8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

SME Update
13/12/2024
รับชมแล้วทั้งหมด 21 คน
8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล
banner
กลยุทธ์ Festive Marketing คืออะไร?

Festive Marketing หรือการตลาดช่วงเทศกาล เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างแคมเปญและกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างความผูกพันกับลูกค้า โดยอาศัยบรรยากาศและความพิเศษของเทศกาล มาเป็นจุดขาย

 

ซึ่งกลยุทธ์การตลาด Festive Marketing นั้น มีมาอย่างยาวนาน โดยมีการสันนิษฐานว่า ก่อนหน้านี้หลายปี เมื่อพ่อค้าแม่ขายเริ่มนำสินค้าออกมาจำหน่ายในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลคริสต์มาส หรือเทศกาลเก็บเกี่ยว เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาจับจ่ายใช้สอย ปรากฎว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างมาก จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้เทศกาล มาเป็นกิมมิกกระตุ้นยอดขาย และพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามยุคสมัยจนปัจจุบัน ถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญสำหรับธุรกิจทุกขนาด เนื่องจากเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มยอดขาย สร้างความผูกพันกับลูกค้า และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น 

 

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ Festive Marketing กลายเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น

- การเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้การทำการตลาดช่วงเทศกาลมีความหลากหลายมากขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด และวัดผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ 
- การแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้น ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องหาวิธีสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าให้ได้มากขึ้น 
- ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์และความรู้สึกในการซื้อสินค้ามากขึ้น Festive Marketing จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้า

ตัวอย่าง Festive Marketing ของแบรนด์ดังๆ เช่น 

Starbucks
ทุก ๆ ปี Starbucks จะมีการออกแก้วกาแฟลายใหม่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของลูกค้าทั่วโลก นอกจากนี้ Starbucks ยังมีการจัดกิจกรรม เช่น การสร้างบรรยากาศร้านที่อบอุ่นด้วยการตกแต่งต้นคริสต์มาส หรือการออกเมนูเครื่องดื่มพิเศษในช่วงเทศกาล
IKEA
จัดกิจกรรมและโปรโมชันต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เช่น การจัดแสดงสินค้าตกแต่งบ้านในธีมคริสต์มาส หรือการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปสำหรับครอบครัว
LINE
 LINE มักจะจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น การแจกสติกเกอร์ฟรี การจัดกิจกรรมเกม หรือการออกแบบธีมไลน์ใหม่ เป็นต้น
 


Festive Marketing สำคัญกับ SME อย่างไร?

สำหรับธุรกิจ SME ที่ต้องการเพิ่มยอดขาย การนำเอาความรู้สึกพิเศษ และบรรยากาศของเทศกาล มาเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ช่วยสร้างความประทับใจและดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ สงกรานต์ คริสต์มาส หรือเทศกาลท้องถิ่นอื่น ๆ ก็มักจะสร้างอารมณ์ร่วมและความรู้สึกพิเศษให้กับผู้คน Festive Marketing จึงเป็นโอกาสทองในการสร้างการเชื่อมต่อทางอารมณ์กับลูกค้า ด้วยการออกแบบแคมเปญการตลาดที่สอดคล้องกับบรรยากาศเทศกาล การจัดโปรโมชันพิเศษ การตกแต่งบรรจุภัณฑ์ หรือการสร้างคอนเทนต์การตลาดที่มีความหมายและน่าจดจำ หาก SME ท่านไหน ตอบโจทย์ความรู้สึกเหล่านี้ได้ จะสามารถดึงดูดความสนใจ และสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแถมครองใจลูกค้าทุกเทศกาล มีอะไรบ้าง?

