การพัฒนาทักษะด้านการฟังให้เป็นและมีมารยาทสำคัญพอๆ
กับทักษะด้านการพูด อ่าน เขียน
เพราะจะสามารถสร้างโอกาสอันดีให้เกิดขึ้นกับตัวเองได้ในหลายด้าน อาทิเช่น
ช่วยเพิ่มทักษะความรู้ให้แก่ตัวผู้ฟัง ทำให้เป็นคนที่มีเสน่ห์น่าสนใจ
ทำให้สามารถจับใจความสำคัญของเรื่องราวที่ผู้พูดกำลังสื่อออกมาได้ จึงสามารถนำไปปรับใช้กับการขาย
เสริมโอกาส และความก้าวหน้าในการทำงานได้อีกด้วย
แต่กลับมีผู้คนจำนวนมากไม่สนใจพัฒนาทักษะด้านการฟัง และคิดว่าเป็นทักษะที่จะสามารถพัฒนาได้เองตามธรรมชาติ จึงทำให้พลาดโอกาสสำคัญในชีวิตไป มีงานวิจัยศึกษาจากกลุ่มผู้ฟังจำนวน 100 คน พบว่ามีเพียง 10 คนเท่านั้นที่มีทักษะด้านการฟังที่ดี โดยกลุ่มคนตัวอย่างที่เหลือ 90 คนนั้นไม่สามารถบอกได้ว่า การฟังอย่างมีไหวพริบ การฟังอย่างเป็นระบบ หรือการฟังอย่างตรงประเด็นนั้นเป็นอย่างไร
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมการแค่รับฟังใครคนหนึ่งพูด
เล่าเรื่อง อย่างมีจังหวะจะโคน มีมารยาทในการเป็นผู้ฟังที่ดี
และรู้จักหยุดฟังได้ถูกจังหวะเวลา จึงนำมาซึ่งโอกาสบางอย่างที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนเราไปตลอดกาล
เพราะโอกาสดีๆ บางทีก็วิ่งเข้าหาชีวิตเราจากการเป็นผู้ฟังที่ดี
ด้วยเหตุนี้การฝึกฝนพัฒนาได้ จากการฝึกฟังแล้วสบตาผู้พูด
ไม่พูดขัดจังหวะหรือพูดแทรกระหว่างที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ
มีการตอบสนองในการฟังตลอดการสนทนา เช่น ค่ะ ครับ
เพื่อสื่อให้รู้ว่ากำลังตั้งใจฟังอยู่ และจับประเด็นจากการฟังด้วยการตั้งคำถาม
จากเรื่องที่ได้รับฟังมา และจดประเด็นสำคัญระหว่างการสนทนาเอาไว้
เพื่อให้ทบทวนและตั้งคำถาม ก็จะทำให้เกิดทักษะการฟังที่ดี
ที่จะนำไปสู่โอกาสอันดีแก่ชีวิต แค่เพียงหยุดฟังก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้
5 ทักษะการ ‘ฟัง’ อย่างไรจึงได้ประโยชน์
1.
การตั้งใจฟังในสิ่งที่ได้ยินจะช่วยทำให้เห็นภาพชัดเจน เมื่อใดก็ตามที่มีใครคนหนึ่งมาพูดอะไรฟัง หรือแม้แต่การต้องไปติดต่อพูดคุยกับลูกค้า
หรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ จะทำให้เห็นภาพที่เกิดในสิ่งที่เขาพูดได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ซึ่งจะทำให้ประเมินความต้องการของคนที่พูดคุยด้วยได้ และนำไปสู่การนำเสนอที่โดนใจ
หรือปิดการขายได้ตรงจุด
2. การตั้งใจฟัง
ซัก-ตอบคำถามอย่างใส่ใจในรายละเอียดจะทำให้ได้ใจคู่สนทนา ไม่ว่าการสื่อสารนั้นจะกระทำผ่านการแชทหรือการพูดคุยทางโทรศัพท์หรือต่อหน้า
หากทุกคำพูดที่พูดมา หรือทุกคำถามที่ถามไป ได้รับการตอบกลับมาแบบไม่ตกหล่น
และมีการซักถามกลับในคำตอบนั้นๆ กลับไป
นั่นเป็นการแสดงถึงความใส่ใจในการรับฟังที่ดีของคู่สนทนา
3. การตั้งใจฟังที่ดีจะทำให้รู้แม้แต่ประโยคที่ผู้พูดไม่ได้กล่าวออกมา
การฟังที่ดีไม่ได้หมายถึงการได้ยินในสิ่งที่ผู้พูดเพียงอย่างเดียว
แต่จะทำให้เข้าถึงแม้กระทั่งความหมายที่ผู้พูดไม่ได้พูดออกมา และได้ยินสภาวะอารมณ์ของผู้พูดว่าเป็นแบบใด
ทำให้สามารถค้นพบความต้องการลึกๆ ในใจของคู่สนทนาจนนำไปสู่การขาย
การเข้าถึงหรือการโน้มน้าวได้
4. การฟังที่ดีทำให้สามารถจับประเด็นใจความสำคัญได้ไม่ตกหล่น
โดยการฟังเป็นทักษะสำคัญในทุกงาน หากแต่จะสำคัญมากกับงานด้านการติดต่อสื่อสารประชาสัมพันธ์
เพราะทำให้เก็บประเด็นใจความสำคัญได้อย่างครบถ้วนว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร จึงนำไปต่อยอดในงานต่างๆ ได้
5. การฟังที่ดีนำไปสู่ความเชื่อมั่นในตัวเองและความสำเร็จ
เพราะในทุกบทสนทนาที่ตั้งใจฟังมักจะได้คำตอบ
ความรู้ ประสบการณ์ มุมมองแปลกใหม่กลับมาให้ต่อยอดความคิด พัฒนาทักษะใหม่ๆ
ให้เกิดขึ้นเสมอ ฉะนั้นแม้แต่ข้อคิดดีๆ
เพียงหนึ่งคำที่นำมาปฏิบัติตามแล้วประสบความสำเร็จ
ก็ทำให้คนเราเกิดความมั่นใจพัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จได้
แหล่งอ้างอิง