หากคุณเป็นคนหนึ่งที่พร่ำบ่นว่า
ทำงานมานานหลาย 10 ปีมีแต่หนี้เมื่อไหร่จะรวย? ทำเท่าไหร่ก็ไม่รวยขึ้น?
จะบริหารการเงินอย่างไรดีมีแต่หนี้ทั้งนั้น? ชาตินี้ก็ไม่มีวันรวยได้หรอก?
ต้องรีบกลับมาปรับเปลี่ยน Mild Set หรือ
วิธีคิดโดยด่วน
ก่อนที่จะจนอย่างที่ใจคิดจนไม่มีโอกาสพลิกชีวิตสู่ความร่ำรวยที่ดีขึ้น เพราะแรง Negative
Thinking หรือปมย่ำแย่ด้านการเงินที่ฝังจำในใจ
อาจจะได้มาจากวิถีชีวิตของพ่อแม่ คนรอบข้างหรือเกิดขึ้นจากชีวิตตัวเอง
ล้วนแต่เป็นต้นเหตุชักนำให้ห่างไกลจากความสำเร็จทางการเงินทั้งสิ้น
ถ้าไม่เชื่อให้ลองพิจารณาประโยคเหล่านี้ดูว่า
ประโยคไหนจะทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ระหว่าง
“เงินทองมันหายากมาก
ต้องประหยัดและระวังการใช้จ่ายให้ดี”
“เงินทองหาได้ไม่ยาก
ถ้ารู้จักวิธีในการเข้าถึง ใช้จ่าย และจัดเก็บให้ดี”
แน่นอนว่าพลังงานการสร้างสรรค์และความรูสึกด้านดีๆ
จะตกไปอยู่ในประโยคแบบที่สอง ซึ่งคนที่คิดในแบบสองมีโอกาสที่จะเป็นคนประสบความสำเร็จในการเงินและพลิกชีวิตสู่ความร่ำรวยได้ในเวลาไม่นาน
ตรงข้ามกับคนที่คิดแบบหนึ่ง ที่ต่อให้ประหยัดเงินให้ตาย ระวังไม่ใช้จ่ายอะไร
การเงินก็จะย่ำแย่ไม่พอใช้และไม่มั่งมีตลอดชีวิต เพราะมีตรรกะความคิดความเชื่อฝังหัวเกี่ยวกับการเงินในด้านลบ
ทำให้ยากที่จะพบโอกาสในการต่อยอดทางการเงิน หรือหลุดพ้นจากปัญหาหนี้สิน เพราะมีการจัดการหา-ใช้-เก็บที่ไม่ดีพอ
ดังนั้นนี่เป็นอีก 10 วิธีคิดและจัดการกับการเงินส่วนบุคคลให้หลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือนที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง การบริหารการเงินแบบผิด-พลาด-พัง และช่วยทำให้มีพลังจัดการกับการเงินที่ย่ำแย่ จนสามารถพลิกชีวิตสู่ความร่ำรวยได้ด้วยเงินตัวเอง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. ตั้งเป้าหมาย สร้างความฝันให้ตัวเอง
ตัวช่วยในข้อนี้คือการนั่งลิสต์รายการเหตุผลที่ตัวเองอยากรวยหรือความจำเป็นที่ต้องมีเงินมากมายนั้นอยู่บนพื้นฐานความต้องการด้านใด
โดยลิสต์เป็นเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพราะในลิสต์ความต้องการเหล่านี้จะช่วยปรับเปลี่ยน
Mildset ให้รู้สึกดีเกี่ยวกับเงินได้ ไปกระตุ้นความต้องการอันเป็นความฝันและเป้าหมายที่ปูทางวางไว้
เพราะเงินนั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตและความคิดผู้คนมาก เป็นวัตถุที่ทรงพลัง
สามารถทำให้คนมีความเย่อหยิ่ง ภาคภูมิใจ และด้อยค่าได้ในคราวเดียวกัน แต่เมื่อไหร่ที่เรามีความฝันถึงความร่ำรวยด้วยเหตุผลที่ตัวเองต้องการ
ความฝันนั้นจะนำพาชีวิตเราเข้าใกล้ความร่ำรวยได้จริงๆ จงรู้เอาไว้ เงินทองเป็นของมีค่าที่คู่ควรกับทุกคนบนโลกนี่รู้ค่าของเงิน
2. เริ่มทำตามเป้าหมายตาม
เลือกความฝันที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลาไม่นาน
เป็นเป้าหมายระยะสั้นในปีนี้หรือปีหน้า แล้วมุ่งมั่นทำตามความฝันนั้น เช่น
อยากมีรายได้นอกเหนือจากงานประจำอีก 10,000 บาท ภายในปี 2021
เพราะการโฟกัสเป้าหมายให้ชัด จะทำให้จิตใจเกิดการจดจ่อ ตื่นเต้น
