Business Model ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ โซล่าร์เซลล์มุ่งเน้นสร้าง "ธุรกิจยั่งยืน" ทำกำไร พร้อมสนับสนุนชุมชน-สังคม-สิ่งแวดล้อม
ภาพรวมตลาดสินค้า อะไหล่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและโซล่าร์เซลล์มีแนวโน้มเติบโตสูง คาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี จากปี 2566 ถึง 2571 โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการขยายตัวของสินค้ากลุ่มโซล่าร์เซลล์ อาทิ แผงโซล่าร์ อินเวอร์เตอร์ และสายโซล่าร์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายพบว่ามีการเติบโตกว่า 30% ในปีที่ผ่านมา ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น IoT รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
บทความนี้ Bangkok Bank SME จะพาไปทำความรู้จักอีกหนึ่งธุรกิจที่รันวงการด้านการจัดจำหน่ายอะไหล่อิเล็คทรอนิคส์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพสูงระดับโลกมายาวนานกว่า 23 ปี เขามีแนวคิด และ Business Model บริหารงานอย่างไรให้เติบโตและประสบความสำเร็จมาจนถึงวันนี้ กับคุณสมชัย บุญเสริมวิชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลโทรนิค อินเตอร์เทรด จำกัด (GTI)
คุณสมชัย กล่าวว่า ธุรกิจก่อตั้งขึ้นเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2544 โดยจำหน่ายอะไหล่อิเล็กทรอนิคส์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ได้มาตรฐานสากลระดับโลก ได้รับการยอมรับจากลูกค้าในฐานะองค์กรที่ยั่งยืน มีธรรมาภิบาลทั้งด้านสังคม คู่ค้า และสิ่งแวดล้อม
“ผมเองจบวิศวกรด้านเครื่องกล จากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี หลังเรียนจบ มีโอกาสทำงานหลากหลาย แต่รู้สึกว่าชอบงานด้านค้าขายมากที่สุด จึงเลือกเบนเข็มมาทำธุรกิจของตัวเองช่วงอายุ 40 ปี ยุคนั้นเป็นช่วงขาขึ้นของการทำธุรกิจ มีโรงงานเกิดขึ้นจำนวนมากและได้โอกาสที่ดีจากลูกค้าที่ต้องการสินค้าคุณภาพดีและผลิตในประเทศและต่างประเทศแต่ไม่รู้จะไปหาที่ไหน ขณะที่เรามีพื้นฐานเกี่ยวกับเทคนิคจากการเป็นวิศวกร จึงเปิด บริษัท โกลบอลโทรนิค อินเตอร์เทรด จำกัด (GTI) ขึ้นมา
คุณสมชัย เป็นผู้บริหารและดำเนินธุรกิจเต็มรูปแบบ จนถึงปัจจุบันดำเนินการมากว่า 23 ปี ด้วยความชอบพัฒนาตนเองตลอดเวลา จึงไปเรียนด้านบริหารธุรกิจที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เพิ่มเติมเป็นเวลา 2 ปี จนศึกษาจบและนำความรู้มาพัฒนาบริษัทจนเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
คุณสมชัย สะท้อนภาพธุรกิจว่า ช่วงโควิด-19 หลายธุรกิจได้รับผลกระทบเกือบทั้งหมด แต่ธุรกิจเรายอดขายลดลงเพียง 30% แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย เราสามารถทำยอดขายกลับมาเหมือนเดิม โดยล่าสุดปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายกลับมาเติบโตถึง 500 ล้านบาท
จากประสบการณ์ที่เราอยู่ในแวดวงธุรกิจ พบว่า SME ที่ประสบความสำเร็จนั้น มีไม่มากเท่าที่ควรและมีอีกพอสมควรที่คงที่ หยุดโต หรือ เลิกกิจการ ซึ่งผมมองว่าเป็นเพราะ SME เหล่านั้นอาจจะไม่ชัดเจนว่า Business Model ของเขาคืออะไร การจัดการระบบบัญชีการเงินที่ถูกต้องทำอย่างไร การอ่านงบการเงินเขาดูอะไร และพัฒนาบุคคลต้องทำอย่างไร ต้องขอบคุณ หลักสูตร MBA สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่สอนการทำธุรกิจให้เติบโตและยั่งยืนนั้น ต้องทำอย่างไร???
