The Big Blue | นักลงทุนมองหาอะไร หากจะลงทุนในธุรกิจ SMEs
เมื่อธุรกิจของคุณดำเนินมาถึงจุดๆ หนึ่ง คุณอาจจะพบว่ากำไรที่ได้มันเริ่มจะคงที่และเพิ่มไปกว่านี้ได้ยากแล้ว นั่นก็หมายถึงว่าคุณอาจจะจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจแล้วว่าจะขยายธุรกิจดีหรือไม่ และขยายธุรกิจอย่างไร เพื่อหาช่องทางทำกำไรเพิ่มขึ้น
การจะหาเงินทุนเพื่อมาขยายกิจการ ก็อาจมีวิธีได้หลายหลายทาง นอกจากทางที่เราอาจจะคุ้นเคยกันดีไม่ว่าจะเป็นการขอยืมมาจากเพื่อน คนในครอบครัว หรือกู้เงินจากธนาคาร ยังมีอีกวิธีหนึ่งคือ การหาเงินทุนเพิ่มจากนักลงทุน
นักลงทุนแตกต่างจากผู้ให้กู้ยืมเงินทั่วไปอย่างไร?
ถ้าโดยปกติที่เรากู้ยืมเงินจากธนาคาร เราก็มีหน้าที่นำเงินก้อนที่กู้ไปใช้บริหารธุรกิจ เพื่อให้ได้กำไร แล้วนำเงินต้นไปคืนพร้อมกับดอกเบี้ย
แต่หากใช้เงินจากนักลงทุน นักลงทุนจะมีสถานะเป็นเหมือนเจ้าของกิจการคนหนึ่ง และเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของธุรกิจของคุณ เงินลงทุนจากนักลงทุนจึงมาพร้อมกับข้อจำกัด เช่น การทำธุรกรรมบางอย่าง จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากนักลงทุน
แล้วทำไมบางธุรกิจเลือกใช้เงินจากนักลงทุน?
ก็เพราะว่ามันไม่จำเป็นจะต้องจ่ายคืนต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนตามกำหนดทุกเดือนๆ เหมือนอย่างเวลาที่คุณกู้เงินจากธนาคาร อีกทั้งนักลงทุนมักจะมีคำแนะนำดีๆ และมีเครือข่ายทางธุรกิจมากมายที่อาจก่อให้เกิดประโยชน์แก่ธุรกิจของคุณได้
ถ้าอยากให้นักลงทุนสนใจมาลงทุนในธุรกิจของเรา ต้องทำอย่างไร?
1. ข้อมูลต้องชัดเจน มีตัวเลขมารองรับ
ถ้าอยากจะแสดงให้นักลงทุนเห็นว่าธุรกิจของคุณนั้นน่าสนใจขนาดไหน คุณต้องทำให้นักลงทุนเห็นถึงศักยภาพ เป้าหมาย ว่าคุณจะสามารถทำกำไรและเริ่มนำเงินมาคืนนักลงทุนได้เมื่อไหร่ อย่างไร

2. มี Business Plan ที่ชัดเจน
Business Plan ที่ดีนั้นต้องประกอบไปด้วย
-กลุ่มตลาดเป้าหมาย
-การคาดการณ์ตัวเลขทางการเงิน
-ช่องทางการขาย
-แผนการตลาดและเป้าหมาย
-ไทม์ไลน์ของการดำเนินงาน
-อุปสรรคและวิธีแก้ไข
ถ้า Business Plan ของคุณดูน่าสนใจและทำให้นักลงทุนเชื่อได้ว่ามันจะสร้างผลตอบแทนได้อย่างงอกงามในอนาคต นักลงทุนย่อมไม่พลาดที่จะลงทุนให้คุณอย่างแน่นอน

3. มีไอเดียที่ไม่เหมือนใคร
สินค้าหรือบริการของคุณควรจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ สามารถแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่ลูกค้าต้องการและมีตลาดมากพอ หรือคุณสามารถบอกได้ว่าสินค้าของคุณนั้นยอดเยี่ยม แตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร

4. มีการเล่าเรื่องที่ดี
การเล่าเรื่องดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คุณต้องเล่าให้นักธุรกิจเห็นภาพให้ได้ว่าธุรกิจนี้สำคัญอย่างไร ได้ไอเดียมาจากไหน มีแพลนที่จะทำอย่างไรต่อ หรือธุรกิจของคุณจะเปลี่ยนโลกอย่างไร

5. การเตรียมพร้อมของธุรกิจ
อย่าเอาแต่พูดอย่างเดียว ต้องแสดงให้นักลงทุนเห็นด้วยว่าไอเดียของคุณนั้นสามารถทำเงินได้จริง อย่างน้อยคุณก็จะมีการทำ market research อย่างละเอียดมาให้เรียบร้อยก่อนหน้าที่จะไปคุยกับนักลงทุน

6. คุณต้องการอะไร จะเดินไปทิศทางไหนต่อ และเมื่อไหร่จะคืนทุน
นักลงทุนไม่ใช่นักบุญ เขาไม่ได้ให้เงินคุณฟรีๆ แต่เขาต้องการผลตอบแทน เพราะฉะนั้นเขาจะอยากรู้ว่า ทำไมคุณถึงต้องการเงิน คุณแพลนที่จะนำเงินนั้นไปทำอะไร และเขาจะสามารถคาดหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนคืนเมื่อไหร่ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ควรจะมีอยู่ใน Business Plan

7. มีโครงสร้างการลงทุนชัดเจน
คุณต้องตัดสินใจให้ดีถึงโครงสร้างธุรกิจ คุณจะให้นักลงทุนเป็นพาร์ทเนอร์ หรือหุ้นส่วน? จะให้สิทธิในการโหวตเมื่อต้องมีการตัดสินใจบางอย่างในการดำเนินธุรกิจหรือไม่? เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องคิดและตัดสินใจให้รอบคอบตั้งแต่ต้น จะได้ไม่มีปัญหากันได้ภายหลังซึ่งจะส่งผลเสียอย่างมากต่อธุรกิจ

จะหานักลงทุนแบบนี้ได้ที่ไหน?
ถ้าคุณมีเครือข่ายนักลงทุนที่รู้จัก คุณจะลองไปชัดชวนเขามาลงทุนก็ได้ แต่ถ้าไม่มี คุณอาจเลือกใช้ Crowdfunding ซึ่งเป็นโมเดลแพลตฟอร์มที่ออกแบบมา เพื่อเชื่อมโยง SMEs ที่ต้องการระดมทุน กับนักลงทุน ซึ่งสำหรับในไทย ก็มีผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Crowdfunding ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น
-Siam Validus (https://siamvalidus.co.th/investment/why-investing-in-smes-is-attractive/)
-Investree (https://www.investree.co.th/en/knowledge-hub-detail/Chance)
-Funding Societies (https://fundingsocieties.co.th/?tab=sme)
ซึ่งถ้าหากผู้ประกอบการ SMEs ท่านไหนสนใจก็สามารถลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้นะคะ
ผู้เขียน : ชนาภา มานะเพ็ญศิริ Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : ชนากานต์ วรสุข Graphic Designer, Bnomics
References
https://aofund.org/resource/7-things-investors-look-investing/