AEC Connect | ‘รถไฟความเร็วสูง เหนือ-ใต้’ ฝันที่ไม่ไกลเกินฝันของ ‘เวียดนาม’

Library > AEC/CLMV
26/08/2022
รับชมแล้วทั้งหมด 1355 คน
AEC Connect | ‘รถไฟความเร็วสูง เหนือ-ใต้’ ฝันที่ไม่ไกลเกินฝันของ ‘เวียดนาม’
banner
กระทรวงคมนาคมของเวียดนามเตรียมนำเสนอนโยบายการลงทุนต่อคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อพิจารณาและอนุมัติการก่อสร้าง ‘รถไฟความเร็วสูง เหนือ-ใต้’ ซึ่งใช้งบประมาณสูงถึง 58,710 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาท โดยรถไฟความเร็วสูงใช้ระบบไฟฟ้า ทำความเร็วสูงสุดได้ 320 กม./ชม. เป็นแบบทางคู่ กว้าง 1,435 มม. และมีเส้นทางยาว 1,545 กิโลเมตร

สำหรับการจัดสรรงบประมาณ ทางการเวียดนามจะใช้งบประมาณ 1,980 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อปรับปรุงพื้นที่เตรียมการก่อสร้าง, 31,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อการก่อสร้าง และ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ 

นอกจากนี้ ก่อนที่จะนำเสนอนโยบายต่อคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ กระทรวงคมนาคมได้ศึกษาเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2548 และได้หารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง, องค์กรส่วนกลางและผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ เพื่อจัดทำและทบทวน ‘รายงานศึกษาวางโครงการ’ สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ นี้ อีกทั้งได้ร้องขอข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากจังหวัดต่าง ๆ ราว 20 แห่ง ที่ทางรถไฟตัดผ่านด้วย เช่น กรุงฮานอย, นครดานังและนครโฮจิมินห์ โดยจุดเริ่มต้นของทางรถไฟจะอยู่ที่สถานี Ngoc Hoi ในกรุงฮานอย และไปสิ้นสุดที่ สถานี Thu Thiem ในนครโฮจิมินห์

ส่วนระยะเวลาก่อสร้าง โครงการดังกล่าวถูกนำเสนอให้ดำเนินการใน 2 ระยะ และแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ฮานอย-วินห์ และญาจาง-นครโฮจิมินห์ จะถูกสร้างเป็นระยะแรก ด้วยเงินลงทุน 24,720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2575 ส่วนระยะที่ 2 คือ วินห์-ญาจาง ซึ่งใช้งบประมาณการลงทุนราว 33,990 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2593

แต่การเสนอนโยบายการลงทุนครั้งนี้ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากในปี 2553 หรือราว 12 ปีที่แล้ว คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเวียดนามได้ปฏิเสธที่จะลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ นี้ เพราะใช้งบประมาณที่สูงจนเกินไป อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) อนุมัติยุทธศาสตร์เครือข่ายทางรถไฟ 2564-2573 ประกอบด้วย การวางแผนยกระดับทางรถไฟ 7 สาย ที่มีอยู่แล้วของเวียดนาม, เสนอการก่อสร้างทางรถไฟใหม่จำนวน 9 สายทั่วประเทศ และการให้ความสำคัญกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ เป็นอันดับแรก เป็นต้น 

โดยยุทธศาสตร์นี้ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าเวียดนามจะสามารถบรรทุกสินค้าผ่านทางรถไฟได้ราว 11.8 ตันต่อปี ภายในปี 2573 (คิดเป็นสัดส่วน 0.27% ของตลาดเวียดนาม) พร้อมทั้งรองรับผู้โดยสาร 460 ล้านคน ต่อปี (คิดเป็น 4.4% ของตลาดเวียดนาม) 

ขณะที่ การเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงด้วยความเร็วที่ 320 กม./ชม. จะทำให้การเดินทางจากกรุงฮานอยไปยังเมืองวินห์ของจังหวัด ‘เหงะอาน’ ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชม. เท่านั้นเมื่อเทียบกับการเดินทางโดยเครื่องบินที่จะใช้เวลาราว 3 ชม. (รวมเวลาตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ ) และใช้เวลาราว 4.2 ชม. จากกรุงฮานอยไปยังเมืองญาจางซึ่งก็ยังเร็วกว่าเดินทางโดยเครื่องบินที่ใช้เวลา 4.5 ชม.(รวมเวลาตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ ) แต่ถ้าเป็นการเดินทางจากกรุงฮานอยไปยังนครโฮจิมินห์ รถไฟฟ้าความเร็วสูงจะเสียเปรียบเรื่องเวลาที่ใช้เวลา 5.5 ชม. ขณะที่เดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาเพียง 4.5 ชม. (รวมเวลาตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ ) ส่วนราคาบัตรโดยสารของรถไฟความเร็วสูง ทางการเวียดนามระบุว่าควรจะอยู่ที่ประมาณ 75% ของราคาบัตรโดยสารเครื่องบินในเส้นทางเดียวกัน

