Call to Action หรือ CTA
คือการใช้คำ เสียง หรือตัวอักษร เพื่อทำให้คนที่เห็นโฆษณาทำตาม
เป็นปุ่มในขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้ผู้ชมเข้ามาสู่การคลิก เช่น การสมัครสมาชิก
สั่งซื้อเลย ดาวน์โหลดฟรี เป็นต้น
การทำ CTA ถือว่าเป็นประโยชน์มากในด้านการตลาด เพราะสามารถช่วยให้การตัดสินใจของลูกค้า มีความรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม พอ CTA เข้าสู่โลกออนไลน์ ได้ขยายการทำงานไปถึงส่วนต่างๆ เพิ่ม เช่น เป็นแบนเนอร์ กล่องข้อความ จะเห็นได้ว่าการใส่ CTA ลงไป ทำให้ Conversion Rate เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ผู้ติดตามมีส่วนร่วมกับกิจกรรมมากขึ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
แต่แค่ปุ่ม Call to Action ปุ่มเดียว
หากไม่มีองค์ประกอบอื่นที่จะช่วยกระตุ้นให้คนตัดสินใจคลิกเพิ่มเติม ก็เป็นไปได้ยากที่จะหวังผลลัพธ์ที่ต้องการ
ดังนั้นการสร้าง Call to Action ให้ผู้คนสนใจจึงต้องมี 4
องค์ประกอบสำคัญคือ
1. ความแตกต่าง
โดยปกติเเล้ว
สายตาเราจะมองเห็นจุดที่แตกต่างหรือพื้นที่ส่วนน้อยได้ดีเเละรวดเร็ว เช่น
มีจุดสีดำเล็กๆ อยู่บนกระดาษขาว คนเราก็จะโฟกัสที่จุดดำอันนั้นมากกว่าพื้นที่ขาวส่วนที่เหลือ
จึงควรทำให้ปุ่ม CTA มีความแตกต่างเเละโดดเด่นออกมา
อาจจะส่วนที่เหลือเป็นสีพื้น ปุ่มอาจเป็นสีที่ตัดกันหรือโทนที่เข้มกว่าก็ได้
2. ตัวเลือกที่จำกัดดีที่สุด
ในหนึ่งหน้าไม่ควรสร้างปุ่มให้เยอะ อย่างมากที่สุดไม่ควรเกิน 2 ปุ่มก็พอ ยิ่งมีเยอะ ผู้ชมก็จะยิ่งหลุดโฟกัสไปมากเท่านั้น ดังนั้น One
page One purpose ดีกว่า
3. ให้ภาพเป็นตัวช่วย
เราสามารถใช้ภาพมาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของผู้ชมหรือลูกค้าได้
ไม่ว่าจะเป็นขนาดที่ใหญ่กว่าหรือความหนาของตัวอักษร หรือหากมีหลายตัวเลือก
อาจจะเสริมรายละเอียดไปเลยก็ได้ เพื่อความชัดเจนที่มากขึ้น
4. ทำให้ง่ายและสั้น
ไม่ควรมีขั้นตอนที่เยอะ หรือรุกเกินไป เช่น พอคลิกปุ๊บ กลายเป็นหน้าต่างขอรายละเอียดมากมาย อาจทำให้ลูกค้าเกิดความกลัวและไม่ยอมทำตามขั้นตอนต่อไปก็เป็นได้ ดีที่สุดคือ ทำให้เข้าใจง่ายเข้าไว้ สั้นๆ กระชับได้ใจความ
ทริคสร้าง CTA อย่างไร ให้มัดใจลูกค้า
ใช้เทคนิคไขข้อสงสัย คลายความกังวลของลูกค้า
เหตุที่ลูกค้าไม่กล้ากด CTA อาจเป็นเพราะไม่แน่ใจว่าที่บอกว่าดาวน์โหลดฟรี
หรือสมัครฟรีนั้นฟรีจริงหรือเปล่า
ดังนั้นจึงควรใส่ข้อความที่ช่วยคลายความกังวลของลูกค้าลงไปด้วย เช่น YouTube
ที่จะมีข้อความพร้อมกับ CTA ให้ทดลองใช้ฟรีว่า
ทดลองรับชมฟรี ใน 1 เดือน เป็นต้น เมื่อเราใส่รายละเอียดเหล่านี้ครบถ้วน
ก็จะทำให้ลูกค้าหมดข้อสงสัย และตัดสินใจคลิกได้ง่ายขึ้น
‘กำหนดเวลา’ เพื่อเป็นกรอบในการเร่งเร้า
บางคนเมื่อเห็นข้อความว่าลดวันนี้วันเดียวเท่านั้น! หรือจำกัดสิทธิพิเศษเฉพาะ 10 ท่านแรก
แล้วมักอดใจไม่ไหวเผลอคลิกทุกที ซึ่งการสร้าง CTA ก็สามารถทำได้ด้วยวิธีเดียวกัน
เช่น การกำหนดระยะเวลาในการซื้อ การจำกัดสิทธิ การแสดงสินค้าที่เหลือในสต็อก
หรือแสดงให้เห็นว่ามีคนที่กำลังดูสินค้าชิ้นเดียวกันอยู่กี่คน
เพื่อเป็นการทำให้กระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกกลัวที่จะพลาดบางสิ่งบางอย่างไปนั่นเอง
สร้างความใคร่รู้ด้วยคำถาม
การทำให้ผู้คนอยากรู้อยากเห็นด้วยการตั้งคำถามแม้เป็นวิธีที่ทั่วไปแต่ก็ยังใช้ได้ผลเสมอ
โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคำถามนั้นต้องตรงใจลูกค้า เป็นสิ่งที่เขาต้องการรู้
หรือกำลังประสบปัญหาอยู่ ถ้าคุณตั้งคำถามได้ตรงจุดโดนใจแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าเปอร์เซ็นต์
Take Action มีสูงมาก
คลิกแล้วได้อะไร ดีอย่างไรบ้าง
แน่นอนว่าก่อนที่คนจะตัดสินใจคลิก
หรือทำการสมัครอะไรก็ตาม มักจะต้องรู้ให้แน่ใจก่อนว่า
จะต้องได้บางสิ่งบางอย่างกลับไป ถึงจะยอมคลิก
ดังนั้นการบอกรายละเอียดของสิ่งที่ผู้ชมจะได้รับ เหตุผลที่ควรสมัคร
รวมถึงประโยชน์ที่จะได้ลงไปใน Copywriting เลย ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกสนใจของผู้รับชมได้
Call to Action มีความสำคัญตรงที่เป็นจุดเหนี่ยวไกให้ผู้คนเกิดพฤติกรรม
ซึ่งถือว่าสำคัญมากในการทำการตลาด การทำคอนเทนต์ไม่ควรให้คนที่เห็นแล้วผ่านไปเฉยๆ
แต่ควรกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการ Convert
ให้มาเป็น Lead หรือการ Close ให้มาเป็นลูกค้าก็ดี
แหล่งอ้างอิง : everydaymarketing