จากรายงานของ โดย Innova Market Insights ผู้นำด้านความรู้ระดับโลกในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ได้นำเสนอข้อมูลวิเคราะห์จากผลการสำรวจผู้บริโภคทั่วโลกต่อเทรนด์อาหารในปี 2020 ซึ่งมี 10 ประเด็นที่ทั้งธุรกิจอาหาร ผู้ผลิตอาหาร และเจ้าของร้านอาหาร ควรศึกษาถึงแนวโน้มการบริโภคของคนยุคนี้ จากรายงาน Top 10 Food Trends for 2020 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. อาหารที่มีการเล่าเรื่อง
ผู้บริโภค 56% กล่าวว่า
เรื่องราวมีผลต่อการซื้ออาหาร เช่น ที่มาของส่วนผสม และกระบวนการผลิต
เนื่องจากผู้บริโภคต้องการความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ ที่สำคัญเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่นอกเหนือจากการสร้างการจดจำแบรนด์ของเราแล้ว
ยังทำให้แบรนด์ของเรามีคุณค่าและเกิดความผูกพันระหว่างเรากับลูกค้าได้อีกด้วย
มีร้านอาหารจำนวนไม่น้อยให้ความสำคัญ กับการเล่าเรื่องราวหรือ Story Telling และประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย
2. อาหารจาก plant-based
จากรายงานของ Innova พบว่า ผู้บริโภคชอบคำกล่าวอ้างว่า plant-based
มากกว่า vegan หรือ vegetarian ทั้งนี้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2014-2018) อาหารที่กล่าวอ้างว่าเป็น plant-based
ขยายตัวถึง 68% ต่อปี ที่สำคัญตอนนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคอาหารมากมาย
ก่อนหน้ามีเทรนด์ของคนที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ รับประทานมังสวิรัติ
หรือเป็นกลุ่ม Vegan ที่ต่อต้านการละเมิดชีวิตสัตว์ทุกประเภท
Plant-based Food จึงกลายเป็นธุรกิจที่มาแรง
มีผู้เล่นหลายแบรนด์ลงมาจับตลาด ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ไปจนถึงผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก
เป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในปีนี้ เชื่อว่าจะไม่ใช่แค่ Niche Market เป็น Mega Trend แห่งปี
จะเป็นอนาคตของธุรกิจอาหารเลยก็ว่าได้
3. ความยั่งยืนด้านอาหาร
ผู้บริโภคหวังให้ธุรกิจลงทุนในความยั่งยืนเพิ่มขึ้นจาก
65% ในปี 2018 เป็น 87% ในปี 2019 และราว 50%
ยินดีจ่ายเงินเพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าที่ผลิตอย่างยั่งยืน
สิ่งที่น่าจับตาของการเพิ่มขึ้นของปริมาณประชากรโลกในแต่ละพื้นที่คือ
“ความต้องการอาหาร” ที่เพียงพอ อย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันประชากรโลกในบางพื้นที่ยังมีการขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม
ขณะเดียวกันในหลายพื้นที่ทั่วโลกประชากรมีปัญหาด้านน้ำหนักตัวมากเกินไป และ 1 ใน 3
ของอาหารที่ผลิตขึ้นในโลกนี้ จะกลายเป็นของเสียทั้งจากการบูดเน่า
นี่จึงเหตุผลที่โลกต้องการสมดุลด้านอาหาร หรือที่เรียกเทรนด์นี้ว่า
“อาหารเพื่อความยั่งยืนของโลก”
4. อาหารที่ตอบสนอง lifestyle
กลุ่ม Gen
Z ต้องการเครื่องดื่มโปรตีน คนสูงวัยต้องการอาหารสุขภาพ
อาหารสำหรับผู้ออกกำลังกายหรือควบคุมน้ำหนัก
เห็นได้ว่าโลกเริ่มเปลี่ยนสู่ยุคดิจิตอล ที่มีการใช้งานเทคโนโลยีกับสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้น
ทำให้ไลฟ์สไตล์ของผู้คนก็เริ่มเปลี่ยนไปมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ซึ่งไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ภายในประเทศไทยเองก็ถือว่าเปลี่ยนไปจากเดิมเป็นอย่างมาก
ดังนั้นถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารในยุคนี้
ลองมาดูว่าความเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่จะสร้างประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณได้อย่างไร
5. เนื้อสัมผัสของอาหาร (food texture)
