เขียนธรรมนูญครอบครัวให้ประสบความสำเร็จ เริ่มต้นอย่างไร? ให้ไร้ข้อขัดแย้งระหว่างสมาชิกในธุรกิจครอบครัว
สิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่างธุรกิจทั่วไป กับ ธุรกิจครอบครัว (Family Business) ที่เห็นได้ชัด คือธรรมนูญครอบครัว ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการและบริหารสมาชิกในครอบครัว ทั้งด้านการสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบระหว่างสมาชิก ลดข้อพิพาท และป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งกำหนดกฎ กติกา เงื่อนไข สร้างความโปร่งใสในการทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจครอบครัวให้ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน
ตัวอย่างรูปแบบของการบริหารธุรกิจครอบครัว โดยใช้ ธรรมนูญครอบครัว
ธุรกิจครอบครัวแบบอาณาจักร (Monarch Family Business) นับเป็นธุรกิจครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นหลัก ดำเนินธุรกิจมาหลายชั่วคนมีความสัมพันธ์ระหว่างกันอยู่มาก เป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ให้ความสำคัญกับจารีตประแพณีแบบดั้งเดิม เน้นความประหยัดมัธยัสถ์ ความเคารพ และความกตัญญูต่อกัน
จากการที่ธุรกิจครอบครัวแบบอาณาจักร ประกอบด้วยกลุ่มครอบครัว และสมาชิกจำนวนมาก ดังนั้น “กาวใจ” ที่จะใช้ยึดเหนี่ยวแต่ละครอบครัวในอาณาจักรได้อย่างเหนียวแน่น ย่อมต้องเป็น “ธรรมนูญครอบครัว” ซึ่งได้กำหนดแนวทางที่สำคัญ ๆ และวิธีการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนค่านิยมที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวบางประการ
อย่างไรก็ตาม กว่าจะสร้างธรรมนูญครอบครัวเวอร์ชั่นครอบครัวตนเองสำเร็จได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นกระบวนการที่สร้างความกังวลจากความเชื่อ วิถีปฏิบัติ และเหตุผลที่ว่า ทำไมธรรมนูญครอบครัวจึงมีความสำคัญและเป็น “กาวใจ” ของครอบครัว มีดังนี้
เกี่ยวข้องกับประเด็นอ่อนไหว
สำหรับธุรกิจครอบครัว อาจจะมีประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวกับเงินทอง ทรัพย์สิน ค่านิยม สมาชิกภาพของครอบครัว การสืบทอดกิจการ ตลอดจนการเสียชีวิตของสมาชิก ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่จะต้องบรรจุไว้ในธรรมนูญครอบครัว เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
แต่ในทางปฏิบัติ เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นประเด็นที่มีความเปราะบาง หนำซ้ำบรรดาพ่อแม่ หรือคนรุ่นก่อนหน้ามักจะพบว่า การอภิปราย หรือถกเถียงกัน ย่อมจะสร้างความยุ่งยากและสร้างความกระอักกระอ่วนให้เกิดขึ้น ดังนั้น ประเด็นคือ เราจะทำให้สมาชิกครอบครัว ตระหนักถึงโครงสร้างระดับฐานรากของธรรมนูญครอบครัว (เช่น กฎเกณฑ์ของครอบครัว หรือแม้แต่ประเด็นอ่อนไหวข้างต้น ฯลฯ) ได้อย่างไร? และจะช่วยกันขจัด หรือลดความขัดแย้ง ขณะที่มีประเด็นจะต้องถกเถียง หรืออภิปรายกันอย่างหน้าดำหน้าแดง ราวกับเป็นสนามรบได้อย่างไร?
ใช้ที่ปรึกษา ‘คนกลาง’ ทลายภูเขาน้ำแข็ง ลดความขัดแย้งระหว่างกัน
ด้วยสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเช่นนี้ ครอบครัว จึงควรต้องมีบุคคลที่สาม หรือที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัวที่มีความเป็นกลาง เข้ามาช่วยรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะประเด็น หรือสถานการณ์ที่เปราะบางของครอบครัว เพราะเมื่อเริ่มกระบวนการในการสร้างธรรมนูญครอบครัวอย่างราบรื่น ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องได้รับ “การละลายภูเขาน้ำแข็ง” กันเสียก่อน เพื่อให้การ “เปิดประเด็น เปิดใจ เปิดเวที” เป็นไปอย่างราบรื่น
เนื่องด้วยกระบวนการดังกล่าว ต้องเกี่ยวข้องกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว อีกทั้งทุกคนจะต้องถูกถามถึงความเช้าใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน ความต้องการ/เป้าหมายของครอบครัวกันแบบส่วนตัว เพื่อนำมาประมวลผลในภาพรวมและสะท้อนถึงความต้องการ ตลอดจนทิศทางของครอบครัวที่จะเดินหน้าต่อไป
