแองกัส โคลูกผสมพื้นบ้านไทย และโคลูกผสมบราห์มัน รวมกว่า 32 ตัว
ฟาร์มแหล่งเรียนรู้อาชีพสำหรับนักเรียน
ทั้งพ่อแม่พันธุ์และลูกวัวที่กำลังเติบโต
ซึ่งเด็กๆนักเรียนทั้งหญิงและชายจะได้เรียนรู้ วิธีการผสมเทียมแบบธรรมชาติ ให้อาหาร นอกจากจะสามารถจำหน่ายวัวให้กับนายฮ้อย
พ่อค้าคนกลางที่ติดต่อมารับซื้อทุกเดือนแล้ว สามารถนำปุ๋ยไปใส่หญ้าเนเปีย หญ้านรกจักรพรรดิ์และหญ้าหวานอิสราเอล ซึ่งเป็นหญ้าที่ปลูกไว้สำหรับเลี้ยง เลี้ยงแพะ
เลี้ยงปลา ในกระชัง และหนูนาที่เลี้ยงเสริมไว้
เพื่อนำรายได้ไปบริหารจัดการฟาร์มต่อ ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้เป็นกองทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน
หลังจบการศึกษาจากโรงตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก เพื่อนำไปเป็นค่าเทอมเรียนต่อเทอมแรก
ในระดับอุดมศึกษาต่อไป
“ฟาร์มแห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2561 หรือประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว ปัจจุบันกำลังขยายโครงการเลี้ยงสัตว์ชนิดต่างๆอย่างต่อเนื่องเพื่อให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้อาชีพสำหรับนักเรียนรุ่นใหม่ทดแทนรุ่นพี่ที่จบการศึกษ และจะยกระดับเป็นโรงเรียนตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านการศึกษาและสอนเรื่องสอนอาชีพทำฟาร์มเพื่อจะเป็นต้นแบบให้โรงเรียนจังหวัดต่างๆได้นำไปทำเป็นแบบอย่างซึ่งผมพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคนิคต่างๆให้กับผู้ที่สนใจ”
เพาะเลี้ยงหนูนาในบ่อซีเมนต์
สำหรับกิจกรรมเลี้ยงสัตว์ที่เป็นไฮไลท์
คือ การเลี้ยงหนูนา เพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่
นอกจากจะเป็นอาชีพใหม่ที่ชาวอีสานชอบทำและชอบกินแล้ว
ยังสามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดีไม่แพ้การทำปศุสัตว์ชนิดอื่น
โดยมีการจัดสร้างโรงเรือนเปิดโล่ง และนำบ่อซีเมนต์ มาวางซ้อนกัน 2 ชั้น
พร้อมทำฝาปิดจากแผ่นกระเบื้องปิด เอาไว้ด้านบน
สำหรับเลี้ยงหนูนาให้อยู่ภายในบ่อซีเมนต์เป็นคู่ๆ
ซึ่งอันแรกจะใช้หนูนาที่เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เลี้ยงและขุนไว้
จนหนูนาท้องและคลอดลูก ก่อนจะอนุบาลให้โตขึ้นสักระยะ ก่อนจับแยกออก
ไปเลี้ยงในบ่อซีเมนต์อื่นๆ เพื่อขยายพันธุ์ต่อไปเรื่อยๆ
โดยหนูนาที่เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ จะจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจซื้อไปเลี้ยงขยายพันธุ์
ในราคาคู่ละ 1 พันบาท
ส่วนหนูนาโตเต็มวัยที่เลี้ยงแล้วสามารถนำไปจำหน่ายให้นำไปเป็นอาหารได้
จำหน่ายกิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งที่ฟาร์มเลี้ยงหนูนาแห่งนี้
สามารถจำหน่ายหนูนาให้กับชาวบ้านที่ชอบกินหนูนาได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
