แต่คนจำนวนมากก็ยังยืดติดอยู่กับการเป็นผู้รับมากกว่า เพราะการรับหมายถึงการเป็นผู้ได้อย่างชัดเจน และโดยธรรมชาติของมนุษย์ย่อมมีความอยากได้มากกว่าความอยากให้ การจะสละจึงเป็นสิ่งยากยิ่ง
หนังสือ “แค่รู้วิธีให้ คนรับได้เท่าไหร่ คนให้ได้มากกว่า” จะทำให้ให้เรามองเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นและเห็นว่าการให้แต่ละครั้งนั้นเป็นโอกาสในการเปลี่ยนชีวิตของเราไปสู่ความสำเร็จและความสุขมากยิ่งขึ้นได้อย่างไร
หนังสือเล่มนี้แปลมาจากหนังสือภาษาอังกฤษที่มีชื่อว่า “Give and Take : A Revolutionary Approach to Success” ซึ่งเขียนโดย Adam Grant นักเขียนและศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจาก Wharton School แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย และได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดยวิโรจน์ ภัทรทีปกร เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา
เนื้อหาในเล่มเป็นการรวบรวมข้อมูลการศึกษาบุคคลและองค์กรชั้นนำมากมายที่ยืนยันว่าการเป็นผู้ให้นั้นได้รับประโยชน์ไม่แตกต่างจากผู้รับ และยังได้มากกว่าผู้รับในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ ฐานะการเงิน ไปจนถึงเรื่องของสุขภาพ โดยผู้เขียนได้แนะนำเคล็ดลับการให้ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวการให้ในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและไม่เกี่ยวข้อง เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ แต่บางเรื่องบางราวก็อาจจะดูแปลก ๆ แต่สามารถวิเคราะห์ตามหลักจิตวิทยาได้ เช่น
- การแนะนำให้ลูกค้าไปซื้อของจากคู่แข่งจะช่วยให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้า
- การทำงานอาสาสมัครปีละไม่กี่ชั่วโมงจะทำให้มีอายุยืนยาวกว่าคนทั่วไป
- การนึกถึง Superman เป็นเหตุให้เราทำงานเพื่อส่วนรวมน้อยลง
- คนที่มีชื่อโหลมีแนวโน้มที่จะกู้เงินได้มากกว่า เป็นต้น
-
ในหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้แบ่งคนออกเป็น 3 แบบ คือ ผู้ให้ (Giver) ผู้รับ (Taker) และผู้แลกเปลี่ยน (Matcher) ซึ่งเป็นผู้ที่รักษาความสมดุลระหว่างการให้และการรับ คือ ให้เพื่อหวังผลตอบแทน ช่วยเหลือคนอื่นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง โดยใน 3 กลุ่มนี้ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่าดูเหมือน “ผู้ให้”จะเป็นผู้ที่เสียเปรียบ(ในตอนแรก) แต่ในที่สุดเขาจะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่งผู้เขียนได้ให้เคล็ดลับในการเป็นผู้ให้ ๆ อย่างไรไม่ให้ถูกเอาเปรียบ ให้อย่างไรจึงจะสามารถ Balance ระหว่างผลประโยชน์ของผู้อื่นกับตัวเอง และเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด รวมไปถึงจะทำอย่างไรถึงจะมีแรงจูงใจในการให้มากขึ้น ตลอดจนบอกเคล็ดลับในการที่จะเปลี่ยนคนที่รับอย่างเดียวมาเป็นผู้ให้ภายในเวลา 90 นาที
เขาว่ากันว่าไม่ลองไม่รู้ แต่ถ้าไม่อ่านยิ่งไม่รู้นะคะ หนังสือเล่มนี้อาจจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะการเป็นผู้ให้ที่น่ายกย่องก็ได้ค่ะ