ส่องเทรนด์อาหารและพฤติกรรมของผู้บริโภคปี 2021

SME Update
22/12/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 11162 คน
ส่องเทรนด์อาหารและพฤติกรรมของผู้บริโภคปี 2021
banner

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาความเปลี่ยนแปลงในทุกอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่ “อุตสาหกรรมอาหาร” ที่ต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่อรับกระแสการบริโภคของผู้บริโภคในวิถีใหม่ หรือ new normal ซึ่งจะมุ่งเน้นการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น

 

ทั้งยังมีการปรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่การทำงานจากที่บ้าน หรือ Work from Home ซึ่งนั่นจะทำให้ผู้บริโภคสามารถปรับมาใช้เวลาในการปรุงอาหารรับประทานเองมากขึ้น นำมาสู่การให้ความสำคัญกับเลือกสรรตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงการปรุงอาหาร เพื่อสุขอนามัย

 

ผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารจึงจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่ในปี 2021 เพื่อจะผลิตสินค้าอาหารตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้


ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

 

ข้อมูลจากห้าง whole Food ซึ่งเป็นเชนซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียมที่จำหน่ายสินค้าออร์กานิคในสหรัฐ และสหภาพยุโรป โดยผ่านสาขากว่า 500 สาขาของห้าง เมื่อเร็วๆ นี้ โดยผ่านการรายงานของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ระบุว่า จากการเก็บข้อมูลของฝ่ายจัดซื้อสินค้าที่มาจากท้องถิ่นและต่างประเทศ รวมถึงทีมงานด้านอาหารของบริษัทกว่า 50 ราย ชี้ชัดว่าเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มในปี 2021 มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปอย่างมากหากเทียบกับยุคก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด

 

พฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคยุค 2021 จะเน้นการปรุงอาหารรับประทานเองมากขึ้น โดยจะจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพมากขึ้น และรับประทานอาหารมื้อเช้ามากขึ้น

 

สำหรับประเภทสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตดี ยังเป็นกลุ่มอาหารที่เรียกว่า “ซุปเปอร์ฟู้ด” ซึ่งเป็นสินค้าอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการสูงมีความสำคัญต่อร่างกาย เต็มไปด้วยคุณค่าวิตามินต่างๆ อาทิ กลุ่มฟังก์ชั่นนอลฟู้ด โปรไบโอติกส์ ยังสามารถขายตัวเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การผลิตอาหารกลุ่มนี้ได้รับการพัฒนาแปรรูปให้สามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น เก็บได้ระยะยาวและคงคุณค่าสารอาหารเอาไว้ได้

 

ทั้งนี้ข้อมูลพบว่า ความหลากหลายของเมนูเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่มาก ผู้บริโภคจะเน้นบริโภคอาหารเช้าที่ปรุงเอง แต่จะใส่ใจในรายละเอียดด้วยการเพิ่มลูกเล่นต่างๆ ลงไป ทำให้เกิดเมนูใหม่ๆ ซึ่งนั่นจะทำให้อาหารทางเลือกต่อสุขภาพมีโอกาสเติบโตขึ้น

 

โดยเฉพาะกลุ่ม “โปรตีนจากพืช” ซึ่งเริ่มมีตัวอย่างให้เห็นหลายชนิดเช่น โปรตีนจากถั่วลูกไก่ (chickpea) ซึ่งได้มีการนำไปผลิตเป็นอาหารหลากหลายรูปแบบ เช่น แป้งจากถั่วลูกไก่ ซีเรียลถั่วลูกไก่ หรือเต้าหู้ถั่วลูกไก่ เช่นที่ก่อนหน้านี้เคยมีผู้บริโภคให้ความนิยมในการใช้แป้งจากดอกกะหล่ำ

 

นอกจากการพัฒนาอาหารทางเลือกจากวัตถุดิบใหม่ๆ อย่างโปรตีนจากพืชแล้ว การพัฒนาคิดค้นปรับเปลี่ยนรูปแบบเมนูอาหารเดิมไม่ให้เกิดความซ้ำซากจำเจก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น เดิมผู้บริโภคนิยมดื่มกาแฟในตอนเช้า แต่ในอนาคตกาแฟอาจจะไม่ใช่แค่เพียงเครื่องดื่ม แต่อาจจะไปคิดค้นเป็นอาหารชนิดอื่นที่มีส่วนประกอบของกาแฟ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ๆ ก็เป็นได้

