ภายใต้โจทย์ New Normal และการระบาดของไวรัส COVID-19 กำลังจะนำผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ด้านพื้นที่สำนักงานให้เช่าสู่เทรนด์ใหม่ของการทำงาน เข้ามาช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สู่การปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป โดยธุรกิจด้าน Co-working Space แบบปลอดเชื้อและมีการเว้นระยะห่างทางสังคม จะกลายมาเป็นคำตอบของโจทย์ดังกล่าว ต่อยอดจากทิศทางการเติบโตที่มีมาก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโควิด-19
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
การเติบโตของธุรกิจ Co-working Space
Co-working Space เป็นธุรกิจให้เช่าที่นั่งทำงานร่วม
มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน จากที่มีผู้ประกอบการ Co-working Space แบรนด์ต่างประเทศทั้งระดับภูมิภาค และระดับโลกทยอยเข้ามาเปิดและขยายสาขาในกรุงเทพฯ
มากขึ้น รวมแล้วกว่า 23,000 ตารางเมตร และมีแนวโน้มจะเติบโตสูงขึ้นในอนาคต
จากรายงานของเจแอลแอล พบว่า Co-working Space แบรนด์ต่างประเทศในกรุงเทพฯ
ปัจจุบันมีขนาดอยู่ระหว่าง 1,000-3,400 ตารางเมตร
ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในอาคารสำนักงานเกรดเอใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS หรือใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน
MRT ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านี้บางรายยังรุกขยายธุรกิจเพิ่ม
โดยมีการเช่าพื้นที่สำนักงานเพื่อเตรียมเปิดสาขาใหม่ในปีหน้า คิดเป็นพื้นที่รวมกันอีกกว่า
30,000 ตารางเมตร จำนวน Co-working space และเซอร์วิสออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วง
3 ปีที่ผ่านมา มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 40% มีปริมาณพื้นที่รวม 2%
ของปริมาณพื้นที่สำนักงานที่มีอยู่ทั้งหมด จากเพียง 0.5-1% ในปี 2558
แนวโน้มเช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นในเอเชียแปซิฟิก โดยในช่วงระหว่างปี 2557-2560
มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 35.7% สูงกว่าอเมริกาและยุโรปที่มีการขยายตัวในอัตรา 25.7%
และ 21.6% ตามลำดับ
ปัจจัยเกื้อหนุนที่ทำให้เกิด Co-working Space
1. ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีและความยืดหยุ่น : โดยต้องการพื้นที่ทำงานที่มีความเป็นพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Collaborative Workspace) แบบช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ ทำให้รูปแบบการทำงานของผู้ประกอบการและบริษัทใหญ่ๆ
ทั่วโลก มีการเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยคาดว่าตลาด Co-working Space ในเอเชียจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 30% ในปี 2573 จากปัจจุบันที่มีตลาดอยู่ที่
2%
2. อัตราการเติบโตของตัวเลขเอสเอ็มอีในประเทศไทย
: ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง 8-10% ต่อปี
มากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยกว่า 1 ใน 6 มีธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ หรือคิดเป็นกว่า
500,000 ราย โดยเอสเอ็มอีเหล่านี้
ล้วนแต่มองหาสถานที่ทำงานในทำเลที่ดี แต่การเข้าถึงออฟฟิศให้เช่าเกรดเอในกรุงเทพฯ
เป็นไปได้ยากและมีราคาสูง เช่นเดียวกับบริษัทใหญ่ๆ ที่ต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
3. COVID-19 และ New
Normal : จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19
ที่เกิดขึ้น แพร่กระจายไปสู่หลายประเทศทั่วโลกอย่างรวดเร็ว รุนแรง
จนทำให้มีจำนวนติดเชื้อทั่วโลกเกือบ 6 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 3.6 แสนคน ทำให้มนุษย์จำเป็นต้องป้องกันตนเองเพื่อให้มีชีวิตรอด
ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่ผิดไปจากวิถีเดิมๆ จนเกิดความปกติใหม่
หรือฐานวิถีชีวิตใหม่ ภายใต้รูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ที่แตกต่างจากอดีต สืบเนื่องจากมีบางสิ่งมากระทบจนแบบแผนและแนวทางปฏิบัติที่คนในสังคมคุ้นเคยอย่างเป็นปกติและเคยคาดหมายล่วงหน้าได้
ต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีใหม่ภายใต้หลักมาตรฐานใหม่ที่ไม่คุ้นเคย
อันเป็นความหมายของ New Normal ที่เข้ามากระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปในโหมด
Work From Home และ Remote Working
แม้ว่าธุรกิจการให้บริการ Co-working Space จะเริ่มต้นจากแนวคิดในการจับกลุ่มลูกค้าผู้ใช้บริการที่เป็น
ฟรีแลนซ์ กิ๊ก เวิร์กเกอร์ ธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมไปถึงธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็กก็ตาม
แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ยังคงอยู่คู่สังคมมนุษย์ทั่วโลกต่อไป และมีการส่งเสริมให้พนักงานทำงานที่บ้านหรือทำงานแบบรีโมทจริงๆ
แนวโน้มที่ Co-working Space
จะได้รับความนิยมจากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ก็มีความเป็นไปได้มาก เช่นกันที่บริษัทขนาดกลาง-ใหญ่จะใช้เป็นสถานที่ทำงานเสริมของบริษัท/องค์กร
จากความยืดหยุ่นที่มีสูงและไม่มีข้อผูกมัดด้วยสัญญาเช่ายาวเหมือนการเช่าสำนักงานปกติทั่วไป
ผ่านการให้บริการในรูปแบบสมาชิก บริษัท/องค์กรจึงสามารถปรับลดหรือเพิ่มจำนวนที่นั่งในการใช้งานได้ตามต้องการ
และยังมีความเป็นไปได้มากกว่าจะมีการเช่าใช้เป็นที่ทำงานให้กับพนักงานที่ทำงานแบบรีโมทหรือพนักงานที่ไม่จำเป็นต้องนั่งทำงานประจำในออฟฟิศ
เช่น ฝ่ายการขาย ฝ่ายโปรเจคได้ด้วย
ทั้งนี้ผู้ประกอบการให้เช่าสำนักงาน อาจมองไว้เป็นช่องทางในการปรับรูปแบบการลงทุนหรือการทำธุรกิจ
ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนไป ภายใต้สถานการณ์ที่โควิด-19
ยังคงแพร่ระบาด โดยต้องเน้นการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) การฆ่าเชื้อและปลอดเชื้อเพิ่มเติมเข้าไป
เพื่อรองรับความต้องการใช้พื้นที่ที่กำลังจะกลายเป็นพื้นที่ที่คนทำงานต้องการ ภายหลังจากโควิด-19
เข้ามา ช่วยส่งสัญญาณให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ Co-working
Space
แหล่งอ้างอิง https://www.ddproperty.com