เดือนสุดท้ายไฮซีซั่น! ชวนดำน้ำดูปะการัง ชื่นชมความงามทะเลสีคราม เกาะดังฝั่งอันดามัน ก่อนปิดอุทยานแห่งชาติทางทะเล

Edutainment
06/05/2022
รับชมแล้วทั้งหมด 2906 คน
เดือนสุดท้ายไฮซีซั่น! ชวนดำน้ำดูปะการัง ชื่นชมความงามทะเลสีคราม เกาะดังฝั่งอันดามัน ก่อนปิดอุทยานแห่งชาติทางทะเล
banner
‘พฤษภาคม’ เดือนสุดท้ายของช่วงไฮซีซั่น ก่อนที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลหลายแห่งจะปิดพื้นที่เป็นระยะเวลากว่า 5 เดือน เนื่องจากเข้าสู่ช่วงมรสุม และเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. เป็นต้นไป ดังนั้น Bangkok Bank SME จึงขอเชิญชวนท่านผู้อ่านไปดำน้ำดูปะการัง ชื่นชมความงามทะเลสีคราม เกาะดังฝั่งอันดามัน ของ 4 อุทยานแห่งชาติ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา และอุทยานแห่งชาติตะรุเตา 



1. แหล่งดำน้ำอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์

โดยอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามันห่างจากฝั่งไปทางทิศตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ, เกาะสุรินทร์ใต้, เกาะไข่ (เกาะตอรินลา), เกาะกลาง (เกาะปาจุมบา) และเกาะรี (เกาะสต๊อก) ซึ่งแต่ละเกาะจะมีความสวยงามและเสน่ห์แตกต่างกันไป หากแต่สิ่งที่ทุกเกาะมีเหมือนกัน นั่นคือ นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้ดำดิ่งไปกับความสวยงามใต้ท้องทะเล ควบคู่ไปกับการเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนมอแกน เหล่านี้ทำเอาคุณตกหลุมรักได้ไม่ยาก

จุดดำน้ำชื่อดัง
- อ่าวช่องขาด
- อ่าวแม่ยาย
- อ่าวไม้งาม


 

สำหรับคนชอบสนอร์เกิล (Snorkel) หรือการดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นแล้ว ทุกคนรู้เลยว่าสักครั้งในชีวิตจะต้องฝ่าคลื่นลมกลางทะเล เพื่อมาสัมผัสโลกใต้ผืนน้ำสีครามที่งดงามของหมู่เกาะสุรินทร์ และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังน้ำตื้น ที่มีมากมายทั้งในเกาะสุรินทร์เหนือและเกาะสุรินทร์ใต้ ที่นี่จึงเป็นแหล่งดำน้ำระดับแถวหน้าของเมืองไทย

โดยสภาพแวดล้อมทางสมุทรศาสตร์ของบริเวณหมู่เกาะเหล่านี้เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการพัฒนาของแนวปะการังคือ น้ำใส อุณหภูมิพอเหมาะ มีแสงแดดส่องถึงในปริมาณที่พอดี และมีการผสมผสานของน้ำที่ได้รับสารอาหารจากมวลน้ำเบื้องล่างที่ปะทะเกาะ ความอุดมสมบูรณ์ของแพลงก์ตอนซึ่งเป็นอาหารสำหรับปลาและสัตว์อื่นๆ ทำให้ทะเลรอบๆ หมู่เกาะสุรินทร์นั้นหนาแน่นด้วยแนวปะการังน้ำตื้นที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก จนได้รับยกย่องว่าเป็นแหล่งกำเนิดของแนวปะการังน้ำตื้นขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย



2. แหล่งดำน้ำอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

สิมิลัน เป็นภาษายาวี ซึ่งแปลว่า ‘เก้า’ ซึ่งมาจากจำนวนของเกาะน้อยใหญ่ทั้งหมดที่มารวมกันเป็น หมู่เกาะสิมิลันนั่นเอง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา ที่นี่ยังได้รับการขนานนามให้เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำอีกแห่งในไทย และเป็นหนึ่งในสุดยอดทะเลไทยที่สวยงามติดอันดับ มีทั้งปะการังหลากสีสัน ฝูงปลา และที่จัดว่าหาชมได้ยากอย่างโลมา ในขณะที่บนฝั่งนั้นก็รายล้อมไปด้วยหาดทรายเนียนละเอียดนุ่มเท้า จนชาวโลกยกย่องให้หมู่เกาะแห่งนี้มีความงดงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก 
โดยหมู่เกาะสิมิลันเป็นหมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลอันดามัน มี 9 เกาะ เรียงจากเหนือมาใต้ คือ

