ไขข้อข้องใจ ‘กัญชง’ ปลูกเชิงการค้าได้หรือไม่

SME Update
22/08/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 11744 คน
ไขข้อข้องใจ ‘กัญชง’ ปลูกเชิงการค้าได้หรือไม่
banner

กัญชง เป็นพืชที่หลายหน่วยงานจับตาและคาดหวังการคว้าโอกาสสร้างรายได้จากการเพาะปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์ พืชเศรษฐกิจที่ไม่ได้มีดีแค่การนำมาผลิตเส้นใย แต่ยังรวมถึงการสร้างรายได้จากสาร THC (Tetrahydrocannabinol) และ CBD (Cannabidiol) ในกัญชงที่นำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งมีราคาจำหน่ายสูงมากชนิดที่ว่า หากอ้างอิงจากราคาขาย ณ ปัจจุบัน การปลูกกัญชงในพื้นที่ 2 ไร่ ภายใต้เงื่อนไขค่าปริมาณสารที่ผู้ซื้อกำหนดจะทำเงินได้สูงถึง 6 ล้านบาท แต่ในประเทศไทยปัจจุบันการปลูกกัญชงยังผิดกฎหมาย ทั้งที่รัฐบาลไทยปลดล็อคกัญชงออกจากยาเสพติดประเภท 5 มากว่า 2 ปี แล้ว!!

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

เพราะเหตุใดทำไมยังปลูกกัญชงไม่ได้อย่างเสรี

กัญชงและกัญชา เดิมมีชื่อวิทยาศาสตร์เดียวกันคือ Cannabis sativa L. ต่อมาในปีค.ศ. 1998 หรือ พ.ศ. 2541 นักพฤกษศาสตร์ชาวอเมริกัน ได้จําแนก กัญชาและกัญชง ออกจากกันโดยลักษณะทางสัณฐานวิทยา (Morphology) และพฤกษเคมี (Phytochemistry) โดยให้ชื่อวิทยาศาสตร์ของกัญชงเป็น Cannabis sativa L. subsp.sativa และกัญชา Canabissativa L.subsp.indica (Lam.) E.Small&Cronquist ด้วยลักษณะที่คล้ายคลึงกันทางพฤกษศาสตร์ และการใช้ประโยชน์ที่หลากหลายปัจจุบันทั่วไปยังมีความสับสนอยู่

โดยชาวบ้านนิยมเรียกพืชนี้ตามลักษณะของการใช้ประโยชน์ คําว่ากัญชาหรือ cannabis ใช้เรียกกับต้นพืชที่ใช้เป็นยาเสพติด ส่วนคําว่า กัญชงหรือ Hemp เป็นคําเรียกต้นพืชที่ใช้ประโยชน์ในการผลิตเส้นใย ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีนักพฤกษศาสตร์ให้แนวทางในการจำแนก กัญชงออกจากกัญชาไว้อย่างไร ก็ยังจำแนกแยกขาดจากกันยากอยู่ดี เพราะพืชทั้ง 2 ชนิดมีความเหมือนแบบฝาแฝด ที่ต่อให้จะหาตำหนิเพื่อแยกความต่างและเรียกขานได้ง่าย แต่ก็ยังคงมีความเหมือนกันอยู่ดี

โดยเฉพาะสารที่มีอยู่ในกัญชาและกัญชงที่เหมือนกันมีการออกฤทธิ์ในแบบเดียวกัน หากแต่ต่างกันในเรื่องของปริมาณความเข้มข้นที่กัญชามีสาร THC มากกว่ากัญชง ซึ่งเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ยาก และอาจเป็นแนวทางของความเสี่ยงต่อการที่กัญชงจะถูกนำไปใช้เป็นยาเสพติด ที่ทำให้กฎหมายไทยไม่อนุญาตให้ปลูกเชิงการค้าได้

อย่างไรก็ตามในทางกฎหมายสากล พืชที่ให้ปริมาณ THC น้อยกว่า 0.3% ไม่ถือว่าเป็นพืชเสพติด และกัญชงที่ปลูกเป็นอุตสาหกรรมตามข้อกำหนดของกฎหมายไทย จะต้องมีปริมาณ THC ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

