ฤดูกาลของผลไม้หน้าร้อนมาแล้วค่ะ ตอนนี้ไปไหนๆ ก็จะเจอแต่ผลไม้เต็มท้องตลาด
โดยเฉพาะ “ทุเรียน” ราชาแห่งผลไม้ที่ทุกคนตั้งตารอคอยที่จะกินเพียงปีละครั้งเท่านั้น เพราะกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ไม่มีผลไม้อื่นมาเทียบได้
รวมถึงรสชาติที่หวานมันซึ่งขึ้นอยู่สายพันธุ์ของทุเรียนแต่ละชนิดด้วย จึงทำให้ทุเรียนครองใจของคนรักทุเรียนอย่างเหนียวแน่น
ผลวิจัยพบว่าทุเรียน 1 กิโลกรัม นอกจากให้พลังงาน 174
กิโลแคลอรี่ แล้วยังอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ประกอบด้วยไขมัน
5.33 กรัม คาร์โบไฮเดรต 27.09 กรัม โปรตีน 14.47 กรัม เส้นใย 3.8 กรัม แถมยังประกอบด้วยวิตามิน A B C แคลเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก แมงกานีส โพรแทสเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม และสังกะสี
นอกจากนี้ทุเรียนยังมีสารประกอบซัลเฟอร์หรือกำมะถัน เช่น thiols, thioethers, ester และ sulphides ซึ่งทำให้ทุเรียนมีกลิ่นเฉพาะตัวที่รุนแรง รวมถึงสารสำคัญที่พบในทุเรียนคือสารในกลุ่มคาโรทีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ และโพลีฟีนอล
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
จะเห็นได้ว่าทุเรียนเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง มีแป้งและไขมันค่อนข้างสูง
ซึ่งกินแล้วทำให้อ้วนได้ง่าย จึงมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่นโรคอ้วน
เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ถ้าเป็นประเภททุเรียนเลิฟเวอร์ที่ยับยั้งใจไม่ได้แล้วสามารถกินได้เพียงวันละ
1-2 พูเท่านั้น
ในความอร่อยของทุเรียนแม้จะซ่อนอันตรายต่อสุขภาพเอาไว้พอสมควร
แต่ก็ยังมีประโยชน์อื่นๆ ต่อร่างกายมากมายแอบแฝงด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการหลายอย่างที่เป็นอาหารบำรุงผิวพรรณความสวยความงามซึ่งน่าจะโดนใจสาวๆ
วันนี้นอกจากกินทุเรียนให้อร่อยแล้ว
ขอแนะนำว่ากินทุเรียนเถอะค่ะแล้วคุณจะสวยอร่อยอย่างเลอค่าด้วยทุเรียน
ทุเรียนอุดมด้วยอาหารสำหรับผิว
ในเนื้อทุเรียนนั้นประกอบไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่เป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก รวมถึงวิตามิน A B C ซึ่งแร่ธาตุและวิตามินเหล่านี้เป็นอาหารบำรุงชั้นดีที่ผิวต้อการ
โดยเฉพาะวิตามิน B ช่วยให้สุขภาพผิวดี
ช่วยให้ไม่ให้เกิดผื่นคัน ส่วนวิตามิน C ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
ชะลอการเกิดริ้วรอยบนผิวหนัง ลดการอักเสบของผิวหนัง และกระตุ้นการสร้างคอลาเจนในร่างกาย
ดังนั้นจึงมีบริษัทเครื่องสำอางบางแห่ง ผลิตเจลหรือครีมที่สกัดจากทุเรียนเพื่อบำรุงผิวพรรณ
รวมถึงมีสูตรมาร์คหน้าเพื่อบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น
ทุเรียนช่วยให้ผมสวย เล็บสวย
ใครจะเชื่อว่ากินทุเรียนในปริมาณที่พอเหมาะเป็นประจำจะช่วยให้ผมไม่หงอกเร็ว
เนื่องจากทุเรียนมีวิตามิน B9 หรือที่เรียกอีกชื่อว่า
โฟเลต (Folate) หรือ กรดโฟลิค (Folic acid) เจ้าวิตามินตัวนี้มาร่ายมนตร์ช่วยลดการเกิดผมหงอกก่อนวัยอันควร
ส่วนวิตามิน B2 ซึ่งนอกจากจะช่วยบำรุงสายตาแล้ว
ยังเป็นตัวช่วยให้ผิว เส้นผม และเล็บแข็งแรงอีกด้วย
ทุเรียนกลิ่นแรงแต่ดี
เพราะ “กำมะถัน” ที่เป็นตัวทำให้ทุเรียนมีกลิ่นที่รุนแรงนั้น
ในตำราแพทย์แผนไทยทุเรียนถูกจัดเป็นผลไม้ออกฤทธิ์ร้อน หมายถึงกินมากๆ
แล้วทำให้ร้อนในปากเป็นแผลได้ แต่ตรงกันข้ามเจ้ากำมะถันก็ถูกจัดให้เป็น “ Beauty Mineral” หรือแร่ธาตุแห่งความงาม
ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่มีอยู่ในเล็บ ผมและผิวหนัง ตอบโจทย์ให้ผมสวยเงางาม
ผิวเนียนนุ่มมีออร่าเปล่งประกาย นอกจากนี้กำมะถันยังทำหน้าที่ร่วมกับวิตามิน B1 และ B5 ก็มีประโยชน์มหาศาลต่อผิวพรรณ
ทุเรียนช่วยให้สิวแห้งเร็ว
ประโยชน์ของกำมะถันอีกแล้วค่ะ เพราะคุณสมบัติของกำมะถันอีกอย่างคือทำให้สิวแห้งเร็ว ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออกจากรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าสะอาดใสไร้สิว มีสูตรลับใช้ทุเรียนพอกหน้ากำจัดสิวเสี้ยนกระชับผิวหน้ามาฝาก ใช้เนื้อทุเรียนห่ามๆ 3-5 ช้อนโต๊ะ ผสมกับดินสอพอง เติมน้ำสะอาด (หรือจะใส่โยเกิร์ตและน้ำผึ้งก็ได้) ให้ส่วนผสมเหลวพอประมาณ นำมาพอกหน้า 15-20 นาที จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและปิดรูขุมขนด้วยน้ำเย็น จะทำให้ผิวสะอาดปราศจากสิวอุดตันและผิวหน้าเนียนนุ่มอีกด้วย
แม้ทุเรียนจะตอบโจทย์ด้านความงาม แต่อย่างไรขอแนะนำให้กินในปริมาณที่พอดี เพราะถ้ากินทุเรียนในปริมาณ 4-6 เม็ด เทียบเท่ากับดื่มน้ำอัดลมถึง 2 กระป๋องที่ให้พลังงาน 400 กิโลแคลอรี่ จะทำให้อ้วนได้ง่าย