ขึ้นรูปได้ทุกแบบ! ‘เกรท โฟม กรุ๊ป’ เจ้านวัตกรรมพียูโฟมแบรนด์ไทยกับมุมมองเพื่อธุรกิจเติบโต

โฟมทำอะไรได้บ้าง? คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งรอบตัวเราหลายอย่างทำจากพียูโฟม (PU Foam) ที่สามารถฉีดขึ้นรูปและตัดเป็นรูปทรง หรือฉีดโฟมใส่แม่พิมพ์เพื่อขึ้นรูปเป็นโครงสร้างต่าง ๆ ซึ่งถูกนำไปใช้หลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิ ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ เบาะรถยนต์  เฟอร์นิเจอร์ เครื่องนอน เก้าอี้ทำฟัน ฉนวนกันความร้อน-ความเย็น ตลอดจนสิ่งของในชีวิตประจำวันล้วนมีส่วนประกอบของพียูโฟม 

ขณะที่ธุรกิจด้านพียูโฟมที่ซัพพลายสินค้าและบริการให้แก่อุตสาหกรรมต่าง ๆ จัดเป็นธุรกิจในลักษณะ B2B (Business-to-Business) จึงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่อาจไม่ทราบว่าธุรกิจด้านนี้มีสินค้าหรือบริการอะไรบ้าง เหตุนี้ จึงได้หยิบยกตัวอย่างธุรกิจ เกรท โฟม กรุ๊ป ธุรกิจพียูโฟมครบวงจรแบรนด์ไทยแท้เพียงรายเดียวที่แข่งขันกับธุรกิจต่างชาติ และเป็น Family Business ที่ส่งไม้ต่อสู่ทายาทธุรกิจรุ่นที่ 2 กับการนำพาธุรกิจก้าวไปอีกขั้นของการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน 

คุณวศิน โตเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการในเครือ เกรท โฟม กรุ๊ป กล่าวว่า ธุรกิจก่อตั้งเมื่อปี 2532 โดยคุณศักดา และคุณณรัชต์พรรณพ์ โตเจริญ บริษัทในเครือประกอบด้วย บริษัทเกรทโฟม โปรดักส์ จำกัดและ บริษัทจีเอฟ แมนนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผลิตสินค้าที่ทำจากวัสดุพียูโฟมหลายรูปแบบ อาทิ กลุ่มยานยนต์ เบาะพิง เบาะนั่ง เบาะวางแขน กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ ที่นอน เบาะ เน้นขึ้นรูปจากแม่พิมพ์เป็นหลัก และกลุ่มฉนวนกันความร้อน โฟมที่อยู่ในกระติกน้ำร้อน กระติกน้ำแข็ง รวมถึงงานโครงสร้างต่าง ๆ ตลาดส่วนใหญ่เป็นงานรับจ้างผลิต (OEM) เป็นธุรกิจในลักษณะ B2B

อีกกลุ่มหนึ่ง เกรท โฟม กรุ๊ป ทำตลาดผู้บริโภคโดยตรง (Consumer Market) เป็นกลุ่มเครื่องนอนเมมโมรีโฟมเกรดคุณภาพที่ใช้กระบวนการผลิตแบบ Molded Foam หรือเทคนิคการผลิตแบบโฟมขึ้นรูป ที่ทำให้เกิดการกระจายน้ำหนักได้ดี ทนทานและไม่ยุบตัว ทำเป็นแบรนด์ของตัวเองชื่อ ‘Acmebell’ มีสินค้าประเภทที่นอน หมอน เบาะพิงหลัง เบาะรองนั่ง หมอนรองคอ รวมถึงการเป็น OEM ให้กับที่อื่นด้วย 

คุณวศิน กล่าวว่า โดยหลักแล้ว เกรท โฟม กรุ๊ป เป็น OEM ที่ซัพพลายสินค้าและบริการให้อุตสาหกรรมยานยนต์ หรือกล่าวได้ว่าเป็นพาร์ทหนึ่งในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และมีลูกค้าที่เป็น Global ดังนั้นมาตรฐานการรับรองจึงเป็นใบเบิกทาง อาทิ เราได้มาตรฐาน ISO 9001 และ IATF16949 ที่ถือว่ามีระบบ มีมาตรฐานในการทำงาน มีข้อมูลที่ชัดเจนในการติดต่อ มีระบบงานที่มีมาตรฐาน ถ้างานมีปัญหาสามารถติดตาม หรือตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าสินค้าชิ้นนั้นผลิตเมื่อไหร่ ข้อมูลในส่วนการผลิตเป็นอย่างไร สามารถวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้า ทำให้เกิดความเชื่อมั่น สามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้

