คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
หรือโควิด-19
สร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจไม่เพียงแค่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น
แต่ยังลามทั่วโลกอย่างหนักหน่วง และหากโฟกัสมาที่ประเทศไทย
การเติบโตของเศรษฐกิจชะงักงันลงทันที
โดยธนาคารแห่งประเทศไทยมีมติปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ลง
เป็นติดลบ 5.3% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.8% และคาดว่าปีหน้า จะขยายตัว 3%
ทั้งนี้เกือบทุกภาคธุรกิจล้วนได้รับผลกระทบ โดยภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอันดับแรกๆ และน่าจะอยู่ในภาวะชะลอตัวนาน คือภาคธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ขาดรายได้ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัว เพื่อความอยู่รอด ด้วยการพัฒนาสินค้าท้องถิ่น เพิ่มช่องทางการตลาดผ่านทางออนไลน์ เพื่อให้สินค้าเข้าไปหาผู้บริโภคถึงที่ โดยที่ไม่ต้องมาเลือกซื้อในสถานที่ท่องเที่ยว
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ
ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า
เพื่อเป็นการช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวท้องถิ่นอย่างเร่งด่วน ในช่วงที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทาง
อพท.ในส่วนของสำนักงานพื้นที่พิเศษ จึงเป็นสื่อกลางช่วยผู้ประกอบการร้านค้าและชุมชน
นำสินค้าและบริการมาโพสต์จำหน่ายในเพจและเว็บไซต์ของสำนักงานพื้นที่พิเศษ
โดยนำร่องที่สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง
ซึ่งได้พัฒนา Platform การจำหน่ายสินค้าแบบชั่วคราว
บนเว็บไซต์ www.smartactivebeach.dasta.or.th ให้แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก
ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ได้มาลงทะเบียนและนำเสนอสินค้า
เป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ในสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
ซึ่งจะนำไปสู่การค้าขายแบบออนไลน์ต่อไป
ขณะที่สำนักงานพื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร หรือ อพท.4
เปิดให้ผู้ประกอบการร้านค้าชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่หดตัวนำสินค้าและบริการต่างๆ
เช่น อาหารปรุงสำเร็จ ข้าวสารอาหารแห้ง ผักสด งานหัตถกรรมต่างๆ หน้ากากผ้า เป็นต้น
โดยสามารถนำข้อมูลพร้อมภาพสินค้าใส่เข้ามาในกล่องข้อความเฟซบุ๊ก
ชื่อว่า “อพท.4” เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางหน้าร้านและเป็นสื่อกลางในการขายสินค้า
กรณีมีผู้สนใจให้ผู้ขายนำส่งสินค้าในรูปแบบเดลิเวอรี่
หรือจัดส่งทางไปรษณีย์หรือระบบขนส่งตามความเหมาะสม
“ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การจัดให้มีช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าและบริการของท้องถิ่น ทั้งประเภทสินค้าบริโภคและอุปโภคมานำเสนอขาย เพื่อให้เกิดรายได้หมุนเวียน พืชผักและของสดก็จะไม่เน่าเสียหาย กลุ่มเป้าหมายก็จะมีทั้งประชาชนในพื้นที่ ประชาชนนอกพื้นที่ หรือผู้ประกอบการที่ต้องการรับไปจำหน่ายต่อ ได้เกิดการรับรู้ของดีของเด่นในพื้นที่พิเศษ และนำมาซึ่งการตัดสินใจซื้อ หากผลตอบรับดี ก็มีนโยบายให้พื้นที่พิเศษอื่นๆศึกษาและนำไปดำเนินการเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม
เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ประกอบการอาจจะพัฒนาช่องทางการขายผ่าน
เว็บไซต์ หรือเพจของตัวเอง เพื่อสร้างรายได้ 2 ช่องทาง ทั้งในช่องทางเดิม คือขายในแหล่งท่องเที่ยวและขายผ่านออนไลน์ได้ด้วย