รายงานของ Market Research Future ได้ศึกษาว่า การซื้อสินค้าเทียนหอมของชาวอังกฤษ คิดเป็นมูลค่า 90 ล้านปอนด์ต่อปี ส่งผลให้สหราชอาณาจักรเป็นตลาดเทียนหอมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยปัจจัยของการเลือกซื้อสินค้าเทียนหอมของชาวอังกฤษ นอกจากเพื่อการตกแต่งบ้านเรือนและสถานที่ทำงานแล้ว ยังให้ความสำคัญกับเรื่องกลิ่นของเทียนหอมเพื่อความผ่อนคลายอีกด้วย บริษัทผู้จำหน่ายสินค้าเทียนหอมที่มีชื่อเสียง ในตลาดสหราชอาณาจักร ได้แก่ Prince’s Candles , Stoneglow, Village candle, Wax Lyrical, Yankee candle และ madebyzen
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ปัจจุบันตลาดสินค้าเทียนหอมมีความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพอย่างมาก
และจากการที่หน่วยงาน The Environmental Protection Agency (EPA) ได้ศึกษาเกี่ยวกับวัตถุดิบในการผลิตสินค้า เครื่องหอมที่มีอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค
พร้อมทั้งได้มีคำแนะนำให้ผู้ซื้อหลีกเลี่ยงสินค้าเทียนหอมที่ผลิตด้วยขี้ผึ้งพาราฟิน
(Paraffin wax), กลิ่นสังเคราะห์
(Synthetic fragrances), สีย้อมสังเคราะห์
(dyes) และไส้เทียนทำจาก
lead wick จึงทำให้ผู้ผลิตหันมาใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ทั้งนี้
นอกจากเทียนหอมที่ผลิตจากไขถั่วเหลือง (Soy wax) ซึ่งเป็นที่นิยมและรู้จักกันอย่างแพร่หลายแล้ว
ปัจจุบันตลาดยังเริ่มสนใจนำวัตถุดิบจากธรรมชาติมาใช้ผลิตมากขึ้น เช่น ไขที่ทำจากพืช
Vegetable wax ไขที่ทำจากมะพร้าว
coconut wax รวมถึงการใช้ไส้เทียนทำจากฝ้ายธรรมชาติไม่ฟอกสี
(cotton wick) ส่วนไขที่ทำจากรังผึ้ง
(Bee wax) นั้นเป็นวัสดุธรรมชาติที่ได้รับความนิยม
แต่ไม่เหมาะสมกับตลาดของผู้ซื้อที่จัดอยู่ในกลุ่ม Vegan
เมื่อผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าเทียนหอม
มักจะให้ความสำคัญกับเรื่อง “กลิ่นหอม”
ซึ่งผู้ผลิตสินค้าควรมีความเข้าใจรสนิยมรวมทั้งความต้องการของผู้ซื้อ เช่น เทียนหอมที่มีจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
(Autumn) บริษัท Yakee
Candle ผู้จำหน่ายเทียนหอมที่เป็นที่รู้จักของอเมริกาและบริษัทของอังกฤษ
The Conran ได้แนะนำผลิตภัณฑ์เทียนหอม
Collection ที่มีกลิ่นหอมของ
Fig & Clove, Tonka Bean & Pumpkin เพื่อให้เหมาะสม สอดคล้องกับบรรยากาศของฤดูกาล
ตัวอย่างเช่น ในช่วงเทศกาลคริสมาสต์
ตลาดสินค้าเทียนหอมจะเน้นสินค้าที่มีกลิ่นหอมแบบ Christmas Spice, Cinnamon
& Orange, Frankincens & Myrrh, Redcurrant & Vetiver, Cranberries
& Orange ผู้ซื้อสินค้าเทียนหอมมีความชื่นชอบกับกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมหลายชนิดที่นำมาผสมเข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้ความพิเศษของกลิ่นหอมนั้น
กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์จากบริษัท
ทั้งนี้ ส่วนผสมจากน้ำมันหอม
(essential oil) ที่มีคุณภาพและผลิตจากธรรมชาติของสินค้าเทียนหอม สำหรับตลาดบน
ได้แก่ ยี่ห้อ Uma จะใช้ส่วนผสมของน้ำมันหอม
ที่ผลิตจากฟาร์มเก่าแก่ในประเทศอินเดีย หรือบริษัท Bougie Senteur ใช้น้ำมันหอมที่มีคุณภาพจากเมือง Grasse ประเทศฝรั่งเศส ทำให้กลิ่นหอมจากผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีเอกลักษณ์
และมีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมอยู่เป็นระยะเวลายาวนาน ยี่ห้อเทียนหอมที่มีคุณภาพสูงจะมีส่วนผสมของน้ำมันหอมไม่ต่ำกว่า
10-15 % แต่ถ้าเป็นสินค้าตลาดล่างจะมีส่วนผสมของน้ำมันหอมเพียงแค่
1-2% เท่านั้น
นอกจากนี้คุณภาพของเทียนหอมที่จุดแล้วไม่มีเขม่าควัน (smoke-less) หรือไม่มีน้ำตาเทียน ไหลย้อยลงมา รวมทั้งจุดติดต่อกันได้เป็นเวลานานหลายชั่วโมง สิ่งเหล่านี้นับเป็นปัจจัยสำคัญของการเลือกซื้อสินค้า เทียนหอม รวมทั้งการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของสินค้าเทียนหอมนั้น มีความหลากหลายเหมาะกับ life style ของผู้ซื้อ ตัวอย่างเช่น บรรจุภัณฑ์แบบแก้ว เซรามิค กระป๋องอลูมิเนียม ถูกเลือกนำมาใช้โดยคำนึงถึงการใช้งานที่เหมาะสม เช่น ใช้ในห้องน้ำ ห้องรับแขกภายในบ้าน บนโต๊ะอาหาร สปา โรงแรม ร้านอาหาร สถานฝึกโยคะ หรือ Wellness Centre
ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า สหราชอาณาจักรถือเป็นหนึ่งในตลาดศักยภาพที่มีโอกาสของสินค้าเครื่องใช้และของตกแต่งบ้าน รวมถึงสินค้าเทียนหอม
ซึ่งผู้ผลิตสินค้าเทียนหอมของไทยที่สนใจส่งสินค้าเทียนหอมสู่ตลาดต่างประเทศ
ควรศึกษา ค้นคว้าพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มเป้าหมาย
และนำความคิดสร้างสรรค์มาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนา เช่น “เทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง”
และการออกแบบเทียนหอมที่ใช้ไส้เทียน 3 เส้น
ของบริษัท Triple Wick Candles เพื่อเพิ่มแสงจากเปลวไฟให้สวยงามยิ่งขึ้น
ซึ่งผลิตภัณฑ์สามารถสร้างเอกลักษณ์ของเทียนหอมภายใต้แบรนด์ของบริษัทให้มีความแตกต่างจากคู่แข่งขันได้
รวมทั้งการเลือกใช้เครื่องมือสื่อสารทางการตลาดทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์
สามารถสร้างความเชื่อมโยงให้เกิดขึ้นระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค
สำนักงานส่งเสริมการค้าใน ต่างประเทศ ณ
กรุงลอนดอน