มาตรการต้านโควิดกัมพูชากระทบ 5 ด่านชายแดน

ผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยหันมาอยู่บ้าน เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อ ด้วยเหตุนี้ทุกครอบครัวจึงมีการเพิ่มปริมาณการสต๊อกอาหารสำหรับใช้ภายในบ้านเพิ่มขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ "ข้าวสาร" ประเด็นส่งผลให้ประเทศผู้ส่งออกข้าวทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน ต่างพิจารณาทบทวนนโยบายการส่งออกข้าว

หากไล่เรียงไปที่สถานการณ์การระบาดโควิด -19 ในประเทศกัมพูชา ระบุว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อ รักษาหายแล้ว และยังไม่มีผู้เสียชีวิต เทียบกับจำนวนประชากรในกัมพูชาแล้ว ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อย

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

แต่รัฐบาลกัมพูชาให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้อย่างมาก โดยได้มีการออกมาตรการป้องกันและลดการแพร่ระบาดมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้ากัมพูชา 30 วัน นับจากวันที่ 17 มีนาคม 253 การสั่งปิดสถานบันเทิง โรงภาพยนต์ ร้านอาหาร ปิดสถานที่ออกกำลังกาย และพิพิธภัณฑ์ การห้ามชุมนุมทางศาสนา ห้ามจัดแสดงดนตรี ห้ามเข้าชมพระราชวัง และปิดคาสิโนทั่วประเทศ 

และที่สำคัญในด้านการค้า ทางกัมพูชายังประกาศปิดจุดผ่านแดนทุกแห่ง โดยให้รถขนส่งสินค้าผ่านเข้าออกพร้อมพนักงานและเจ้าหน้าที่ไปได้ 2 คน  ซึ่งในจำนวนนี้มีด่านชายแดนที่ติดต่อกับไทย 5 ด่าน คือ

1) ด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ - ช่องจวม อ. อัลลงเวง จ.อุดรมีชัย

2) ด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ - ช่องโอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย

3) ด่านบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว-ปอยเปต อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย

4) ด่านบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี -บ้านตวง อ.กร็อมเรียง จ.พระตะบอง

5) ด่านบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด - บ้านจามเยียม อ.มณฑลสีมา จ.เกาะกง

กระทั้งมีการระงับการส่งออกข้าวในครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชานับได้ว่าเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ประกาศสั่งการห้ามส่งออกข้าวเปลือกและข้าวขาวออกมาอย่างชัดเจน โดยให้มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2563 โดยอนุญาตให้เฉพาะส่งออกข้าวหอมมะลิเท่านั้น ทั้งนี้ประกาศคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ไปจนกว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลาย เพื่อสำรองอาหารให้เพียงพอต่อประชาชนในประเทศ เช่นเดียวกับเวียดนามที่ประกาศไม่รับคำสั่งซื้อชั่วคราวไปก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ในเดือนมีนาคม 2563 มีการส่งออกข้าว 94,449 ตัน เพิ่มขึ้น 62% จากเดือนมีนาคม 2562 ประเภทข้าวที่มีการส่งออกมากที่สุด คือข้าวหอมมะลิ คิดเป็นสัดส่วน 77% และข้าวขาว สัดส่วน 22%

ขณะที่ภาพรวมการส่งออกข้าวในช่วงไตรมาส 1 /2563 กัมพูชามีการส่งออกข้าว 230,948 ตัน เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลักคือ จีน คิดเป็นสัดส่วน 44% หรือปริมาณ 101,345 ตัน รองลงมาคือ สหภาพยุโรป คิดเป็นสัดส่วน 30% และอาเซียน สัดส่วน 12%  

ผลพวงจากการปิดด่านการค้าป้องการโควิด ส่งผลกระทบต่อการค้าไทย-กัมพูชาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผู้ประกอบการของไทยต้องติดตามการใช้มาตรการเฝ้าระวังลดการแพร่ระบาดโควิด -19 อย่างใกล้ชิด

นายปรัชญา สมะลาภา  ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย เปิดเผยว่าการค้าชายแดนโดยรวมขณะนี้ประสบภาวะชะลอตัว เพราะถึงแม้การขนส่งสินค้าจะยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่ความเข้มงวดในการตรวจสอบของปัญหาไวรัสโควิด-19 เข้มงวดมากขึ้น  อาจทำให้การส่งออกชะลอตัว และเกิดปัญหาความแออัดบริเวณด่านชายแดน การค้าขาย การท่องเที่ยว และการลงทุนในกลุ่ม 8 จังหวัดทางภาคตะวันออกได้รับผลกระทบทั้งหมด ทางผู้ประกอบการคาดหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงโดยเร็ว 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 

จับตา! การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนกัมพูชา

อยู่อย่างไร? เมื่อทุนจีนสยายปีกคลุม CLMV