 

หรือแม้แต่การพัฒนาสินค้าทางเลือกจากผลิตภัณฑ์เดิมๆ จากวัตถุดิบใหม่ เช่น น้ำมันมะกอกอาจจะถูกลดทอนความสำคัญลง เพราะมีการพัฒนาน้ำมันจากพืชอื่นที่ให้คุณค่าทางอาหารไม่แพ้กัน ทำให้ได้รับความนิยมจนกระทั่งมียอดขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น น้ำมันจากผลวอลนัท น้ำมันจากเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการพัฒนานวัตกรรมอาหารตามเทรนด์เพื่อสร้างเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคจะเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ประเด็นเรื่อง “คุณค่าทางโภชนาการ” ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริโภคยุคใหม่จะใช้เป็นปัจจัยในการตัดสินใจ โดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการอาหารสำหรับเด็ก การนำวัตถุดิบใหม่ๆ ที่ดีต่อเด็กมาใช้เป็นส่วนผสม เพิ่มความหลากหลายให้เมนู

 

นอกจากการให้ความสำคัญต่อคุณค่าทางโภชนาการต่างๆ ของอาหารทางเลือกใหม่แล้ว ขณะนี้ผู้บริโภคทั่วโลกยังให้ความสนใจกับการสร้างค่านิยมการรักษาสิ่งแวดล้อมและกระแสรักษ์โลก โดยมุ่งมองหาผลิตภัณฑ์หรือวิธีการที่จะใช้วัตถุดิบในการประกอบอาหารให้คุ้มค่า เพื่อลดขยะจากอาหารให้เหลือน้อยที่สุด

 

ด้วยปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ ผู้ผลิตอาหารไทยซึ่งมีความตั้งใจจะเป็น “ครัวของโลก” จำเป็นต้องเร่งปรับตัว หันมาพัฒนานวัตกรรมอาหารอนาคต เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งไม่เพียงจะต้องมีความหลากหลาย แต่ต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เชื่อได้เลยว่าหากดำเนินการสำเร็จไม่เพียงจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมอาหารของไทย แต่ยังช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออกออกอาหารซุปเปอร์ฟู้ด ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 6-7% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด หรือราว 29,000-30,000 ล้านบาท ให้เพิ่มขึ้นไปอีกได้




สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


‘วีแกน’ เทรนด์สินค้ากระแสแรงที่ธุรกิจต้องสนใจ

FTA ดันตลาดส่งออกอาหารแช่แข็งไทยโต


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ชมความล้ำ!! ‘นวัตกรรม Low Carbon’ เปลี่ยนประเทศไทย สู่สังคมคาร์บอนต่ำ ได้อย่างไร?

ชมความล้ำ!! ‘นวัตกรรม Low Carbon’ เปลี่ยนประเทศไทย สู่สังคมคาร์บอนต่ำ ได้อย่างไร?

ก้าวไปอีกขั้นกับความล้ำนวัตกรรม Low Carbon ในงาน ESG Symposium 2023 เร่ง เปลี่ยนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พบกับแนวคิด แรงบันดาลใจจากคนทำจริงระดับโลก…
pin
776 | 29/11/2023
4 ขั้นตอนเตรียมความพร้อมสู่การเป็น ‘ธุรกิจคาร์บอนต่ำ’  เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ SME

4 ขั้นตอนเตรียมความพร้อมสู่การเป็น ‘ธุรกิจคาร์บอนต่ำ’ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ SME

ภาคธุรกิจต่างพยายามหาทางลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งกระแสดังกล่าวได้ขยายวงกว้างไปในหลายภาคส่วนหนึ่งในนั้น คือกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักอย่าง…
pin
697 | 17/11/2023
7 เช็คลิสต์ ‘สินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า’ (Deforestation-free products) เมื่อ EU ออกกฎแบนการนำเข้า ส่งออกไทย

7 เช็คลิสต์ ‘สินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า’ (Deforestation-free products) เมื่อ EU ออกกฎแบนการนำเข้า ส่งออกไทย

การดำเนินมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมมีความเข้มงวดขึ้นทั่วโลก สหภาพยุโรป (EU) เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง…
pin
564 | 15/11/2023
ส่องเทรนด์อาหารและพฤติกรรมของผู้บริโภคปี 2021