สำหรับเมนูเด็ดที่ชอบนำไปทำอาหาร อาทิ หนูนาย่าง ผัดเผ็ดหนูนา แกงหนูนา
แล้วแต่ว่าใครจะนำไปทำเมนูไหนก็ทำได้เช่นกัน
นายจารุวิทย์ เจริญทรัพย์ ชั้น ม.6/2 กลุ่มเลี้ยงหนูนา
กล่าวว่าสำหรับศูนย์การเรียนรู้ หนูพุก หรือ หนูนา
เป็นกิจกรรมหนึ่งในฟาร์มเนื้อโคคงวิทย์ ที่เลี้ยงสัตว์อยู่หลากหลายชนิด
เลี้ยงหนูนาได้ประมาณเกือบปีแล้ว เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้วิธีเลี้ยง
เพื่อนำไปปรับใช้ที่บ้านหรือหลังจบการศึกษา
และเพื่อจำหน่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ให้กับชาวบ้านที่สนใจที่จะนำไปเลี้ยงต่อ ราคาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์คู่ละ 1 พันบาท
ถ้าขายเป็นตัวก็ตกตัวละ 120 บาท หรือกิโลกรัมละ 120 บาท สำหรับผู้ที่จะซื้อไปทำอาหาร
เพื่อนๆนักเรียนจะแบ่งเวลากันมาดูและให้อาหาร ซึ่งจะเป็นอาหารหญ้าเนเปีย
กับเมล็ดข้าวโพด เมล็ดข้าวและอาหารเม็ดต่างๆ สลับกับนักการภารโรง
กิจกรรมดังกล่าวสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้และดำรงค์ชีวิตต่างๆหลังจากจบการศึกษาออกไป
นายจารุวิทย์ฯกล่าว
น.ส.อารีลักษ์ พงษ์คละ เรียนชั้น ม.6 /2 กลุ่มเลี้ยงแพะ กล่าวว่าสำหรับการเลี้ยงแพะ
เลี้ยงมาประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว แพะเลี้ยง่ายเหมือนเลี้ยงวัว
แต่เราจะให้อาหารเป็นหญ้าจักรพรรดิ์นรก ที่ปลูกเอง และหญ้าหวานอิสราเอล
และกากมันหมักยีสต์เพื่อเสริมโปรตีนให้แพะ หญ้าปลูกเองทั้งหมด มีทุ่งนาไว้ปลูก
เพื่อนที่มาเลี้ยงจะนำการเรียนรู้ไปปรับใช้และเลี้ยงที่บ้านได้
รวมทั้งให้ความรู้กับน้องๆ รุ่นต่อไปได้
“เราเลี้ยงเป็นแพะเนื้อ มีฟาร์ม ซึ่งเป็นตลาดประจำรองรับโดยตรง ติดต่อมาซื้ออยู่เป็นประจำ ราคากิโลกรัมละ 100-110 บาท ซึ่งเดือนๆหนึ่งก็จะขายได้ประมาณ 5-6 ตัว เราจะรู้ว่าแพะต้องมีขนาดตัวเท่าไหร่ถึงจะสามารถขายได้ ตอนนี้มีแม่พันธุ์ประมาณ 4 ตัว และคลอดลูกแล้ว 1 ตัว เป็นลูกแฝด 2 ตัว ที่ต้องคอยให้นมเสริม มีแพะทั้งหมดกว่า 30 ตัว”
โรงเรียนตาคงวิทยารัชมังคลาภิเษก ซึ่งเป็นโรงเรียนนำร่องในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต
33 (สุรินทร์)ในปีการศึกษา 2562 เพื่อให้การขับเคลื่อนการบริหารจัดการเรียนการสอน
“ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” สู่การปฏิบัติของสถานศึกษาที่มีประสิทธิภาพ
ครูได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการการจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติและเรียนรู้ด้วยตนเองมากขึ้น
ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและมีความสุขในการเรียนรู้ ทั้ง 4 H คือ Head, Heart, Hand, Health
ฟาร์มมิ่ง สู่ "สมาร์ทฟาร์มมิ่ง”ทางเลือกใหม่ภาคเกษตรไทย