ในปี 2564 เรามีโอกาสเข้าร่วมโครงการเพื่อเข้ารับคำปรึกษาแบบ one-on-one กับทางศูนย์เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ (CBCE) ของตลาดหลักทรัพย์ โดยมีที่ปรึกษาเข้ามาพัฒนาบริษัทและเตรียมความพร้อมเข้าตลาดเอ็มเอไอ (MAI) ซึ่งเราได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในโครงการนี้ ผมมองว่าปัจจุบันการวิเคราะห์ธุรกิจเปลี่ยนไป แต่สิ่งสำคัญคือ เรื่องการตรวจสอบความสามารถในการแข่งขัน การทำกำไร การบริหารต้นทุน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การพัฒนาบุคลากรให้ความสามารถรอบด้าน สามารถทำงานเป็นทีม และช่วยเหลือกัน รวมทั้งการพัฒนาธุรกิจ (Business Development) สินค้าตัวใหม่ ให้ตอบสนอง Demand ของตลาด ว่าไปถึงขั้นไหนแล้ว มีอะไรที่เราต้องปรับตัวบ้าง
“เราให้ความสำคัญกับงานด้านพัฒนาธุรกิจ ที่เป็นหัวใจสำคัญ ฉะนั้นต้องคอยดูตลอดว่ามีอะไรที่เป็นความต้องการใหม่ ๆ ของลูกค้า เพราะ Product Life Cycle (PLC) ของสินค้าทุกตัวเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ความต้องการจึงมีขึ้นและมีลง หากมีสินค้าตัวไหนที่เป็นขาลง เราจะทำอย่างไร ส่วนตัวไหนเป็นขาขึ้นก็ต้องรีบพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งขึ้น”
เคล็ดลับความสำเร็จอยู่ที่การบริหารคน ปั้นพนักงานให้เก่ง
คุณสมชัย ให้มุมมองว่า การมีลูกน้องเก่งถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เรื่องการเทรนนิ่งพนักงาน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญ ซึ่งเราไม่มีนโยบายซื้อตัวจากที่อื่นมา เราเริ่มจากสรรหาคนที่มีแววมาฝึกฝนและพัฒนาซึ่งวิธีนี้จะทำให้ได้ความ Loyalty จากพนักงาน บริษัทจึงมีพนักงานที่ทำงานกับเรานานกว่า 10 ปี และอัตราลาออกของพนักงานถือว่าน้อยมาก เมื่อปรียบเทียบกับธุรกิจที่คล้ายกัน เราสร้างคนของเราเองและยอมที่จะไม่เติบโตแบบก้าวกระโดด เน้นเติบโตช้าแต่มั่นคง
“เราจะบอกพนักงานเสมอว่า ถ้าอยากเก่งต้องมีโค้ชที่ดี ซึ่งเราจะเป็นโค้ชให้เขา การดูแลพนักงานเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกคนที่จะเข้ามาทำงาน เราอาจจะไม่คัดคนเรียนเก่งแต่เราจะดูทัศนคติว่าจะสามารถเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้หรือไม่ บางครั้งเรามอบหมายงานโครงการ (เล็ก) ให้เขามีพื้นที่ได้แสดงออกและหลายครั้งที่เราพบว่าพนักงานคนนั้นมีศักยภาพ (Talent) เกินกว่าที่เราประเมินในวันแรกที่รับเข้ามาทำงานเสียอีก ดังนั้นเราจะทราบได้อย่างไร ถ้าเราไม่มีเวทีให้เขาแสดง ซึ่งผมใช้หลักการนี้มาตลอด เพราะเราอาจจะไม่รู้ว่าช่วงเรียน เขาทำกิจกรรมอะไรมาบ้าง ทรานส์สคริปต์บางที่ก็ไม่มีบอกนะครับ”
ส่วนอีกเรื่อง คือ วัฒนธรรมองค์กร 4 ตัว คือ FACT ตัวแรก F หมายถึง Family คือการอยู่กันแบบครอบครัว A มาจาก Agility คือความสามารถในการปรับตัว C คือ Customer Centric คือมุ่งให้การบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้า ตัวสุดท้ายคือ ตัว T หรือ Teamwork คือการทำงานเป็นทีมที่สำคัญมากเพราะงานบางครั้งที่มีขนาดที่ใหญ่นั้นต้องใช้หลายคนทำงานจึงจะสำเร็จ