1. เกาะหูยง มีหาดทรายที่ยาวที่สุดใน 9 เกาะ ซึ่งเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลด้วย 
2. เกาะปายัง 
3. เกาะปาหยัน 
*พื้นที่บริเวณโดยรอบของเกาะหนึ่ง สอง และสาม หรือเกาะหูยง เกาะปายัง และเกาะปาหยัน ได้ถูกสงวนให้เป็นพื้นที่วางไข่ของเต่าทะเล ห้ามนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะโดยเด็ดขาด



4. และ 5. เกาะเมี่ยง มีสองเกาะติดกัน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ มีปูไก่ สัตว์ที่หาชมได้ยาก และนกชาปีไหน มีหาดทรายที่สวยงาม 2 หาด 
6. เกาะปายู 
7. เกาะหัวกะโหลก เป็นเกาะที่มีลักษณะคล้ายหัวกะโหลก มีปะกะรัง ปลากระเบนราหู หุบเขาใต้น้ำ 
8. เกาะสิมิลัน มีขนาดใหญ่สุด เป็นแหล่งดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก ชมปะการังและสัตว์ทะเลนานาชนิด จุดชมวิวหินเรือใบ 
9. เกาะบางู จุดดำน้ำ ชมกองหินใต้น้ำ กองหินคริสต์มาสพอยต์ ต่อมาได้มีการรวมเอาเกาะตาชัยมาอยู่ในหมู่เกาะสิมิลันด้วย ซึ่งเกาะตาชัยนั้น เป็นเกาะที่มีความสวยงาม หาดทรายขาวสะอาดน่าเล่นน้ำ และมีปูไก่ให้ชมด้วย



3. แหล่งดำน้ำอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ซึ่งประกอบด้วยเกาะ 25 เกาะ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเกาะรอก กลุ่มเกาะห้า(ตุกนลิมา) กลุ่มเกาะไหง กลุ่มเกาะลันตา

แหล่งดำน้ำ

หินแดง

หนึ่งแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลัน มีลักษณะเป็นภูเขาและเป็นแนวหินที่โผล่มาเหนือน้ำทะเลอันดามัน โดยชื่อหินแดงมาจากสีของปะการรังอ่อนเมื่อต้องแสงพระอาทิตย์ มีระดับความลึกอยู่ที่ 6 - 50 เมตร ทัศนวิสัยใต้น้ำ 12 - 30 เมตร มีปะการังชนิดต่างๆ ที่สวยงามเหมาะสำหรับการดำน้ำ ซึ่งสามารถดึงดูดนักดำน้ำลึกได้เป็นอย่างดี สิ่งที่โดดเด่นของหินแดงคือ รอบกองหินปกคลุมไปด้วยปะการังอ่อนสีชมพูและสีม่วงอยู่ทั่วไป มีดอกไม้ทะเล กัลปังหาเหลืองและแดง สัตว์ทะเลขนาดเล็ก เช่น ปลาการ์ตูน ม้าน้ำ ปลาจิ้มฟันจระเข้ กุ้งพยาบาล ปลาปักเป้าเหลืองจุดดำ ปลาสาก ฉลามเสือดาว ฉลามสีเทาและฉลามวาฬ 

