ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “ผลิตภัณฑ์จากบนดอย” ได้ถูกพัฒนาให้เป็นที่รู้จักและมีการสร้างแบรนด์ให้เทียบชั้นผลิตภัณฑ์ทั่วไป
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอัตลักษณ์ของสินค้าที่มีความชัดเจน การนำเสนอผ่านเรื่องราวต่างๆ ที่ทำให้สินค้ามีความน่าสนใจมากขึ้น
รวมทั้งความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการในท้องถิ่น ที่มีความพยามในการทำตลาด การผลักดันสินค้าสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ รวมถึงการส่งออก
ทำให้วันนี้สินค้าจากบนดอยถูกสร้างสรรค์และต่อยอดให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเร็วๆ นี้ โครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ Young Exporter from local to Global (YELG) ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้การดำเนินงานของสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ได้จัดสัมมนาให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์และเทคนิคจาก 3 ผู้ประกอบการที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยอาศัยเรื่องราวจากชาวดอยจนประสบความสำเร็จ และนำพาธุรกิจไปไกลสู่ระดับโลก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
“ไม่หยุดคิด ไม่หยุดพัฒนา ก็จะสามารถไปได้ไกล” เป็นเส้นทางของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติไทยอย่าง “kenkoon” ของบริษัท เคนคูนเอ็กซ์ จำกัด เป็นธุรกิจของครอบครัวสวนศิลป์พงศ์ โดย แมนรัตน์ สวนศิลป์พงศ์ เป็นผู้ผลิตและส่งออกเฟอร์นิเจอร์ให้กับประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย เฟอร์นิเจอร์สำหรับเรือเดินทะเล และเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง โดยนำองค์ความรู้ที่มีมาผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ที่พร้อมไปด้วยการออกแบบและต่อยอดพัฒนารูปแบบงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ Outdoor Living ในแบบฉบับเฉพาะตัวภายใต้แบรนด์ kenkoon
จึงทำให้บริษัท เคนคูน เอ็กซ์ จำกัด เป็นเจ้าแรกที่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งในสไตล์โมเดิร์น ด้วยความแตกต่างของรูปแบบ และวัสดุที่เลือกใช้ จึงก่อให้เกิดกระแสนิยมตามมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจส่งออกผู้ประกอบการจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า รวมไปถึงการปรับปรุงสินค้าและบริการของตน และกล้าที่จะลงมือทำอย่างจริงจัง
“คิดแล้วต้องลงมือทำ
ถึงจุดเริ่มต้นจะยังไม่สำเร็จ แต่อนาคตจะแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราทำว่ามีค่าแค่ไหน”
ข้อคิดของ ฉัตรชัย
วงศ์มานะโรจน์ศรี เด็กหนุ่มที่เริ่มต้นแบรนด์สมุนไพร “ภูตะวัน” ด้วยอายุเพียง
16 ปี จากการทดลองทำสบู่ในวัยเรียนและลองนำสินค้าไปขายกับแม่ที่งาน OTOP อาจจะขายไม่ได้มาก แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสินค้าไปสู่เวทีในระดับสากลได้อย่างมีคุณภาพ
แบรนด์ “ภูตะวัน” มีความมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี รวมถึงพัฒนากระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานสากลระดับโลก รวมถึงการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการปรับเปลี่ยนตามความพึงพอใจให้ของลูกค้า พร้อมที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากความเชื่อในพลังแห่งธรรมชาติ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและดูแลสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน
“ความใส่ใจและพัฒนาสินค้าอยู่เสมอ
ทำให้สินค้าไทยบินไกลสู่ตลาดโลกได้อย่างมีคุณภาพ” ปณชัย พิสัยเลิศ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด กล่าวถึงหลักคิดของตํานานกาแฟอย่างดอยช้าง
"เอกลักษณ์กาแฟไทย สุดยอดกาแฟโลก"
ด้วยพระบารมีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้กลายเป็นสินค้าบินไกลสู่ตลาดโลกได้อย่างภาคภูมิใจ
โดยมีทั้งความแตกต่างของเรื่องราวและพันธุ์ของกาแฟ ที่ชาวต่างชาติได้ลองชิมแล้วต้องบอกว่าติดใจกับรสชาติของกาแฟ
ปัจจุบันบริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด
เป็นผู้ผลิต แปรรูป และจัดจำหน่ายกาแฟดอยช้าง โดยนำ “กาแฟอราบิก้า”
ชนิดพิเศษคุณภาพสูงจากแหล่งผลิตเฉพาะบริเวณดอยช้าง ที่อยู่หมู่บ้านดอยช้าง ต.วาวี
อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ที่คัดสรรเมล็ดพันธุ์ด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ดื่มกาแฟที่
หอม อร่อย โดยช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา
กาแฟดอยช้างมีช่องทางการขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
ทำให้กาแฟดอยช้างเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์
นอกจากนี้ยังมีระบบแฟรนไชส์และร้านกาแฟพันธมิตร
และอีกกว่า 50 สาขาในต่างประเทศ อาทิเช่น แคนาดา
อังกฤษ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ลาว กัมพูชา และ เมียนมา เป็นต้น
เป็นสิ่งที่การันตีได้ว่า
กาแฟดอยช้างเป็นกาแฟระดับพรีเมียมที่นำเสนอให้คอกาแฟคนไทยได้ลอง จนสามารถเติบโตในตลาดโลก
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากผู้ประกอบการที่มีความตั้งใจจริงในการพัฒนาธุรกิจในท้องถิ่นให้เติบโตและต่อยอดสู่ตลาดโลกด้วยการพัฒนาคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้ง