นี่เราเข้าใจผิดมาตลอดเลยหรือ?
ว่าอดอาหารหรือการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ทำให้เกิดโรคกระเพาะ
ซึ่งข้อมูลจากโรงพยาบาลรามคำแหง ระบุว่าน้ำย่อยในกระเพาะกัดกระเพาะไม่ได้
เพราะในกระเพาะมีชั้นเมือกเคลือบไว้ทำหน้าที่ปกป้องอยู่ และแท้จริงแล้วสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะนั้น
มาจากเชื้อแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori หรือ H. Pylori) ต่างหาก
ซึ่งเจ้าแบคทีเรียนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย ตั้งแต่แผลในกระเพาะอาหารเรื้อรัง
มะเร็งในกระเพาะ มะเร็งในหลอดอาหาร
รวมไปถึงมะเร็งต่อมน้ำเหลืองบางชนิดอีกด้วย
โดยส่วนใหญ่เชื้อแบคทีเรียนี้จะอาศัยอยู่ที่บริเวณเยื่อบุกระเพาะอาหารเป็นหลัก ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่จะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และทำให้กระเพาะหลั่งกรดมากขึ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
จากการประเมินพบว่า กว่า 50% ของประชากรทั่วโลกมีเชื้อแบคทีเรียตัวนี้อยู่ในร่างกาย โดย 15% ของคนที่มีเชื้อจะมีอาการเกี่ยวกับทางเดินอาหารร่วมด้วย
แต่บางคนก็อาจมีอาการนิดหน่อยไม่เป็นไรมาก
และถ้าพูดถึงคนที่มีแผลในกระเพาะอาหารมีถึง 90%
ที่ติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์
ไพโลไร คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะนั่นเอง แต่จะบอกว่าแบคทีเรียตัวนี้ไม่ได้มีอยู่ในอาหารไหนมากเป็นพิเศษ
ฉะนั้นรับประทานได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด
ปัจจุบันแพทย์สามารถตรวจหาเชื้อแบคทีเรียนี้ในกระเพาะอาหารได้หลายวิธี
เช่น กินยาแล้วตรวจจากลมหายใจ หรือเจาะเลือดตรวจหาภูมิต้านทานต่อเชื้อ
หรือถ้าใครมีแผนจะตรวจร่างกายด้วยการส่องกล้องทางเดินอาหารอยู่แล้วก็ตรวจได้เลย
เพราะตอนส่องกล้อง หมอจะเข้าไปเก็บตัวอย่างเยื่อบุกระเพาะมาตรวจด้วย
ก็จะทำให้ผลตรวจละเอียดขึ้นไปอีก
ซึ่งหลายคนเมื่อเป็นโรคกระเพาะแล้วมักจะเป็นอยู่เรื่อยๆ
ไม่หายสักที บางคนบอกกินอาหารตรงเวลาแล้ว อาการก็ดีขึ้นเดี๋ยวเดียว
อีกสักพักก็กลับมากำเริบอีก
นั่นก็เพราะร่างกายเรายังมีเชื้อแบคทีเรียตัวนี้อยู่ก็เลยไม่หายซักที
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ
การกำจัดเชื้อออกไปให้หมดด้วยการทานยาฆ่าเชื้อตามที่หมอสั่ง
(ยกเว้นบางรายที่ดื้อยา) ซึ่งถ้ากำจัดเชื้อออกไปหมดแล้วไม่ค่อยมีใครกลับไปเป็นซ้ำอีก
นอกจากจะไม่ต้องไปหาหมอรักษาโรคกระเพาะบ่อยๆ
แล้วยังลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
ยกเว้นว่าช่วงที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารอยู่ ถ้ากินข้าวไม่เป็นเวลา กินอาหารไม่สะอาด กินรสเผ็ดจัด ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือกินยาที่กัดกระเพาะ ทำให้น้ำย่อยอาจไปทำร้ายแผลเดิม อาการก็อาจกลับมากำเริบได้เช่นกัน