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมของเวียดนามมุ่งใช้รถไฟฟ้าความเร็วสูงสายนี้เพื่อใช้ขนส่งผู้โดยสาร ตอบสนองด้านการท่องเที่ยวและเชื่อมต่อเมืองใหญ่ต่าง ๆ ตั้งแต่เหนือจรดใต้  ซึ่งรถไฟความเร็วสูงจะช่วยให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวกและลดปัญหาจราจรติดขัด รวมถึงส่งเสริมคุณค่าและเพิ่มอิทธิพลทางเศรษฐกิจของเมืองต่างๆ ที่ทางรถไฟความเร็วสูงตัดผ่าน ขณะที่เส้นทางรถไฟแบบดั้งเดิมที่มีอยู่แล้วจะใช้เพื่อขนส่งสินค้า

อย่างไรก็ดี รถไฟความเร็วสูงเส้นนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างประโยชน์ให้เวียดนาม แต่ยังสร้างโอกาสธุรกิจให้นักลงทุนไทยด้วย เนื่องด้วยแผนแม่บทในการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงดังกล่าวได้ระบุให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแต่ละเมืองที่ทางรถไฟความเร็วสูงตัดผ่านให้พัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของแต่ละพื้นที่ 

อีกทั้งการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะไม่ได้นำพาความเจริญมาสู่เมืองที่เส้นทางรถไฟนี้ตัดผ่านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเมืองต่าง ๆ ราว 63 แห่ง ที่ถนนทางหลวงและเส้นทางรถไฟที่มีอยู่แล้วซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟความเร็วสูงนี้ให้ได้รับผลประโยชน์ต่าง ๆ ด้วย 

ดังนั้นเมืองเหล่านี้จะกลายเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการค้าและการลงทุนมากขึ้น จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่นักลงทุนไทยควรจับตามองและเดินทางไปสำรวจพื้นที่ เพื่อศึกษาว่าพื้นที่เหล่านี้เป็นตลาดที่เหมาะกับสินค้าและบริการของท่านมากน้อยเพียงใด 

หมายเหตุ: เวลาการเดินทางโดยเครื่องบินอ้างอิงข้อมูลจาก vnexpress ซึ่งต่างจากข้อมูลเวลาการบินของสายการบินพาณิชย์ที่ระบุว่าจากกรุงฮานอย-นครโฮจิมินห์ ใช้เวลากว่า 2 ชม. 

ที่มา: North-South express railway to seek Politburo’s approval (vietnamnet.vn) 
https://www.railjournal.com/financial/vietnam-approves-us-51m-vinh-nha-trang-upgrade/ 
North-South high-speed rail construction to begin in 2028 - VnExpress International 
https://e.vnexpress.net/news/news/pm-requests-japan-s-cooperation-in-constructing-north-south-high-speed-railway-4491033.html 
第1章 (jica.go.jp) 第1章 (jica.go.jp)

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘มาเลเซีย’ กวักมือเรียกต่างชาติ ลงทุน ‘อุตสาหกรรมชิป’

‘มาเลเซีย’ กวักมือเรียกต่างชาติ ลงทุน ‘อุตสาหกรรมชิป’

มาเลเซียพยายามจะดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศมากขึ้นเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์หรือชิป เพื่อยกระดับห่วงโซ่คุณค่าในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะชิปที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ามาเลเซียมีสัดส่วนในตลาดโลกสำหรับการบรรจุ…
pin
901 | 09/02/2024
AEC Connect | วีซ่าบ้านหลังที่ 2 ของอินโดนีเซีย มีเกณฑ์อะไรบ้าง?

AEC Connect | วีซ่าบ้านหลังที่ 2 ของอินโดนีเซีย มีเกณฑ์อะไรบ้าง?

อินโดนีเซียประกาศแผนออกโครงการ “วีซ่าบ้านหลังที่ 2 (Second Home Visa)” นับเป็นครั้งแรกสำหรับวีซ่าประเภทนี้ ซึ่งจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถพำนักอยู่ในประเทศได้นานถึง…
pin
1341 | 11/11/2022
AEC Connect | ‘เวียดนาม’ - ‘อินเดีย’ คู่แข่ง หรือ พันธมิตร?

AEC Connect | ‘เวียดนาม’ - ‘อินเดีย’ คู่แข่ง หรือ พันธมิตร?

บรรดาบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ เช่น Apple, Google และ Samsung กำลังขยายการดำเนินงานต่าง ๆ นอกประเทศจีน โดยอินเดียและเวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สดใสด้วยการพึ่งพาโรงงานในจีนอย่างมากทำให้…
pin
1336 | 28/10/2022
AEC Connect | ‘รถไฟความเร็วสูง เหนือ-ใต้’ ฝันที่ไม่ไกลเกินฝันของ ‘เวียดนาม’