สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครคุนหมิง ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของไทย รายงานว่า ในปัจจุบันจีนกำลังก้าวเข้าสู่ ‘เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ’ ภายใต้นโยบายการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง
จากแรงขับเคลื่อนด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้จีนยังคงรักษาตำแหน่งประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลกได้ แม้จะเผชิญความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา แต่ด้วยกำลังซื้อภายในประเทศที่แข็งแกร่งและมีการสนับสนุนจากภาครัฐ จีนจึงยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายธุรกิจในจีน ควรจับตา 10 เทรนด์สำคัญ ที่จะสะท้อนทิศทางใหม่ของเศรษฐกิจจีน พร้อมเปิดโอกาสในการทำธุรกิจข้ามประเทศได้ดังนี้
1. Experience Economy - ‘เศรษฐกิจประสบการณ์’ ที่คนสนใจ ‘ประสบการณ์ในการซื้อ’ มากกว่าตัวสินค้า เทรนด์นี้กำลังเติบโตในเมืองใหญ่ของจีนอย่างเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกวางโจว ซึ่งแบรนด์ที่มอบความรู้สึกที่แตกต่างได้จะโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่น ๆ ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
2. การบริโภคอย่างมีเหตุผล และการเติบโตของตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) - ผู้บริโภคจีนยุคใหม่มีความรอบคอบในการบริโภคมากขึ้น โดยกว่า 70% มักใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการเปรียบเทียบราคาและดูรีวิวก่อนซื้อ ขณะที่ตลาดเฉพาะกลุ่มอย่างสินค้าเพื่อสุขภาพต่าง ๆ ก็กำลังขยายตัว
3. การสร้างเขตธุรกิจใหม่ในพื้นที่ชนบท – นโยบายการพัฒนาชนบทของจีนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับอำเภอและชนบทของประเทศ โดยเฉพาะในมณฑลเสฉวน ยูนนาน และกุ้ยโจว ซึ่งมีการเติบโตของรายได้และการค้าปลีกอย่างรวดเร็ว เปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยเข้าไปสู่ตลาดใหม่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนได้
4. เทคโนโลยีเพิ่มประสบการณ์ในการรับประทานอาหาร – อุตสาหกรรมร้านอาหารในจีนพัฒนาไปสู่การสร้าง ‘ประสบการณ์และคุณค่า’ ยกตัวอย่างร้านดังเช่น Haidilao และ Quanjude ที่นำเทคโนโลยี VR มาใช้สร้างบรรยากาศให้ผู้บริโภคดื่มด่ำไปกับการรับประทานอาหารได้มากขึ้น
5. การผสมผสานการขายออนไลน์กับออฟไลน์ – จีนเป็นผู้นำด้านการผสมผสานระหว่างการขายของแบบออนไลน์กับออฟไลน์ผ่านแพลตฟอร์มยักษ์อย่าง Alibaba และ JD.com ซึ่งโมเดลดังกล่าวที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Big Data จะช่วยให้ผู้ขายสามารถคาดการณ์พฤติกรรมของผู้บริโภคและปรับตัวได้แบบเรียลไทม์
6. การบริโภคดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ - เทคโนโลยีอย่าง 5G, IoT, AI และ VR กำลังเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คน ซึ่งกว่า 80% ของผู้บริโภคชาวจีนมีการซื้อของผ่านสมาร์ทโฟน เกิดเป็นช่องทางดิจิทัลใหม่ให้นักธุรกิจไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคจีนได้โดยตรง
7. เทรนด์รักสุขภาพและรักษ์โลกกำลังเติบโต - นโยบายการพัฒนาสีเขียวของจีนสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สินค้าออร์แกนิก บรรจุภัณฑ์ย่อยสลาย และธุรกิจพลังงานสะอาด ซึ่งผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความปลอดภัย คุณภาพ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
8. โลจิสติกส์อัจฉริยะและการพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน - ภาคโลจิสติกส์ของจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เช่น การส่งสินค้าผ่านโดรน การใช้รถยนต์ไร้คนขับ และการใช้คลังสินค้าอัจฉริยะ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ
9. แบรนด์ค้าปลีกจีนบุกตลาดโลก - แบรนด์จีนอย่าง Shein, Temu และ Miniso ประสบความสำเร็จในเวทีโลก ด้วยการออกแบบที่ผสานเอกลักษณ์วัฒนธรรม พร้อมกับมีการบริหารจัดการที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี อีกทั้งได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงการค้าและความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งเทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจไทยจำเป็นต้องสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อแข่งขันในระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10. กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล - ข้อมูลคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในเศรษฐกิจดิจิทัล ดังนั้นการใช้ Big Data และ AI อย่างมีกลยุทธ์เพื่อวิเคราะห์ผู้บริโภค พัฒนาห่วงโซ่อุปทาน และทำการตลาด จะช่วยธุรกิจให้สามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพได้
โดยสรุป เศรษฐกิจจีนที่กำลังเปลี่ยนแปลง ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น กำลังสร้างโอกาสสำคัญให้แก่ธุรกิจไทยที่ต้องการขยายไปสู่ตลาดโลก
ที่มา: 10 Chinese trends unlocking golden opportunities for Thai businesses, Nation Thailand
ผู้เรียบเรียง: ณภัสสร มีไผ่แก้ว

