Renewable เป็นหัวใจสำคัญในการจัดการทรัพยากรต่างๆ
ของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรนั้นๆ
ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ได้อย่างมีศักยภาพ
เพื่อลดการใช้อย่างสิ้นเปลือง ลดการเสื่อมถอยของสภาพแวดล้อม
และลดจำนวนของเสียที่เหลือค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จนนำไปสู่การไม่มีของเสียหลงเหลืออยู่ในขบวนการผลิตหรือวงจรการใช้งานอีกเลย
โดยจัดการกับวัสดุต่างๆ ที่ยังใช้งานได้ในวงจรการผลิตหรือกระบวนการใช้งาน ให้เป็นวัตถุดิบที่ยังมีประโยชน์ต่อการนำไปสู่การผลิตชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์และบริการ ผ่านการรีไซเคิล การปรับปรุงใหม่ การผลิตใหม่ การใช้ซ้ำ การกระจายวัตถุดิบใหม่ การบำรุงรักษา การยืดอายุ และการแบ่งปัน เพื่อให้วัสดุนั้นเกิดการรั่วไหลไปนอกระบบน้อยที่สุดและเกิดผลกระทบน้อยที่สุด รวมถึงมีการจัดทรัพยากรหมุนเวียนผ่านการใช้ใหม่ตามสภาพ เช่นนำวัสดุนั้นไปทำเป็นปุ๋ยในไร่นา นำไปสกัดสารเคมีชีวภาพ นำไปหมักย่อยแบบไร้อากาศเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ (Biogas) สร้างทรัพยากรทดแทนให้แก่โลก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
การใช้ทรัพยาการหมุนเวียนนั้นจะอยูบนพื้นฐานแนวคิดของเศรษฐกิจหมุนเวียน
(Circular Economy) เพื่อนำไปสูความยั่งยืน ใน 8
หลักการที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางของกระบวนการผลิตไปจนถึงปลายทางการใช้งาน ก่อนหมุนกลับสู่การผลิตอีกครั้ง
ได้แก่
1. Durability การผลิตหรือออกแบบสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์เพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
โดยเพิ่มความคงทน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการลดใช้ทรัพยากร
หรือลดของเสียจากซากเหลือทิ้ง
2. Renewability
การผลิตหรือการออกแบบสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์
โดยนำวัสดุที่ประกอบด้วยชีวมวลที่มาจากสิ่งมีชีวิต
หรือที่สามารถสร้างทดแทนได้อย่างต่อเนื่องมาใช้ในการผลิต
3. Reuse การผลิตหรือออกแบบสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์
เพื่อสามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้งตลอดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั้นๆ
4. Repair การออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อให้สามารถทำการบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมได้
เมื่อเกิดความเสียหาย เป็นการยืดอายุการใช้งาน
5. Replacement การผลิตหรือออกแบบสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์
เพื่อเปลี่ยนหรือทดแทนการใช้วัสดุแบบเดิม ที่อาจใช้ได้ครั้งเดียวหรือมีสารอันตราย
เป็นการใช้วัสดุทางเลือกหรือการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตเข้ามาแทน
6. Upgrade การเพิ่มประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์บางชิ้นของผลิตภัณฑ์
เพื่อให้ใช้งานได้ทันสมัย โดยไม่ต้องผลิตใหม่หรือทิ้งเป็นขยะ
7. Refurbishment
การซ่อมแซมหรือปรับปรุงสินค้าที่ได้รับความเสียหาย มีตำหนิ
ที่สามารถส่งคืนกลับไปยังผู้ผลิต
พร้อมรับการตรวจสอบตามมาตรฐานของโรงงานอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนนำกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้ง
8. Reduced Material Use
การผลิตหรือออกแบบสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์
เพื่อลดปริมาณวัสดุที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต การจัดจำหน่าย
การกระจายสินค้าและบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องบริการ
การจัดการตามแนวทางของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนดังกล่าว
จะทำให้ต้นทุนสินค้าต่ำและสร้างมลภาวะสู่โลกน้อยลง
อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาด้านการขาดแคลนสินค้าบางชนิดที่เป็นทรัพยากรและวัสดุหายาก
จากการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด
การจัดการทรัพยากรแบบหมุนเวียนที่มีการนำมาใช้ในปัจจุบัน
1. การจัดการด้านพลังงาน ทำให้เกิดพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) จากแหล่งที่สามารถกำเนิดพลังงานขึ้นมาเองได้
แล้วสามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้อีก แบบไม่ส่งผลหระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
การผลิตกระแสไฟ้ฟ้าด้วยพลังงานลม น้ำ แสงอาทิตย์ หรือการนำวัสดุที่เหลือจากขบวนการผลิตและใช้งานมาทำให้เกิดพลังงาน
เช่น การผลิตก๊าซใช้ในครัวเรือนจากแก๊สที่ได้โดยการหมักมูลสัตว์
,การนำน้ำมันพืชที่ใช้งานแล้วมาผลิตเป็นไบโอดีเซล
หรือนำพลังงานความร้อนจากเคมีไฮโดรเจนมาใช้ประโยชน์
2. การจัดการแบบ Upcycle
and Recycle เป็นการจัดการวัสดุเหลือใช้หรือวัสดุใช้แล้วแบบทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มและนำกลับมาใช้ใหม่
โดยอัพไซเคิล (Upcycle) เป็นกระบวนการแปลงสภาพของวัสดุหรือสิ่งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์
มาเปลี่ยนเป็นวัสดุใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวงจรการใช้งานเดิมของวัสดุนั้น
ผ่านการออกแบบเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ เช่น การแปรรูปขยะจากพลาสติกถุงปุ๋ย
การนำถุงปุ๋ยมาทำเป็นกระเป๋าดีไซน์สวยงาม การนำขวดพลาสติกมาผลิตเป็นโคมไฟประดับแต่งสถานที่
การนำกะลามะพร้าวที่เหลือจากการแปรรูปมะพร้าวมาผลิตจานชามของตกแต่งบ้าน
การนำเสื้อยืดเก่ามาปรับเปลี่ยนเป็นถุงผ้า เป็นต้น
สำหรับการรีไซเคิล (Recycle) คือ
การนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ เป็นการส่งคืนวัสดุกลับสู่กระบวนการผลิต ผ่านวงจรของการมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันแทนการทิ้งวัสดุเหล่านั้นไป
เช่น การรีไซเคิลกระดาษที่สามารถรีไซเคิลกลับมาเป็นกระดาษเพื่อใช้ในการพิมพ์
หรือเปลี่ยนไปเป็นกระดาษแข็งสำหรับใช้งานบรรจุภัณฑ์ แบบเกิดขึ้นได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
หรือการนำวัสดุที่แตกหักเสียหายกลับเข้าสู่กระบวนการแปรรูป เช่น
การหลอมขวดแก้วใบเก่าให้เป็นขวดแก้วใบใหม่ และการนำวัดุเหลือใช้ทางการเกษตรกรคืนสู่พื้นที่การเกษตรในรูปแบบใหม่
เช่น การนำชิ้นส่วนพืชที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตไปหมักเป็นปุ๋ย
แล้วนำกลับไปบำรุงพืช บำรุงดินอีกครั้งหนึ่งเป็นต้น
แหล่งอ้างอิง
https://www.greennetworkthailand.com/
https://www.expressplaspack.com/