เพื่อให้คุณนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำสูตรลับ Festive Marketing แบบเข้าใจได้ง่าย ๆ ดังนี้

1.สร้าง Emotional Marketing หรือ การตลาดเชิงอารมณ์ 

คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างความรู้สึกและอารมณ์ให้กับผู้บริโภค เพื่อให้เกิดการจดจำแบรนด์ และกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ  เช่น ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความรู้สึกอบอุ่นในช่วงคริสต์มาสด้วยการจัดร้านในธีมคริสต์มาส มีต้นสนประดับไฟมุมใดมุมหนึ่งของร้าน หรือตกแต่งร้านด้วยไฟประดับสีสันสดใส สื่อถึงความสนุกสนานในช่วงปีใหม่ ให้ลูกค้าประทับใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความพิเศษในช่วงเวลานั้น
 


สำหรับการจัดแคมเปญแบบง่าย ๆ แถมประหยัด แต่ได้ความรู้สึกอิ่มใจสำหรับช่วงคริสต์มาส คุณอาจจัดแคมเปญ “Giving Back” ซึ่งเป็นการให้ลูกค้าซื้อสินค้าของคุณ แล้วนำรายได้ส่วนหนึ่งจากยอดขาย บริจาคให้กับการกุศลที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล เช่น บริจาคของขวัญให้กับเด็กในบ้านเด็กกำพร้า หรือช่วยเหลือครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือในช่วงปีใหม่ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าการซื้อสินค้าของคุณไม่เพียงแต่สนุก แต่ยังมีคุณค่าทางจิตใจอีกด้วย
 


2. โปรโมชันพิเศษตามฤดูกาล (Seasonal Promotions)

การทำโปรโมชันตามฤดูกาล เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมในการกระตุ้นยอดขายและสร้างความน่าสนใจให้กับร้านค้า โดยเน้นการนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในช่วงเวลานั้น ๆ 

เคล็ดลับสำคัญในการทำโปรโมชันให้ประสบความสำเร็จและประหยัดงบประมาณ ได้แก่ การวิเคราะห์สินค้าคงคลังเพื่อนำสินค้าที่เหมาะสมมาทำโปรโมชัน, การสร้างแพ็คเกจสินค้าที่น่าสนใจ, การร่วมมือกับแบรนด์อื่นๆ, การใช้ช่องทางออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์, การสร้างความแตกต่างด้วยโปรโมชันเฉพาะกลุ่ม, และการลดค่าใช้จ่ายในการทำโปรโมชัน เช่น การออกแบบสื่อเอง หรือการใช้ช่องทางที่ลูกค้าเข้าถึงบ่อย เช่น ไลน์, เฟซบุ๊ก
 


ตัวอย่างโปรโมชันที่น่าสนใจ ได้แก่ โปรโมชันซื้อ 1 แถม 1, ลดราคาตามจำนวน, แพ็คเกจสินค้าสุดคุ้ม, โปรโมชันสำหรับสมาชิก และกิจกรรมแจกของรางวัล สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือ การกำหนดเป้าหมายของโปรโมชันให้ชัดเจน, การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม, และการวางแผนงบประมาณอย่างรอบคอบ เพื่อให้โปรโมชันของคุณประสบความสำเร็จและคุ้มค่า

3. การสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ไม่เหมือนใคร (Unique Shopping Experience)

การสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ไม่เหมือนใคร คือการสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและอยากกลับมาใช้บริการอีกครั้ง  ซึ่งสามารถทำได้ทั้งในร้านค้าจริงและร้านค้าออนไลน์ ตัวอย่างในร้านค้าจริง เช่น การตกแต่งร้านให้เข้ากับธีมเทศกาล หรือเสียงเพลงที่สร้างบรรยากาศในเทศกาลนั้น ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงการยกระดับประสบการณ์ในการช็อปปิ้ง นอกจากนี้ การมีพนักงานบริการที่อบอุ่นและเป็นมิตร ยังช่วยเพิ่มความประทับใจให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเทศกาล

 