ส่วนที่สอง เกรท โฟม กรุ๊ป เป็น One Stop Process เกี่ยวกับพียูโฟมแบบครบวงจร  ตั้งแต่การผสมสูตรเคมี ซึ่งในขั้นตอนการผลิตพียูโฟมเกิดจากการผสมเคมี 2 ชนิด และในสองชนิดนี้ก็จะมีสารอีกหลายชนิด โดยส่วนใหญ่ซื้อมาแบบสำเร็จรูปจากผู้จำหน่ายเคมี

 

แต่เกรท โฟม กรุ๊ป ซื้อเคมีที่เป็นวัตถุดิบ (Raw Material) มาจากแต่ละผู้ผลิตเคมี แล้วนำมาพัฒนาเป็นสูตรเฉพาะของเราเอง ทำให้สามารถปรับสูตรการฉีดโฟมได้ตามความต้องการของลูกค้า หรือตามลักษณะงานของลูกค้าว่าอยากได้ความแข็งหรือนิ่มในลักษณะใด ก็สามารถบริหารจัดการสูตรให้ลูกค้าได้ หรือบางครั้งสูตรเคมีถ้าทำไปแล้วงานเกิดมีปัญหา ฉีดงานมาไม่ได้สเป็ก จำเป็นต้องไปแก้ไข

ซึ่งการปรับปรุงเบื้องต้นทุกทีทำได้เหมือนกัน แต่หากถึงขั้นต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง หรือการปรับสูตรเคมีก่อนฉีดโฟมขึ้นรูป เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณสมบัติเฉพาะตรงตามความต้องการของลูกค้า ในปัจจุบันธุรกิจที่ให้บริการที่ตอบโจทย์ครบทุกขั้นตอนยังมีไม่มากนัก และเป็นจุดแข็งของเกรท โฟม กรุ๊ป

คุณวศิน กล่าวอีกว่า เรามีส่วนงานแม่พิมพ์ (Mold) ซึ่งเป็นการออกแบบ Mold Design ตามรูปแบบชิ้นงานที่ลูกค้าต้องการได้ โดยมีเครื่อง CNC ที่ สามารถขึ้นรูปกัด (Machining) อลูมิเนียมเป็นชิ้นงานตามแบบที่ลูกค้าส่งมาได้เลย ทำให้ควบคุมทั้งต้นทุนและความรวดเร็วในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนั้นยังมีส่วนที่เรียกว่า Insert หรือชิ้นส่วนที่อยู่ภายในโฟมหลังจากขึ้นรูปชิ้นงานที่ต้องฉีดกับวัสดุอื่น ๆ เช่น เหล็ก ไม้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ทนทาน ในส่วนนี้ได้มีการลงทุนเครื่องตัดเลเซอร์ เครื่องดัดท่อเหล็ก และเครื่องตัดไม้ เพื่อเพิ่มความเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับเครื่องฉีดโฟมที่ เกรท โฟม กรุ๊ป ได้พัฒนาขึ้นเอง ทำมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ (คุณศักดา โตเจริญ) ซึ่งเป็นช่าง สมัยก่อนจะชอบไปเดินตลาดคลองถมหาซื้ออะไหล่และชิ้นส่วนเครื่องจักรเก่าจากคลองถมเพื่อมาลองคิดค้นประกอบดู ต่อยอดไอเดียมาจากเครื่องที่เห็นในโบรชัวร์แล้วลองทำเอง ซึ่งในสมัยนั้นได้จดสิทธิบัตรด้วย เป็นเครื่องฉีดโฟมที่ใช้งานได้ง่าย แต่มีความแม่นยำสูง ประสิทธิภาพดี มีฟังก์ชันบันทึกข้อมูลการฉีดงานสามารถย้อนกลับไปดูข้อมูลได้ว่าในเวลานั้น ๆ เราฉีดงานสเป็กแบบไหน 