ทั้งในความเป็นจริงแล้วกัญชงที่พบปัจจุบัน อาจมีค่า THC มากเกินกว่าที่ข้อกฎหมายกำหนด อันมีผลมาจากการปรับปรุงพันธุ์ ความแปรปรวนของสภาพอากาศ การกลายพันธุ์ และการจัดการดูแลในขณะปลูก ที่จะส่งผลต่อปริมาณสาร THC ให้มีมากเกินกว่า 1%  

ด้วยเหตุนี้ต่อให้ประเทศไทยจะปลดล็อคกัญชงออกจากพืชเสพติดตามมติเห็นชอบของ ครม. เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2563 เพื่อเปิดให้มีการวิจัย ทำยา เครื่องสำอาง เครื่องสมุนไพร จากประโยชน์ของกัญชงที่ใช้ได้ทุกส่วน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ก็ยังมีข้อกฎหมายควบคุมในการปลูกพืชตัวนี้อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันการนำไปใช้ ในด้านของพืชเสพติดผ่านร่างกฎกระทรวงที่อนุมัติให้บุคคลธรรมดาและนิติบุุคคลสามารถปลูกกัญชงได้ และมีการควบคุมการจำหน่าย การครอบครอง และอนุญาตให้ครัวเรือนปลูกได้ไม่เกิน 1 ไร่ แต่ต้องมีใบอนุญาตในสายพันธุ์ที่รัฐกำหนดให้ คนทั่วไปที่หวังผลตอบแทนรายได้จากกัญชง ยังคงไม่สามารถเพาะปลูกจำหน่ายได้ในปัจจุบัน

เพราะแม้จะปลดล็อคกัญชงออกจากสารเสพติดประเภท 5 แล้วก็ยังคงผิดกฎหมาย เนื่องจากข้อกฎหมายใหม่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ลงนามในกฎกระทรวงและประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อมีผลใช้บังคับต่อไป และตราบใดที่ข้อกฎหายใหม่ยังไม่ประกาศใช้ ก็ยังไม่สามารถปลูกกัญชงเชิงเศรษฐกิจการค้าได้อย่างอิสรเสรี 

ปัจจุบันสามารถขออนุญาตปลูกกัญชงได้ครัวเรือนละไม่เกิน 1 ไร่ เพื่อปลูกและพัฒนาสายพันธุ์กัญชงในระยะ 5 ปีแรก และห้ามมิให้นำเข้ายกเว้นเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น

 

ประโยชน์ของกัญชงสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มหาศาล

ประโยชน์ของกัญชงนั้นมีมากมายหลายด้าน ทั้งในส่วนของการนำมาทักทอเป็นเส้นใยที่มีความแข็งแรงทนทานสูง สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์จากเส้นใยได้กว่า 5,000 ชนิด ประโยชน์จากโปรตีนซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าโปรตีนจากถั่วเหลือง มีปริมาณเส้นใยสูงและยังมีราคาที่ถูกกว่า โปรตีนในเมล็ดของกัญชงสามารถนำมาผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการได้หลากหลาย

นอกจากนี้ยังมีน้ำมัน Omega-3 ที่เป็นกรดไขมันที่มีอยู่ในน้ำมันจากปลาและกัญชงเท่านั้น และสิ่งที่ทำให้พืชกัญชงมีมูลค่าสูงก็คือสาร CBD ที่มีประโยชน์มากต่อวงการอุตสาหกรรมอาหารและยา นำมาผลิตเป็นเครื่องดื่ม อาหารเสริม เครื่องสำอาง ยารักษาโรคได้ จึงทำให้กัญชงที่ซื้อขายกันในตลาดนั้นมีราคา ซึ่ง CBD ย่อมาจาก cannabidiol เป็นสารที่พบมากในกัญชามากกว่ากัญชง มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ ช่วยทำให้ผู้ป่วยอยากอาหารมากขึ้น ลดความวิตกกังวล ช่วยในการนอนหลับ บรรเทาอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อ ลดการอักเสบ ระงับอาการคลื่นไส้อาเจียน ลดภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด ต้านอาการของโรคลมชักที่รักษายากหลายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งลมชักหลายประเภทในเด็ก