ในทางออนไลน์ การสร้างประสบการณ์พิเศษอาจทำได้ผ่านการออกแบบเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่สวยงามและใช้งานง่าย เช่น การเพิ่มฟีเจอร์การช็อปปิ้งแบบอินเทอร์แอคทีฟที่สามารถแสดงสินค้าในรูปแบบ 3D หรือสร้างประสบการณ์เสมือนจริง (Virtual Reality) ที่ลูกค้าสามารถชมสินค้าในมุมมองต่าง ๆ หรือทำกิจกรรมร่วมสนุก เช่น การจัดเกมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล พร้อมกับการให้ข้อเสนอพิเศษหรือส่วนลดเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นและอยากกลับมาช็อปปิ้งอีกครั้งในอนาคต วิธีนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่ยังสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาวอีกด้วย

4. การตลาดเชิงประสบการณ์ในช่วงเทศกาล (Experiential Marketing)

การสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและมีส่วนร่วมให้กับลูกค้าผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล มีเป้าหมายหลักคือ การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับลูกค้าในระดับอารมณ์ ทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น และจดจำแบรนด์ได้ในระยะยาว

 

การตลาดเชิงประสบการณ์ในช่วงเทศกาล เช่น การจัดงานปาร์ตี้, เวิร์คช็อป, หรือบูธกิจกรรมที่ให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมและสัมผัสกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของแบรนด์อย่างใกล้ชิด หากคุณมีงบประมาณจำกัด ก็สามารถทำการตลาดเชิงประสบการณ์แบบประหยัดได้ เพียงแค่คุณมีความคิดสร้างสรรค์ และรู้จักใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่สิ่งที่สำคัญคือความใส่ใจและความตั้งใจที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของคุณ
 


ตัวอย่างกิจกรรมที่ทำได้ง่ายและประหยัด เช่น ตกแต่งมุมเล็ก ๆ ในร้านให้สวยงามและน่าสนใจ พร้อมป้ายข้อความที่เชิญชวนให้ลูกค้ามาถ่ายรูปแล้วแชร์ลงโซเชียลมีเดีย หรือจัดกิจกรรมช็อปออนไลน์ เชิญผู้เชี่ยวชาญมาสอนทำอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณ เช่น การทำอาหาร, การทำดอกไม้ หรือการแต่งหน้า หรือแจกของรางวัลให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม เช่น สมุดโน้ต, ปากกา หรือส่วนลดในการซื้อครั้งต่อไป เป็นต้น

5. การใช้การตลาดด้วยเนื้อหา (Content Marketing)

การสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล เช่น บล็อกโพสต์, วิดีโอ หรือโพสต์ในโซเชียลมีเดีย ที่บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ หรือแชร์ไอเดียในการเลือกของขวัญหรือไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมกับเทศกาลนั้น ๆ

ตัวอย่างเช่น สร้างบทความ หรือคลิปวิดีโอสั้น ๆ ในช่วงคริสต์มาสที่แนะนำไอเดียของขวัญให้กับลูกค้า เช่น "ของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัว" หรือ "วิธีเลือกของขวัญปีใหม่ที่มีความหมาย" โดยวิธีนี้ จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ของคุณช่วยให้พวกเขามีประสบการณ์ที่ดีในการเลือกซื้อของขวัญ 

6. โปรโมชันพิเศษแบบจำกัดเวลา (Limited Time Offer) 

ในช่วงปีใหม่ ร้านเสื้อผ้าออนไลน์อาจสร้างแพ็คเกจของขวัญพิเศษ เช่น ชุดครอบครัวลดราคา 50% เมื่อซื้อครบ 3 ชุด หรือการแถมของขวัญพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาล เป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นยอดขายและสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้า แต่จะทำอย่างไรให้ได้ผลดีโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ คำแนะนำ คือ จัดโปรโมชันที่เน้นสร้างประสบการณ์ อาทิ ซื้อ 1 แถม 1 เป็นโปรโมชันคลาสสิกที่ได้ผลดีเสมอ แต่เพื่อให้แตกต่าง ลองปรับเป็น "ซื้อ 1 แถม 1 สำหรับ 100 ท่านแรก" หรือ "ซื้อ 1 แถม 1 เฉพาะช่วงเวลา" เพื่อสร้างความเร่งด่วน

