หากพูดถึงการลงทุนในอาเซียน นักลงทุนหลายท่านคงนึกถึงการลงทุนประเทศใน CLMV ก่อน เพราะมีพื้นที่ตั้งใกล้กับประเทศไทยและมีบางประเทศอย่าง เวียดนาม ที่มีเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่อีกประเทศที่ไม่ควรมองข้าม คือ สิงคโปร์ที่แม้จะมีขนาดเล็ก แต่มีศักยภาพทางการค้าสูง โดยหนึ่งในภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนประเทศ นั่นคือ ‘ภาคโลจิสติกส์’
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ภาคโลจิสติกส์ของสิงคโปร์ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดอีคอมเมิร์ซและการขยายตัวของการค้าภูมิภาค การเติบโตดังกล่าวสามารถแบ่งออกเป็นข้อสรุปสำคัญ ดังนี้
1. ความต้องการพื้นที่คลังสินค้า: ความต้องการพื้นที่คลังสินค้าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและความจำเป็นในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ
2. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี: การนำเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และการวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุน
3. ความริเริ่มด้านความยั่งยืน: บริษัทต่าง ๆ ในภาคโลจิสติกส์ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น โดยการนำแนวปฏิบัติทางโลจิสติกส์สีเขียวมาใช้เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน
4. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายท่าเรือและศูนย์โลจิสติกส์ ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตของภาคส่วนนี้
โดยรวมแล้ว ภาคโลจิสติกส์ของสิงคโปร์ยังคงมีความยืดหยุ่นและมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่หลายบริษัทเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในภาคโลจิสติกส์ โดยแต่ละรายมีบทบาทสำคัญในการรับประกันการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีประสิทธิภาพ เช่น DHL, UPS Supply Chain Solutions, JUSDA, FedEx, Kuehne + Nagel และDB Schenker และบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ขับเคลื่อนนวัตกรรมและประสิทธิภาพในด้านการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
ในแง่โอกาส ตลาดอีคอมเมิร์ซที่คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จะเพิ่มความต้องการ ‘โซลูชั่นโลจิสติกส์’ ที่มีประสิทธิภาพ, การนำเทคโนโลยีโลจิสติกส์อัจฉริยะ เช่น ระบบอัตโนมัติและการวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน, การลงทุนต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการขยายท่าเรือและศูนย์โลจิสติกส์ จะสนับสนุนการเติบโตของภาคส่วนนี้ และ ทำเลที่ตั้งของสิงคโปร์และการเชื่อมต่อที่ดีทำให้เป็นผู้เล่นสำคัญในด้านการค้าภูมิภาค ซึ่งเปิดโอกาสในการเติบโต
อย่างไรก็ดี ในปี 2568 ภาคโลจิสติกส์ของสิงคโปร์เผชิญกับความท้าทายและโอกาสหลายประการ ได้แก่ 1. การขาดแคลนบุคลากร โดยอุตสาหกรรมโลจิสติกส์กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน 2. การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน โดยความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศและการเปลี่ยนแปลงในกระแสการขนส่งสินค้าเป็นความเสี่ยงต่อความเสถียรของห่วงโซ่อุปทาน 3. ความยั่งยืน โดยความกดดันในการนำแนวปฏิบัติทางโลจิสติกส์สีเขียวมาใช้และลดการปล่อยคาร์บอน
โดยสรุปแล้ว การจัดการความท้าทายและการใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความสำเร็จให้ภาคโลจิสติกส์ของสิงคโปร์ในปี 2568
References:
https://sbr.com.sg/economy/news/singapore-economy-44-in-2024
https://content.mycareersfuture.gov.sg/singapore-industries-list-job-search-mid-career-switch/
https://luwjistik.com/outlook-opportunities-and-challenges-of-the-logistics-industry-in-singapore/
https://markwideresearch.com/singapore-freight-and-logistics-market/