เกาะห้า

ตั้งอยู่ระหว่างเกาะพีพี หินแดงและหินม่วง ใช้เวลาเดินทางจากเกาะลันตามาประมาณ 1 ชั่วโมง หนึ่งในเกาะห้าหรือที่เราเรียกว่า เกาะห้าใหญ่ มีชายหาดเล็กๆ สามารถพักผ่อนและนอนอาบแดดได้อย่างดี เป็นหมู่เกาะซึ่งมีจำนวน 5 เกาะ มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำตรงกลาง คล้ายทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยแก่งหินขนาดใหญ่ทั้งห้า ที่โอบล้อมเป็นวงกลม บริเวณรอบเกาะสามารถพบแนวปะการังน้ำตื้น ระดับความลึกตั้งแต่ 18 เมตร จนถึงประมาณ 34 เมตร จึงเหมาะเป็นสถานที่ที่สามารถดำน้ำลึกและดำผิวน้ำชมปะการังได้อย่างดี ด้านทิศตะวันตกของเกาะห้า มีกองหินขนาดหใหญ่และปะการังอ่อนขึ้นอยู่ทั่วพื้นที่ และอาจจะเจอปลาไหลสวนที่อาจมุดอยู่ใต้พื้นทราย คอยชูคอออกดักอาหารอยู่ทั่วไป

 

เกาะลันตา

ดำดิ่งลงใต้โลกแห่งท้องทะเลของเกาะลันตา พิสูจน์ความสวยงามของทะเลอันดามัน ซึ่งกิจกรรมดำน้ำลึกได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทะเล และชอบความท้าทายอันน่าสนุกสนาน เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งสถานที่ดำน้ำซึ่งมีชื่อเสียงอันโด่งดังไปทั่วโลกมีความสวยงาม ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้น้ำอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งสัตว์น้ำขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงปะการังหลากหลายสายพันธุ์ 

เกาะรอก

ประกอบด้วย 2 เกาะคือ เกาะรอกนอก และเกาะรอกใน ซึ่งทั้งสองเกาะขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นบนบก ที่มีหาดทรายขาวละเอียด กับความเจียวขจีของต้นไม้ริมชายฝั่ง หรือใต้ท้องทะเลที่ใสแจ๋วจนมองเห็นพื้นผิวด้านล่าง สมดังฉายา ‘ราชินีแห่งอันดามัน’ สำหรับใครที่ชอบโลกใต้ทะเล เกาะรอกเป็นอีกเกาะหนึ่งที่มีจุดดำน้ำตื้นน่าสนใจหลายๆ จุด ซึ่งนอกจากน้ำทะเลจะใส ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการังและหมู่ดอกไม้ทะเล รวมไปถึงเหล่าปลาเล็กปลาน้อย ปลาการ์ตูน อีกจำนวนมาก เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ใต้ทะเลที่ไม่รู้ลืม

เกาะไหง

อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์แห่งอันดามันใต้ เปรียบเป็นเกาะในสองท้องทะเล อันได้แก่ ท้องทะเลลันตา และท้องทะเลตรัง แวดล้อมด้วยเกาะเล็กๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งอันดามัน ได้แก่ เกาะเชือก, เกาะม้า เกาะแหวน และเกาะมุก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสถานที่ที่โดดเด่นในเรื่องการดำน้ำดูปะการังอ่อนและดอกไม้ทะเล รวมไปถึงเป็นแหล่งอาศัยของเหล่าฝูงปลาหลากหลายสีสันสวยงาม



4. แหล่งดำน้ำอุทยานแห่งชาติตะรุเตา

อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของเมืองไทย ห่างจากตัวเมืองจังหวัดสตูลประมาณ 40 กิโลเมตร มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์และความสวยงามของธรรมชาติ อีกทั้งยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Parks and Reserves) อีกด้วย

อุทยานแห่งชาติตะรุเตาประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวน 51 เกาะ มีเกาะขนาดใหญ่ 7 เกาะได้แก่ เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลาง เกาะบาตวง และเกาะบิสสี แบ่งออกเป็น 2 หมู่เกาะใหญ่ คือหมู่เกาะตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง-ราวี โดยความสวยงามของอุทยานแห่งชาติตะรุเตานั้นมีครบครัน ทั้งในทะเล หาดทราย และในป่า สามารถชมความงามของทิวทัศน์สวยๆ ชมโลกใต้ทะเล สัตว์ป่า พันธุ์พืช และบรรยากาศอันน่าประทับใจตามสถานที่ต่างๆ