มุ่งมั่นและพยายามที่จะทำให้ชีวิตตัวเองเข้าใกล้เป้าหมาย
3. บันทึกถึงความสำเร็จในชีวิต
การได้จดบันทึกถึงความสำเร็จที่เคยทำในชีวิตที่ผ่านมา
และความสำเร็จที่เกิดขึ้นแต่ละวันในชีวิต เป็นการเพิ่มพลังงานด้านบวกให้ตัวเอง
ทำให้เกิดความเคารพและเห็นคุณค่าในตัวเอง
จนสามารถประเมินออกมาเป็นมาตรวัดของอัตราการจ้างงานของเราเองได้ว่า
ตัวเรามีมูลค่าเท่าไหร่ แม้ว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นสิ่งเล็กน้อย เช่น
การตั้งใจตื่นเช้าไปทำงาน ไม่สาย ไม่ขาด ไม่ลา
ก็สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานบวกให้ตัวเองได้ทั้งสิ้น
4. สุขภาพกายใจต้องแข็งแรง
การโหมร่างกายทำงานหนัก ขาดการออกกำลังกาย
มีแต่จะทำให้เสียสุขภาพและไม่ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายได้โดยง่าย เพราะสุดท้ายแล้วคนเราจะมีความสามารถในการหาเงินได้เท่ากับพลังกายพลังใจของตัวเอง
ทุกๆ เรื่องเราไม่สามารถทำดีได้เกินกว่ากำลังของตัวเองจะทำไหว ดังนั้นร่างกายและสุขภาพจิตที่แข็งแรงเท่านั้นที่จะทำให้เข้าใกล้ความร่ำรวยได้
เพราะกว่าจะรวยได้ต้องคิด ทำอะไรอีกมากมาย
ดังนั้นคนเราจะรวยขึ้นได้ต้องมีกายใจแข็งแรง
5. อย่าเสียพลังกายไปกับเรื่องที่ไม่มีผลตอบแทนมอบให้
ด้วยพลังของร่างกายเรามีจำกัด
การทำเรื่องนั้น-นี้-โน้นที่ไม่ให้ผลตอบแทนหรือทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม
ทั้งด้านความรู้ สติปัญญา หรือการหาทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่คนรวยเลือกที่จะไม่ทำทั้งสิ้น
พวกเขาจะโฟกัสแต่เป้าหมายสำคัญที่ให้ผลตอบแทนได้ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้เท่านั้น
6. อย่าฝากชีวิตไว้กับงานเพียงงานเดียว
บนความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
เหมือนที่หลายชีวิตได้ตระหนักกันดีในช่วงที่โรคโควิด 19
เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างจนต้องปิดเมือง ปิดประเทศ ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก
ผู้คนถูกสั่งลดเงินเดือน พักงาน ไปจนถึงตกงาน
จากงานประจำที่คิดว่ามีความมั่นคงหรือแม้แต่กิจการที่คิดว่าไปได้สวย ดังนั้นจงอย่าฝากชีวิตไว้กับงานเพียงงานเดียว
ควรมีช่องทางที่ 2-3-4-5 มาช่วยเสริม
เพื่อให้อย่างน้อยก็ยังคงมีรายได้เข้ามาประครองชีวิต และมีเงินเก็บมากขึ้นในการทำตามความฝัน
7. ความสามารถในการหาเงินสัมพันธ์กับความเชื่อมั่นในการหาเงินเสมอ
เพราตราบใดที่ยังคิดว่า
“เงินทองหายาก” จิตใจก็จะเกิดความหดหู่ ไม่สู้ชีวิต
คิดแต่จะสร้างกำแพงขึ้นมาขัดขวางช่องทางการหาเงินเพิ่มขึ้น
เพราะจะมองเห็นความเหน็ดเหนื่อยในการหางาน หาเงิน จนไม่อยากเริ่มต้นทำอะไรเลย
กลับกันกับความคิดที่ว่า “เงินทองนั้นหาได้ง่ายดายหลายทาง” จิตใจก็จะเกิดความฮึกเหิม
มุ่งมั่น เชื่อมั่น เห็นคุณค่าในตัวเองและเคารพตัวเอง
จึงมีพลังงานด้านดีที่จะทำให้สามารถมองหาช่องทางการเงินเพิ่มเติมได้ทุกทางแม้แต่ในวิกฤติ
คนที่คิดแบบนี้ก็จะเห็นแต่โอกาสเต็มไปหมด ดังนั้นจงเปลี่ยนความคิด