ดังนั้นเวลางานมีปัญหาจะสามารถย้อนกลับไปตรวจสอบได้ ทำให้พนักงานทำงานง่ายขึ้น หรือนำข้อมูลเหล่านี้ไปพัฒนาต่อได้ เพราะมีนวัตกรรมของตนเอง เป็นองค์ความรู้ขององค์กรที่สามารถต่อยอดได้ หรือเป็นกระบวนการที่ทำให้งานในองค์กรมีการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการผลิต และตอบโจทย์ด้านการบริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 

สำหรับเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงในขณะนี้ คุณวศิน มองว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากแค่ไหน แต่ยังขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐในการควบคุมการดำเนินการของธุรกิจต่างชาติให้มีการใช้วัสดุหรือสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นนั้น ๆ ทำให้ทิศทางอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นซัพพลายเออร์ต่าง ๆ ยังไม่มีผลกระทบมากนัก แต่มองว่าเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นโอกาสมากกว่า 

กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมและเทรนด์เรื่องความยั่งยืน (Sustainability) เป็นอีกปัจจัยที่จะกระทบต่อธุรกิจพียูโฟม ซึ่ง คุณวศิน วิเคราะห์ว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับเปลี่ยนในหลายด้าน อาทิ การหาสารทดแทน หรือลดใช้สารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การเข้าร่วมโครงการกับ World Bank ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการลดการนำเข้าและการใช้สารเคมีที่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน

ขณะเดียวกัน ลูกค้าฝั่งยุโรปและญี่ปุ่น สอบถามกันมาเยอะเรื่องการใช้สารเคมีที่เป็นชีวมวล (Biomass) ทั้งปัจจุบันมีการทำวิจัยเพื่อหาสารตัวอื่นเข้ามาทดแทนสารเคมีที่ได้จากปิโตรเลียม โดยมีประโยชน์ที่ว่าลูกค้าและเราสามารถนำไปทำการตลาดต่อได้ว่ามีการใช้สารเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ในบางคุณสมบัติชีวมวลยังมีข้อจำกัด และเป็นที่น่ายินดีที่ปัจจุบัน บริษัท เกรท โฟม กรุ๊ปเราสามารถพัฒนาพียูโฟม ชื่อว่า GF.BIO Flexi ที่มี BIO Content 25% ผ่านมาตรฐานสากล

คุณวศิน ยอมรับว่าในช่วง 2 ปีมานี้ เทรนด์เรื่องสิ่งแวดล้อม (Environment) และความยั่งยืน (Sustainability) การนำกลับมาใช้ใหม่ ต่าง ๆ ลูกค้าต่างชาติสอบถามกันมาเยอะเหมือนกัน และมีคู่ค้าหลายรายเชิญเราไปศึกษาดูงานว่าในแต่ละที่ทำเรื่องความยั่งยืนกันอย่างไร ส่วนบริษัทต่างชาติเองก็มีเป้าหมายในการลดการทำลายสิ่งแวดล้อม และเทรนด์ในยุโรปที่กำลังก้าวสู่ Net Zero ในปี 2030 ทำให้มาตรการดังกล่าวเริ่มมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ และหากปรับตัวไม่ทันจะกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจแน่นอน

Molded Foam นวัตกรรมโฟมที่ขึ้นรูปจากแม่พิมพ์ 

คุณวศิน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสินค้าส่วนใหญ่ของ เกรท โฟม กรุ๊ป เป็น OEM  บริษัทจึงต้องการให้ลูกค้าจดจำในเรื่องนี้ คือเมื่อคิดถึงเรื่องพียูโฟม ให้นึกถึงเราเป็นลำดับแรก เราจึงได้สร้างจุดเด่นให้สินค้าโดยมีโปรเจกต์หนึ่งที่โด่งดังในญี่ปุ่น เป็นตัวสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่เราออกแบบตัว Insert หรือชิ้นส่วนที่อยู่ภายในโฟมแล้วฉีดชิ้นงานในแบบที่ลูกค้าต้องการ จุดเด่นคือ มีความหนาแน่นกว่าการการฉีดโฟมแบบทั่วไปซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เราพัฒนา และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เรียกว่า Molded Foam