รศ.ดร.วิเชียร กีรตินิจกาล ผู้ทรงคุณวุฒิ ภาควิชาพืชไร่นา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และที่ปรึกษาการปลูกและการปรับปรุงพันธุ์กัญชา องค์การเภสัชกรรม ได้ให้ข้อมูลมูลค่าทางการตลาดของกัญชง ในส่วนของผู้ปลูกไว้ว่า การปลูกกัญชงเพื่อเอาเส้นใยจะได้เงินน้อยกว่าการปลูกกัญชงเพื่อเอาเมล็ด แต่การปลูกกัญชงเพื่อเอาเมล็ดก็จะได้เงินน้อยกว่าการปลูกกัญชงเพื่อเอาสาร CBD

- ปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากเส้นใย จะทำกำไรได้ไร่ละ 2,000 บาท

- ปลูกเพื่อเอาเมล็ด จะทำกำไรได้ 20,000 บาท

- ปลูกเพื่อเอาสาร CBD ที่ยังขาดตลาดและมีความต้องการสูงมาก จะได้กำไรสูงถึง 2,000,000 บาท หรือเฉลี่ยกิโลกรัมละประมาณ 70,000 กว่าบาท


บริษัท Charlotte’s Web สหรัฐอเมริกาเป็นบริษัทกัญชงที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่ามีมูลค่ากว่า 45,000 ล้านบาท จัดเป็นบริษัทกัญชงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตสินค้าเพื่อความสวยงาม และสินค้าอาหารเสริม จากกัญชง หรือสารสกัดจาก CBD (Cannabidiol) โดยขายสินค้าผ่านทั้งออนไลน์ รวมทั้งร้านค้าปลีกกว่า 6,000 สาขา มีผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด โดยในปี 2016 มีรายได้ 460 ล้านบาท ปี 2017 มีรายได้ 1,300 ล้านบาท และปี 2018 รายได้ 2,200 ล้านบาท

โดยประเทศสหรัฐฯ จีน ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ แคนาดา และอีกหลายประเทศทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ ปลูกกัญชงเชิงพืชเศรษฐกิจและสร้างมูลค่าเข้าประเทศได้มหาศาล ภาพรวมของตลาดโลกในอุตสาหกรรมกัญชงยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยกัญชง ที่ได้รับความนิยมสูงจากผู้บริโภค ในปี 2019 มูลค่าการตลาดอยู่ที่ 4.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 124.6 ล้านบาท คาดการณ์ว่าในปี 2025 มูลค่าการตลาดจะมีโอกาสเติบโตถึง 26.6 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 824.6 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกว่า 34% จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย ในการเข้าถึงส่วนแบ่งทางการตลาดนี้ หากภาครัฐเปิดไฟเขียวดันกัญชงให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่ปลูกเชิงพาณิชย์ได้อย่างไม่ผิดกฎหมายได้จริงๆ เสียที.

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.oncb.go.th/ncsmi/hemp7/

https://www.longtunman.com/ 



สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


ประเมินอนาคตตลาด ‘กัญชาทางการแพทย์’ อีก 5 ปี

จับตาการปลดล็อกกัญชงมุ่งพัฒนาเพื่อการส่งออก


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

วางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้ราบรื่น สไตล์ไม่เครียด

วางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้ราบรื่น สไตล์ไม่เครียด

ธุรกิจครอบครัว (Family Business) เป็นหน่วยธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญของเศรษฐกิจไทยที่กระจายตัวอยู่ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยการส่งต่อความสำเร็จในธุรกิจครอบครัวจากรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่ง…
pin
18 | 04/06/2025
งาน TFBO 2025 งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

งาน TFBO 2025 งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

พบกับงาน TFBO 2025 งานแสดงแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ Website: thailandfranchising.comวันที่:…
pin
13 | 30/05/2025
Net Zero คืออะไร ทำไม SME จึงควรเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้ !

Net Zero คืออะไร ทำไม SME จึงควรเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้ !

เข้าใจความหมายของ Net Zero แตกต่างจาก Carbon Neutral อย่างไร พร้อมเหตุผลที่ SME ไทยควรเริ่มปรับตัว เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและรองรับอนาคตที่ยั่งยืนContent…
pin
23 | 19/05/2025
ไขข้อข้องใจ ‘กัญชง’ ปลูกเชิงการค้าได้หรือไม่