ผู้บริโภค 70% เห็นว่าเนื้อสัมผัสช่วยให้อาหารน่าสนใจมากขึ้น มีความสำคัญต่อการยอมรับในคุณภาพอาหารของผู้บริโภค ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับความรู้สึกทางปากหรือจากการกิน เริ่มจากกัดอาหาร (bite) ครั้งแรก ความรู้สึกเมื่อเคี้ยวอาหาร (chewing) และความรู้สึกเมื่อบดอาหารในปาก (mastication) การรับความรู้สึกในเนื้อสัมผัสอาหารนี้ เป็นการรับความรู้สึกทั้งทางกายภาพและทางสรีรวิทยาร่วมกันในด้านสรีรวิทยานี้มีประสาทสัมผัสอื่นๆ ของร่างกาย เข้ามามีส่วนในการร่วมกับความรู้สึกเนื้อสัมผัสของอาหารด้วย คือ การเห็น การสัมผัส และการได้ยิน ทำให้มีการร่วมรับความรู้สึกซับซ้อนขึ้นจากประสาทสัมผัส จะเห็นว่าไม่เฉพาะแค่รสชาติของอาหารเท่านั้นที่จะดึงผู้บริโภคได้
6. สารอาหารหลักในอาหาร (Macronutrient)
ผู้บริโภคจะคำนึงถึงสารอาหารหลักในอาหาร
เช่น ผู้บริโภคไม่ต้องการน้ำตาล แต่ต้องการ fiber ที่ให้พลังงานและย่อยง่าย เดิมทีนักโภชนาการมักจะแนะนำให้เรารับประทานอาหารที่มีความหลากหลาย
เพื่อร่างกายจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ขณะที่คนยุคปัจจุบันสนใจที่ ‘สารอาหารหลัก’ คือ
สารเคมีที่เป็นส่วนประกอบในอาหารที่เรารับประทานเข้าไปมีมากมายหลายชนิด การจำแนกสารอาหารตามหลักโภชนาการจะพิจารณาจากปริมาณของสารอาหารที่มีอยู่ในอาหารนั้นๆ
มากที่สุดเป็นหลัก 5 หมู่คือ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน
วิตามิน และแร่ธาตุ ขึ้นอยู่กับความต้องการอาหารของคนแต่ละกลุ่ม
ซึ่งจะเป็นหัวข้อที่คนยุคนี้ให้ความสำคัญต่ออาหารที่รับประทานมากขึ้น
7. อาหาร hybrid
ผู้บริโภคชาวอเมริกัน 70%
ชอบอาหารที่มีรสชาติคละกัน เช่น หวานและเค็ม ซึ่งคำว่าอาหาร hybrid คือ อาหารแบบลูกผสม
เป็นเมนูที่ถูกผสมผสานกันกับอีกเมนูหนึ่งได้อย่างลงตัว หรือการนำอาหาร 2
ชนิดมาจับคู่กันจนเกิดเป็นเมนูอาหารใหม่ขึ้นมา ซึ่งอาจจะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกับการฟิวชั่นอาหาร
แต่ไม่ใช่ฟิวชั่น
ที่สำคัญเทรนด์นี้กำลังมาแรงในกลุ่มของว่างและอาหารทานเล่นระหว่างวัน
8. ส่วนผสมของอาหาร (Food
Ingredients)
ปัจจุบันผู้บริโภคนิยมเลือกซื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
ทั้งจะดูว่าอาหารนั้นผลิตที่ใด มีส่วนประกอบอะไร มีการปรุง การเก็บรักษาอย่างไร
ผลิตหรือหมดอายุเมื่อใด มีการใช้สารหรือวัตถุเจือปนชนิด ซึ่งเทรนด์อาหารในปัจจุบันผู้บริโภคสนใจดูส่วนผสมของอาหาร เช่น fiber, probiotic, prebiotic และ CBD มากขึ้น ดังนั้นผู้ผลิตอาหารจึงต้องให้ความสำคัญในด้านนี้เพิ่มมากขึ้น
9. อาหารเพื่อสุขภาพ
กระแสรักสุขภาพและการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพได้กลายเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นมาหลายปี
แต่การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพยังคงเป็นเมกะเทรนด์ต่อไป มีการคาดการณ์ว่าตลาดอาหารพร้อมรับประทานเพื่อสุขภาพของโลกจะมีมูลค่าประมาณ
10,551 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2521 โดยกลุ่มผู้บริโภคจะเป็นกลุ่มคนรุ่น Millennial อายุ 18-34 ปี และกลุ่ม Baby Boomers ที่มีอายุ 51-69 ปีผู้บริโภคจะทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดย Innova เรียกว่า
แนวโน้มนี้ว่า cosmeceutical และเห็นว่าแนวโน้มนี้มีศักยภาพในการขยายตัวอีกมาก
10. อาหารเฉพาะตัวบุคคล (personalization)
อาหารที่คำนึงถึงความต้องเฉพาะตัวบุคคล เพศ วัย ระดับกิจกรรมการใช้ชีวิต อัตราการเปลี่ยนแปลงกลูโคสในหลอดเลือดหลังการบริโภคอาหาร อาหารที่ชอบ รูปแบบการออกกำลังกายที่ชอบ และเป้าหมายด้านโภชนาการ เช่น เพื่อลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนัก รักษาน้ำหนัก หรืออื่นๆ รวมถึงโรคประจำตัวต่างๆ ซึ่งอาจจะต้องลดความหวาน เค็ม มัน เสริมโปรตีน เสริมแคลเซียมเฉพาะตามแต่ความต้องการ หรือขาดเหลือของแต่ละบุคคล โดยผู้บริโภค 2 ใน 5 ต้องการอาหารที่ออกแบบให้ตรงกับความต้องการของตนและเป็น limited-edition และ Innova คาดว่าอาหารแบบ Limited นี้จะขยายตัวถึง 30% ต่อปี