นอกจากนี้ สำหรับการสืบทอดกิจการ ยังถือเป็นประเด็นหลักที่สำคัญของธรรมนูญครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่เป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Family Business) ซึ่งมีความเป็นผู้ประกอบการสูง แต่เน้นที่ธุรกิจเป็นหลัก มีความสัมพันธ์กันแบบหลวม ๆ มีความหลากหลาย มีเอกลักษณ์ และเป็นอิสระ มีภาวะผู้นำสูง กล้าเสี่ยง และมักจะมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ อยู่เสมอ ธุรกิจครอบครัวในกลุ่มนี้ จะมีผู้นำธุรกิจครอบครัวที่เป็นผู้อาวุโสมาคอยกำกับ หรือเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ
ค่านิยมที่มีร่วมกัน
หนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จของการสร้างธรรมนูญครอบครัว คือ การพูดคุยเกี่ยวกับค่านิยมที่มีร่วมกันระหว่างสมาชิกครอบครัว เพราะคนเหล่านี้เป็นพื้นฐานของทุกสิ่ง ทั้งนี้ ประเด็นที่พูดคุยกันเพื่อสร้างธรรมนูญครอบครัว ได้แก่
• จุดยืนของธุรกิจครอบครัวคืออะไร
• กลยุทธ์คืออะไร
• วิสัยทัศน์คืออะไร
• ทิศทางที่ต้องการนำพาครอบครัวต่อไปในอนาคตคือที่ใด
ด้วยว่าธรรมนูญครอบครัวนั้น จะถูกกำหนดและสร้างขึ้นจากค่านิยมของครอบครัว ซึ่งสมาชิกครอบครัวทุกคนได้หยิบยกมาอภิปรายกันในที่ประชุม แม้จะมิได้เป็นข้อผูกมัดทางกฎหมาย ทว่า เนื้อหาในธรรมนูญครอบครัวนั้น ได้สะท้อนข้อตกลงที่สำคัญกับครอบครัว และมีความหมายถึงการจัดการตามกฎหมาย รวมทั้งการสร้างและสถาปนาโครงสร้างองค์กร
อย่างไรก็ตาม แม้ธรรมนูญครอบครัวจะมีเนื้อหาครอบคลุมหลายประเด็น แต่ก็ไม่จำเป็นต้องบรรจุเนื้อหาทุกประเด็น นอกจากนี้ บางครอบครัวก็ยังมี “กฎบ้าน” (House Law) ใช้ควบคู่กัน เพื่อทำให้การสืบทอดธุรกิจ และ ค่านิยมกับทายาทธุรกิจรุ่นต่อไปด้วย
ไม่ผูกพันทางกฎหมาย แต่ผูกใจทั้งครอบครัว
แม้ธรรมนูญครอบครัวจะไม่มีผล “ผูกพัน” ทางกฎหมาย ทว่า มีความสำคัญอย่างมากสำหรับครอบครัวที่มีรายได้สูง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับครอบครัวผู้ประกอบการ เพราะหากสร้างธรรมนูญครอบครัวเสร็จ และยังมีการ Update กันตามวาระที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง ที่นี่ ก็จะกลายเป็นที่ “ผูกใจ” ของทั้ง “ครอบครัว – ธุรกิจ เนื่องจากตามหลักการแล้ว เมื่อร่างธรรมนูญครอบครัว ครอบครัวจะพบจุดยืนร่วมกัน และมีแนวทางปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้ในอนาคต จากการมีส่วนร่วมของทุกคน รวมถึงทายาทรุ่นต่อ ๆ ไป เพราะคือความผูกพันทางใจ มีสถานะเหนือกว่าเอกสารทางกฎหมายที่พยายามจะควบคุมทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แถมบางครั้งก็ยังสามารถถูกท้าทายในชั้นศาลได้
เนื่องจากทรัพย์สินในครอบครัวเหล่านี้ มักจะมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงทำให้โอกาสของการสืบทอดธุรกิจของทายาท รวมทั้งการปฏิบัติต่อทายาทของคนรุ่นหน้าอาจไม่เท่าเทียม แต่หากมีการหารือกันภายใต้กรอบธรรมนูญครอบครัว และทุกคนสามารถแบ่งปันความคิดเห็นได้ สมาชิกครอบครัวแต่ละคนก็มักจะเต็มใจสละส่วนแบ่งความมั่งคั่งบางส่วนออกไปมากกว่า
การที่จะทำให้ธรรมนูญครอบครัวที่สร้างขึ้น สามารถยืนยงได้ยาวนาน จำเป็นต้องมีการทบทวนรายละเอียดให้เข้ากับยุคสมัย และปรับตัวให้เข้ากับค่านิยมร่วมที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมและสังคม เพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นไปได้สำหรับคนทุกรุ่น
ตามที่กล่าวข้างต้นว่า การบริหารธุรกิจครอบครัว สิ่งสำคัญที่แตกต่างจากธุรกิจอื่นคือ มีความสัมพันธ์กันแบบเครือญาติ ซึ่งจะมีในเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการทำงาน จึงจำเป็นที่จะต้องมีระบบในการบริหารงานไม่ให้เกิดความขัดแย้งในครอบครัว ดังนั้น การทำธรรมนูญครอบครัว (Family Constitution) ซึ่งเป็นเรื่องของข้อตกลงในการทำงานของสมาชิกในครอบครัว ถือเป็นหัวใจในการทำธุรกิจครอบครัวในรูปแบบหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูลโดย GURU รับเชิญ : รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ ผู้ก่อตั้งบริษัท แฟมส์ จำกัด (FAMZ)