การทำงาน คือการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifetime Learning)
คุณสมชัย สะท้อนมุมมองว่า สมัยนี้ผมไม่ห่วงเรื่ององค์ความรู้ (Knowledge) สักเท่าไหร่ เราจะสอนให้รู้จักการตั้งคำถาม จึงเป็นเรื่องไม่ยากเกินไปที่จะได้มาซึ่งคำตอบ แต่สิ่งที่เราเน้นอย่างมากคือความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ (Sense of Ownership) ว่าการทำงานนั้น ต้องนึกถึงใจเขาใจเรา ควรมีธรรมาภิบาล และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ความโปร่งใส (Transparency) ยกตัวอย่าง เรื่องการทำบัญชี เราเป็นบริษัทที่ทำบัญชีเดียว ตรงไปตรงมา ข้อดีของการทำบัญชีเดียวคือ ช่วยให้เราวิเคราะห์งบการเงินเองได้ ว่ากำไรขั้นต้น และค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไร เราเปรียบเทียบ (Benchmark)กับคนอื่นในธุรกิจแล้วเป็นอย่างไร เหมือนเป็นการวิเคราะห์สุขภาพธุรกิจเรา และสุดท้ายคือ เรามีวินัยทางการเงินสูง โดยไม่มีนโยบายดึงเงินไปใช้ผิดประเภทหรือไปลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้จริง
ผมสอนลูกน้องให้เป็นผู้เรียนรู้ตลอดเวลา (Lifetime Learner) เรามีระบบโค้ชโดยมีพี่เลี้ยงในการสอนงานจนมีความรู้ความเข้าใจและทำงานได้ นอกจากนี้เรายังเปิดโอกาสให้คนพิการเข้ามาร่วมงาน ปัจจุบันเรามีพนักงานที่เป็นคนพิการทำงานกับเราถึง 4 คน เพราะเราอยากเปิดโอกาสให้เขาได้มีความมั่นคงในอาชีพและรายได้ แรก ๆ เราพบว่าเขาจะไม่ค่อยมั่นใจ แต่ด้วยระบบพี่เลี้ยงนี้เอง พบว่าเขาเหล่านั้นสามารถทำงานได้ไม่ต่างกับคนปกติทั่วไป
Business Transformation
คุณสมชัย เผยว่า บริษัท โกลบอลโทรนิค อินเตอร์เทรด จำกัด (GTI) ปรับตัวมาตลอด 23 ปี ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Component) และอุปกรณ์ไฟฟ้า (Electrical Construction Material) ล่าสุดที่มีอีกธุรกิจหนึ่งที่เติบโต จะเป็นกลุ่มอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการศึกษา (Electronic Education ) ที่กำลังเป็นขาขึ้น
เนื่องจากเราเห็นว่า เทรนด์ตลาดโซล่าร์เซลล์ตอนนี้กำลังเติบโต เราจึงมีแผนจะเปิดโชว์รูมใกล้ ๆ ออฟฟิศ พื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ทำเป็น Education Center ให้คนเข้ามาดูงาน มาเรียนรู้เกี่ยวกับการติดตั้งโซล่าร์อย่างถูกวิธี ให้กลุ่มผู้รับเหมา หรือผู้ที่สนใจอยากจะเข้ามาในตลาดนี้รู้วิธีทำอย่างถูกต้อง
"อีซีเอสเอนเนอยี่โซลูชั่น" รูปแบบธุรกิจพลังงาน ESCO ที่กำลังเป็นดาวรุ่ง