- ซื้อครบตามจำนวน รับของแถม เช่น ซื้อสินค้าครบ 500 บาท รับของพรีเมียม หรือซื้อสินค้า 2 ชิ้นขึ้นไป รับส่วนลดทันที หรืออาจจัดโปรโมชันที่เน้นสร้างการมีส่วนร่วมอย่างโปรแกรมสะสมแต้ม ให้ลูกค้าสะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัล

- ให้ลูกค้าที่รีวิวสินค้าหรือแชร์โพสต์เกี่ยวกับร้านค้าได้รับส่วนลดหรือคูปอง หรือการสร้างกลุ่มลูกค้าในโซเชียลมีเดียเพื่อแจ้งโปรโมชันพิเศษให้กับสมาชิกในกลุ่มโปรโมชันที่มีความคุ้มค่าและน่าดึงดูดจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น และรู้สึกว่าได้รับข้อเสนอพิเศษ

โปรโมชันที่มีความคุ้มค่าและน่าดึงดูดจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น และรู้สึกว่าได้รับข้อเสนอพิเศษ

7. บรรจุภัณฑ์เทศกาล (Festive Packaging)

ไอเดียบรรจุภัณฑ์เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ แบบประหยัดแต่ได้ผล ซึ่งการสร้างบรรจุภัณฑ์เทศกาลที่สวยงามและน่าสนใจ ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมากมายเสมอไป ลองนำไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้กับร้านค้าของคุณ

- ร้านขายเบเกอรี่สามารถออกแบบกล่องขนมปังที่มีลวดลายคริสต์มาส หรือใช้ริบบิ้นสีแดง-เขียว เพื่อสร้างความรู้สึกพิเศษให้กับลูกค้า

- นำกระดาษห่อของที่มีอยู่มาตกแต่ง เพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้ริบบิ้นสีสดใส หรือสติกเกอร์ลายคริสต์มาสวาดภาพหรือเขียนข้อความอวยพรลงบนกระดาษห่อของ ใช้กิ่งไม้สนหรือใบกระพ้อมาประดับเพิ่มความเป็นธรรมชาติ 

- หากคุณมีกล่องกระดาษรีไซเคิลที่ไม่ใช้แล้วแต่ยังใหม่ อาจจะนำตกแต่งกล่องด้วยกระดาษสี, สติกเกอร์, หรือผ้าลายสวย ๆ ใช้เชือกป่านมัดกล่องแทนริบบิ้น 

- ตอบโจทย์ Sustainability ด้วยการใช้วัสดุจากธรรมชาติ  ใบไม้แห้ง, กิ่งไม้เล็กๆ, หรือผลไม้แห้ง ประดับบนบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม ใช้ใบตองหรือใบกล้วยห่อของแทนกระดาษห่อของ 


 
ด้วยความคิดสร้างสรรค์เล็กน้อยและวัสดุที่หาได้ง่าย ก็สามารถสร้างบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นและดึงดูดลูกค้าได้แล้ว  ซึ่งการลงทุนกับบรรจุภัณฑ์เทศกาล อาจดูเหมือนเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ในระยะยาวแล้ว จะช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทั้งในแง่ของยอดขายและภาพลักษณ์ของแบรนด์

8.การใช้การตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม (Niche Marketing)

ในบางครั้งการตลาดในช่วงเทศกาลที่เน้นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะสามารถทำให้แบรนด์ของคุณมีความโดดเด่นและเข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องลงทุนมากมาย หากคุณสามารถเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาได้