Molded Foam เกิดจากแนวคิดว่า ธุรกิจมีความชำนาญในการฉีดโฟมใส่แม่พิมพ์เพื่อขึ้นรูปอยู่แล้ว ขณะที่ตลาดหลักเราเป็นกลุ่ม B2B ดังนั้นสิ่งที่เราขาย จึงไม่ได้เน้นแค่จะขายเฟอร์นิเจอร์ แต่จะเป็นการขายบริการหรือนวัตกรรมที่เราพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกหรือรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้นแทนที่จะแค่ฉีดโฟมส่งขายให้ลูกค้า แต่เรามีตัวเลือกที่เป็นการฉีดโฟมเป็นเฟอร์นิเจอร์ลักษณะนี้เพื่อให้ลูกค้านำไปพัฒนาต่อเป็นแบรนด์ของตัวเองหรือสร้างมูลค่าให้กับสินค้าได้อีกด้วย  

 

อย่างไรก็ตาม Molded Foam มีต้นทุนที่สูง สินค้ากลุ่มนี้จึงเหมาะกับตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือตลาดไฮเอนท์เท่านั้น โดยที่ผ่านมาส่งผลิตเพื่อออกไปญี่ปุ่น ส่วนในประเทศไทยวางแผนไว้ว่าจะเริ่มทำการตลาดในปีนี้ 

เมื่อ Molded Foam มีต้นทุนส่วนแม่พิมพ์ค่อนข้างสูง จึงคิดกลยุทธ์ใหม่ เพื่อมาลดข้อจำกัดนี้ โดยการพัฒนาแม่พิมพ์ในแบบมาตรฐานของเราเองเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าเลือกใช้ได้ หรือการไปหารือกับดีไซน์เนอร์เพื่อออกแบบให้เราผลิตและนำไปพัฒนาเป็นแบรนด์ต่อไปได้ อาจไม่คุ้มค่าหากไม่ผลิตในปริมาณที่มากพอ นับเป็นอุปสรรคสำคัญในการขยายตลาด 

คุณวศิน กล่าวว่า เกรท โฟม กรุ๊ป มีศักยภาพที่ดีในการผลิต แต่ในแง่การขายและการตลาดยังคงเป็นจุดอ่อนประกอบกับตลาดในปัจจุบันเป็นสากลมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการ SME หรือผู้ผลิตไทยยังต้องแข่งขันกับผู้ผลิตต่างชาติด้วย จึงต้องสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ รวมถึงการโฟกัสกลุ่มลูกค้า หรือการระบุตัวตนของลูกค้า ซึ่งปัจจุบันเราเป็น OEM ในกลุ่มลูกค้าที่เป็นเทียร์ 1 ยังจำกัดอยู่ที่บริษัทญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ขณะที่ในไทยมีบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ที่หลากหลายยี่ห้อ จึงต้องการเปิดตลาดไปยังบริษัทที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์อื่น ๆ ให้มากขึ้นด้วย 

ส่วนการจะขยับมาในตลาด B2C อาจต้องปรับ Mindset กันอีก เพราะการทำตลาดของธุรกิจแบบ B2B และ B2C แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่การทำตลาดหรือการขายสินค้าเหล่านี้ให้ผู้บริโภคโดยตรงทำให้เราได้รู้ ได้เห็นมิติ และมุมมองใหม่ๆ พร้อมกับต้องปรับตัวตลอดเวลา เช่น สมัยก่อนเราขายในตลาดออนไลน์แทบไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ตลาดเริ่มขยับขยายและขายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเรามีเปิดร้านแบรนด์ Acmebell ทางช่องทางเว็บไซต์ www.acmebell.com , Shopee Mall , Lazada Mall รวมถึงทางช่องทาง Facebook , Line , IG

ดังนั้น เป้าหมายที่วางไว้คือการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสร้างจุดเด่นให้ตัวสินค้าเพื่อให้เกิดภาพจำระหว่างลูกค้าและธุรกิจของเรา ว่าเรามีความโดดเด่นอย่างไร และเป้าหมายหลักเราไม่ได้โฟกัสเพียงยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่อยากจะให้รู้จักแบรนด์ และรู้จักตัวธุรกิจเรามากขึ้น ดังนั้นต้องพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นต่อไป 

Line Official ID : @greatfoamgroup

Line Official ID : @acmebellshop