ในปี 2560 เราซื้อกิจการจากออสเตรเลียในประเทศไทย ซึ่งดำเนินธุรกิจ ด้านการประหยัดพลังงานในระบบปรับอากาศ ชนิด Turnkey EPC ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดด้วยการทำสัญญารับประกันผลประหยัดพลังงานแก่ลูกค้า ปัจจุบันบริษัทเป็นสมาชิกของสมาคม ESCO ไทย และได้รับการรับรองจาก ESCO จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ปีที่ผ่านมานี้ เราได้พัฒนาธุรกิจวิศวกรรมตัวใหม่ที่เป็นที่ต้องการของตลาดในขณะนี้ 2 ประเภท คือระบบโซล่าร์เซลล์สำหรับโรงงาน อาคาร และระบบปรับคุณภาพอากาศสะอาด PM2.5 สำหรับบ้านอยู่อาศัย โรงเรียน ที่กำลังเป็นตลาดที่เติบโตอย่างมากและผลการดำเนินงานถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก
"วังดุม เมาท์เทนแคมป์" ปั้นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานให้เด็กไทย
อีกโครงการที่อยากจะเล่าให้ฟังคือ เราได้ไปลงทุนในด้านการศึกษา ซึ่งเป็นธุรกิจสีเขียวใช้พื้นที่ที่ผมเป็นเจ้าของมากว่า 30 ปี ในอำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านพลังงานทดแทนเพื่อการศึกษาในชื่อ "วังดุมเมาท์เทนแคมป์" เราเปิดกิจการนี้มากว่า 10 ปี ให้เป็นศูนย์เรียนรู้พลังงานและสิ่งแวดล้อม เปิดให้นักเรียนได้มีโอกาสศึกษา เรียนรู้ผ่านกระบวนการลงมือทำจริง เพื่อปลูกจิตสำนึกให้กับเยาวชนหันมาช่วยกันรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และปีที่ผ่านมาเราได้เพิ่มโปรแกรมค่าย STEM Coding/Robotic ค่ายลูกเสือพลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยปีที่ผ่านมา มีนักเรียนจากเข้ามาใช้บริการกว่า 10,000 คน
นอกจากนี้เราได้รางวัล Thailand Energy Awards 2010 (ด้านผู้ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน ประเภทเอกชน) โดยกระทรวงพลังงาน รางวัลดีเด่น ประเภทแหล่งนันทนาการเพื่อการเรียนรู้ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฯลฯ
ในอนาคตอันใกล้เรากำลังปรับสถานะของ วังดุม เมาท์เทนแคมป์ ให้เป็นธุรกิจเพื่อสังคม SE (Social Enterprise) โดยเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ และชุมชนใกล้เคียง ได้มีส่วนร่วมกับงานของเรา และเป็นตัวกลางสนับสนุนโครงการ CSR ให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนที่ต้องการทุนทรัพย์ให้กับนักเรียนในละแวกของเรา
คุณสมชัย ทิ้งท้ายว่า นอกจากการทำธุรกิจเพื่อสร้างกำไร เรายังมุ่งมั่นที่จะสร้างแหล่งการเรียนรู้ในด้านนิเวศวิทยาที่ยั่งยืนสำหรับเยาวชน และผู้สนใจ ให้เข้าถึงการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม การใช้ประโยชน์ของ ดิน น้ำ ลม ไฟ เพื่อการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ด้วยแนวคิดธุรกิจความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility หรือ CSR) พัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแงดล้อม
รวมทั้งยังสร้างประโยชน์โดยไม่หวังผลตอบแทน ควบคู่ไปพร้อมกับการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ พัฒนาและมุ่งไปที่การสร้างความ“ดี” เพื่อความยั่งยืนของกิจการ และคืนกำไรให้แก่สังคม
รู้จัก บริษัท โกลบอลโทรนิค อินเตอร์เทรด จำกัด และ วังดุม เมาท์เทนแคมป์
เพิ่มเติมได้ที่ :
https://www.facebook.com/wangdum
Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333