ตัวอย่าง สำหรับการตลาดในช่วงปีใหม่ คุณอาจเลือกทำแคมเปญที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าที่รักการท่องเที่ยว โดยเสนอแพ็คเกจทัวร์หรือลูกค้าสามารถเลือกซื้อของขวัญสำหรับนักเดินทาง เช่น กระเป๋าเดินทางหรืออุปกรณ์ท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่ 

รู้จัก “Affiliate”  อาวุธลับสำหรับการตลาดยุคใหม่ที่ปรับใช้ได้กับ Festive Marketing ทุกเทศกาล

การตลาดแบบ Affiliate คืออีกหนึ่งเครื่องมือทรงพลัง สำหรับการทำการตลาดในช่วงเทศกาลต่าง ๆ หรือ Festive Marketing ซึ่งหมายถึง การที่ธุรกิจของคุณจะร่วมมือกับบุคคลที่สาม เช่น บล็อกเกอร์, อินฟลูเอนเซอร์ หรือเว็บไซต์รีวิวสินค้าต่าง ๆ เพื่อโปรโมตสินค้าหรือบริการของคุณ โดย Affiliate เหล่านี้จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้าผ่านลิงก์ที่พวกเขาโปรโมตไป 
 


การตลาดแบบ Affiliate Marketing สามารถเชื่อมโยงกับ Festive Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ผู้บริโภคมักมีการใช้จ่ายมากขึ้น การทำ Affiliate Marketing ช่วยให้ธุรกิจขยายการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ผ่านเครือข่ายพันธมิตร (Affiliate) ที่มีผู้ติดตามหรือฐานลูกค้าอยู่แล้ว เช่น บล็อกเกอร์, อินฟลูเอนเซอร์, หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล ซึ่งสามารถโปรโมตสินค้าหรือบริการของแบรนด์คุณได้ ในขณะที่คุณจ่ายค่าคอมมิชชันเฉพาะเมื่อมีการซื้อหรือกระทำการตามที่กำหนด การใช้ Affiliate Marketing ในช่วงเทศกาลจึงเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นและยอดขายได้โดยไม่ต้องลงทุนมากในโฆษณา

สำหรับ SME การเรียนรู้และใช้การตลาดแบบ Affiliate ในช่วงเทศกาลถือเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะมันไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนสูงในโฆษณา แต่ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลายกลุ่มได้ในเวลาอันรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องจัดการทั้งหมดเอง 


 
การมีพันธมิตรที่ช่วยส่งเสริมแบรนด์ของคุณในช่วงเทศกาลทำให้สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเพิ่มยอดขายในช่วงที่ผู้คนมักจะช็อปปิ้งมากขึ้น ทำให้ SME ที่ใช้ Affiliate Marketing ประสบความสำเร็จได้ในตลาดที่แข่งขันกันอย่างเข้มข้นในช่วงเทศกาลสำคัญ 

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ส่องอนาคต ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ ทำไม? ถึงกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของไทย ไปสู่ Net Zero ไวขึ้น

ส่องอนาคต ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ ทำไม? ถึงกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของไทย ไปสู่ Net Zero ไวขึ้น

ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีโจทย์สำคัญต้องเร่งแก้ นั่นคือ ภาวะโลกเดือด และปัญหาด้านพลังงาน ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง เป็นปัญหาใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงกัน…
pin
23 | 15/12/2024
8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

กลยุทธ์ Festive Marketing คืออะไร?Festive Marketing หรือการตลาดช่วงเทศกาล เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างแคมเปญและกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลต่าง…
pin
21 | 13/12/2024
พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะลูมิเนียมไทย ให้คาร์บอนต่ำ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมสีเขียว

พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะลูมิเนียมไทย ให้คาร์บอนต่ำ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมสีเขียว

วิกฤตการณ์สภาพภูมิอากาศโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ กำลังส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เร่งให้เกิดภาวะโลกร้อนคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูงอย่างอุตสาหกรรมโลหะ…
pin
29 | 07/12/2024
8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล