คน Gen
Y หรือ Millennials คือ
กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ.2523-2540 เติบโตมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ทำให้มีความรู้
ความเข้าใจพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดเวลา และเกิดในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู
คน Gen นี้จึงรักความสะดวกสบาย มีโอกาสเรื่องการศึกษาดี
มีแนวคิดเป็นของตัวเอง รักอิสระ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
จึงมีพฤติกรรมการทำงานที่เปลี่ยนไปจากคน Gen-B และ Gen-X
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นกลุ่มคนที่น่าจับตาและให้ความสำคัญ เพราะกำลังครองตลาดแรงงานในปัจจุบัน และนอกจากจะเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานแล้ว พวกเขายังครองกำลังการใช้จ่ายกลุ่มใหญ่ที่สุด รวมถึงยังเป็นผู้นำด้านการอุปโภคบริโภคของโลกอีกด้วย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
จากสถิติ
ในปี พ.ศ.2562
พบว่ามีจำนวนประชากรไทยทั้งประเทศมี 66,558,935 คน แบ่งเป็นกลุ่ม Gen Y ถึง 16,146,959 ล้านคน
หรือประมาณ 24.26 % รองลงมาคือ Gen X ซึ่งมีจำนวนใกล้เคียงกัน
คือ 15,403,174 คน คิดเป็น 23.14
% แต่เป็นกลุ่มคนที่มีอายุ 41-55 ปี (ระบบสถิติทางการทะเบียน
2562) นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมต้องให้ความสำคัญกับพฤติกรรมคน Gen Y ที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเทรนด์การทำงาน
และปรับธุรกิจรองรับพฤติกรรมของคนทำงาน รวมไปถึงการดึงศักยภาพของคน Gen Y เข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
1. คน Gen Y มีความทันสมัย ไม่ตกยุค ชอบเทคโนโลยี ด้วยเกิดในช่วงที่บ้านเมืองสงบสุข
มีเศรษฐกิจเฟื่องฟู และมีเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวัน
ทำให้คนกลุ่มนี้สามารถใช้อุปกรณ์ IT และเทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่ว จึงกล้าคิด กล้าแสดงออก
ในความเป็นตัวเองไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานหรือเรื่องส่วนตัว ทักษะของคน Gen
Y นี้จึงเป็นสิ่งที่เข้ากับยุคสมัยของโลกในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นภาพลักษณ์ของธุรกิจ อุปกรณ์ เทคโนโลยีต่างๆ จะกลายเป็นตัวช่วยดึงดูดให้พวกเขาสร้างสรรค์ผลงานเพื่อองค์กรได้เต็มที่
2. คน Gen Y มีศักยภาพในการทำงานสูง และคาดหวังการทำงานสบาย
ให้ผลตอบแทนสูง ด้วยเป็นกลุ่มคนที่เกิดจากพ่อแม่ในกลุ่ม Gen X ซึ่งมีความเป็นอยู่ดี
คนกลุ่มนี้จึงถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี พร้อมกับมีการศึกษาสูง จึงมีความคาดหวังถึงสิ่งที่พวกเขาควรค่าต่อการได้รับที่สูงตามมาด้วย
ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญทำการวิจัยลักษณะของคนแต่ละรุ่นแล้วชี้ชัดว่า
Gen Y เป็นคนวัยทำงานที่ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่อย่างดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านสวัสดิการต่างๆ
ควรให้สอดคล้องกับพฤติกรรมคนกลุ่มนี้
เพื่อดึงดูดให้พวกเขาใช้ศักยภาพที่มีเพื่อพัฒนาองค์กรได้มากขึ้น
ซึ่งหมายรวมถึงสวัสดิการความมั่นคงด้านอื่นๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯลฯ
อาจไม่สำคัญเท่าการกำหนดผลตอบแทนที่พวกเขาพึงพอใจ เพราะคน Gen Y ไม่ได้มีความสนใจเรื่องการทำงานไปจนเกษียณ
หรือการมีกองทุนต่างๆ รองรับ
3. คน Gen Y มีการเรียนรู้เร็ว ชอบพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ด้วยความยืดหยุ่นในข้อนี้
จึงมีแนวโน้มว่าคน Gen Y จะไม่ยึดติดกับความรู้เดิมที่ได้รับมา และอาจเปลี่ยนงานบ่อย
เพราะสามารถปรับเปลี่ยนการทำงาน อาชีพได้หลากหลาย ตามความถนัด หรือความสนใจ
ดังนั้นการเตรียมข้อมูลความรู้หรือที่ปรึกษาที่มีความรู้ดี
ตลอดจนเปิดให้มีการเปิดอบรม ทักษะ พัฒนาฝีมือ จะกลายเป็นแรงจูงใจช่วยให้พวกเขาอยากทำงานให้แก่องค์กรมากขึ้น
4. คน Gen Y รักอิสระ ไม่ชอบถูกบงการหรือบังคับ จึงต้องการรูปแบบชีวิตที่มีความยืดหยุ่น
ดำเนินชีวิตด้วยความท้าทาย ชอบแสวงหาโอกาสในการทำงานที่เหมาะสมกับความสามารถของตัวเอง ดังนั้นการยืดหยุ่นในเรื่องของสถานที่รวมไปถึงเวลาในการปฏิบัติงาน
เช่น สามารถทำงานอยู่บ้านได้ ตามช่วงเวลาที่สะดวก
ภายใต้ขอบเขตความรับผิดชอบที่กำหนดไว้ จะกลายเป็นสิ่งกระตุ้นให้คน Gen Y ดึงศักยภาพที่ตัวเองมีมาสร้างสรรค์ผลงานได้ดีกว่าการทำงานในออฟฟิศแบบเดิมๆ
5. คน Gen Y ชอบความชัดเจนในการทำงาน เพราะพวกเขามีเป้าหมายในการดำเนินชีวิตชัด ต้องการการยอมรับและการชื่นชม มีการปักธงชีวิตตัวเองว่าจะมีบ้าน รถ ทรัพย์สินหรือมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ ในการดำเนินชีวิต นอกจากนี้ยังเน้นการใช้ชีวิตแบบสมดุลย์ มีการพบปะสังสรรค์ ให้รางวัลตัวเองด้วยการท่องเที่ยวต่างประเทศ และแม้จะชอบลุยงานหนัก แต่ก็ต้องการเวลาพัก ดังนั้นการมอบหมายงานจึงควรกำหนดขอบเขตงานที่แน่นอนชัดเจน และทำให้พวกเขารู้ว่าสิ่งที่ทำมีผลต่อตนเองและต่อองค์กรอย่างไร และไม่ก้าวก่ายเวลาส่วนตัวด้วยการดึงมาทำงานอื่น ก็จะจูงใจให้พวกเขาทำงานกับองค์กรต่อไปได้นานขึ้น
เนื่องด้วย Gen Y เป็นกลุ่มคนที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ เพราะเป็นช่วงวัยที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตขององค์กร รวมไปถึงรายได้และยอดขายขององค์กรด้วย การจะจับคน Gen Y มาร่วมทีมทำงานจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจ พฤติกรรมการทำงานที่เปลี่ยนไปของคนเจนนี้ไว้ เพื่อรองรับกับโลกการแข่งขันในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นโลกแห่งเทคโนโลยี 4.0 และสงครามดิจิตอลที่มนุษย์ Gen Y นี้ล่ะที่จะไปช่วยเสริมทัพสู้ศึกได้ดีในโลกแห่งเทคโนโลยีที่จะมาถึง