จุดดำน้ำขึ้นชื่อ

เกาะอาดัง

คำว่า ‘อาดัง’ มาจากคำเดิมในภาษามลายูว่า ‘อุดัง’  มีความหมายว่า ‘กุ้ง’ เพราะบริเวณนี้เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้งทะเลมีเนื้อที่เกาะประมาณ 30 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่มีหาดทรายละเอียดสวยงาม  รอบเกาะมีเกาะเล็กๆ หลายเกาะ โดยเกาะอาดังเป็นเกาะที่เหมาะสำหรับการดำน้ำ ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูง มีระบบนิเวศป่าที่สมบูรณ์ เกาะอาดังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีความสมบูรณ์ไม่อนุญาตสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรภายในเกาะนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตาเพื่อเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก และจุดชมวิวที่สวยงามบนเกาะได้

เกาะราวี

อยู่ห่างจากเกาะอาดังเพียงหนึ่งกิโลเมตร โดยเกาะราวีมีหาดทรายสวยงาม น้ำทะเลใส เงียบสงบ เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ ต.ต.6 (หาดทรายขาว) บนเกาะไม่มีที่พัก นักท่องเที่ยวนิยมแวะที่เกาะราวีเพื่อพักผ่อนเล่นน้ำ ดำน้ำชมปะการังที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาได้หลายเกาะ

เกาะหลีเป๊ะ

แหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งพักผ่อนและแหล่งดำน้ำดูปากะรัง ทั้งดำน้ำตื้น - น้ำลึก โดยมีชายหาดที่สวยงามทั้งหมด 4 หาดด้วยกัน ได้แก่ หาดซันไรซ์, หาดซันเซ็ท, หาดพัทยา (หาดบันดาหยา) และหาดคาร์มา โดยแต่ละหาดมีเม็ดทรายสีขาวเนียนละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋ว สามารถมองเห็นโขดหินรวมถึงแนวปะการังได้จากบนผืนน้ำ และเป็นที่ตั้งของที่พักรีสอร์ทบรรยากาศดีหลายแห่ง อาทิเช่น ‘บันดาหยา รีสอร์ท’ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำสนุกๆ ให้ทำเพียบ เช่น พายเรือคายัค พายเรือแคนู ว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือจะนอนอาบแดดชิลๆ ริมหาดก็ได้เช่นกัน



 




แหล่งอ้างอิง : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช




Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ตรุษจีนยุคใหม่ไร้ Foodwaste เคลียร์ของไหว้เป็นเมนูเด็ด แถมลดโลดร้อน

ตรุษจีนยุคใหม่ไร้ Foodwaste เคลียร์ของไหว้เป็นเมนูเด็ด แถมลดโลดร้อน

ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นประเด็นที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะยิ่งนับวัน การคืบคลานเข้ามาของสภาวะโลกร้อนที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหลายภาคส่วน…
pin
761 | 07/02/2024
‘เวียดนาม’ โตไวในธุรกิจรักษ์โลก ไทยอยู่อันดับเท่าไหร่ในตลาดอาเซียน

‘เวียดนาม’ โตไวในธุรกิจรักษ์โลก ไทยอยู่อันดับเท่าไหร่ในตลาดอาเซียน

จากข้อมูลโดย ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (sdgmove)  ระบุว่า เดือนเมษายน ปี 2565 ที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามเผยแพร่ยุทธศาสตร์ชาติ…
pin
10589 | 26/10/2023
#กินเจ2566 เช็ค 8 สถานที่ใกล้ตัว งาน‘เทศกาลกินเจ 2566’ อิ่มท้อง อิ่มใจ ได้บุญ

#กินเจ2566 เช็ค 8 สถานที่ใกล้ตัว งาน‘เทศกาลกินเจ 2566’ อิ่มท้อง อิ่มใจ ได้บุญ

ช่วงเวลาของสายบุญ ที่จะเวียนมาปีละครั้ง สำหรับเทศกาลกินเจ หรือ ประเพณีถือศีลกินผัก ตามประเพณีแบบลัทธิเต๋า รวม 9 วัน โดยกำหนดวันตามจันทรคติ…
pin
13107 | 03/10/2023
เดือนสุดท้ายไฮซีซั่น! ชวนดำน้ำดูปะการัง ชื่นชมความงามทะเลสีคราม เกาะดังฝั่งอันดามัน ก่อนปิดอุทยานแห่งชาติทางทะเล