สร้างความเชื่อมั่นในด้านดีให้ตัวเองเสียใหม่ เพื่อให้สามารถหาเงินได้มากขึ้นตามที่ต้องการ
8. ปรับการผ่อนชำระหนี้ต่างๆ
ให้น้อยที่สุด
มีเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้คนที่มีหนี้บริหารเงินผิดพลาด
คือความต้องการจะหมดหนี้ในเร็ววันและไม่อยากเป็นหนี้นาน จึงอัดรายได้ที่หามาได้ตลอดเดือนหรือตลอดชีวิตไปกับการพยายามลดยอดหนี้
ทำให้พลาดโอกาสในการได้ใช้ชีวิต นำเงินไปเก็บหรือลงทุน
และมีหลายต่อหลายครั้งที่ทำให้พวกเขาเกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง จนต้องนำตัวเองเข้าสู่วงการหมุนเวียนเงินกู้ยืมใหม่
เพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ซึ่งตามหลักคิดของมหาเศรษฐีและคนร่ำรวยนั้นมักจะทำตรงกันข้ามกับกลุ่มคนที่มีปัญหาทางการเงินทำ
นั่นคือการให้เงินที่หามาได้สร้างความสุขให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย
และใช้มันสร้างโอกาสในการลงทุนเพื่อหาผลกำไร ทำให้เงินงอกเงย และอาจทำให้มีเงินย้อนกลับมาปิดหนี้ได้หมดในคราวเดียวก็ได้
ซึ่งความคิดแบบหลังจะช่วยทำให้จิตใจไม่หดหู่ไปกับความคิดที่ว่า
“หาเงินมาเหนื่อยแทบตายตลอดทั้งเดือนแทบจะไม่ได้ใช้เงิน
เพราะต้องผ่อนนู่นนี่นั่นหมด” และมีพลังที่จะกล้าคิด ตัดสินใจ หรือใช้ชีวิตต่อไป
9. รักษากฎ 50-50 ได้
การบริหารเงินที่ถูกวิธี คือการแบ่งเงินรายได้สุทธิที่ได้รับออกตามกฎ
50/50 โดยให้ 50 แรกเป็นเรื่องของภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ
และไม่ควรให้ภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ มีมากเกินจำนวนเงิน 50% ที่แบ่งออกมา แล้วนำส่วน 50%
ที่เหลือมาแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 30/20 เพื่อนำเก็บไว้ใช้สำรองเผื่อฉุกเฉิน 30%
และนำไปลงทุนให้เงินงอกเงย 20%
10. อย่าฆ่าห่านทองคำเพียงเพราะหิวและต้องการแค่เนื้อห่าน
ห่านทองคำเป็นส่วนหนึ่งของนิทานเรื่อง
“แจ๊คกับถั่ววิเศษ” ที่รู้กันในระดับสากลทั่วโลกว่า
ห่านธรรมดาตัวหนึ่งในเมืองยักษ์ สามารถออกไข่มาเป็นทองคำก้อนบริสุทธิ์ได้ ดังนั้นจงอย่าฆ่าห่านเพียงเพื่อเอาเนื้อห่านมาประทังความหิวในยามขัดสน
เพราะจะทำให้ขัดสนจนไปตลอดชีวิตไม่มีโอกาสได้งอกเงยมาสู่ชีวิตที่ดีกว่า
เพราะห่านนั้นเปรียบเสมือนเงินที่นำไปใช้ลงทุนในหุ้นหรือธุรกิจต่างๆ ที่จะทำผลกำไรให้เราได้ตลอดเวลา
จากการออกไข่มาเป็นทองคำ
ดังนั้น หากคุณต้องเก็บเงินไว้ในรูปแบบหุ้นสหกรณ์
ที่สามารถกู้ฉุกเฉิน กู้เพื่อที่อยู่อาศัย หรือกู้อะไรต่ออะไรได้
พร้อมกับได้เงินปันผลคืน
จงอย่าลาออกจากการเป็นสมาชิกหุ้นเพียงเพราะขัดสนเรื่องการเงิน และเห็นว่าเงินต้นที่ส่งไปนั้นมียอดสูงลิ่วแล้ว
เพราะนั่นจะเท่ากับว่าคุณได้ฆ่าห่านทองคำที่กำลังอ้วนพลีของคุณเองทิ้งไป
ทำให้เสียโอกาสทางการเงินที่ได้จากการลงทุนที่ดีในอนาคต
แหล่งอ้างอิง : ปาร์กจงกี.“รู้แล้วเหยียบไว้มหาเศรษฐีคนต่อไปคือคุณ” กรุงเทพมหานคร : ชอร์ตคัต.2558
เจนจิรา เสรีโยธิน (แปล). “ วิธีคิด วิธีรวย หมาน้อยสอนรวย.กรุงเทพมหานคร : Bee Media.2557