นักท่องเที่ยวอินเดียกลับมาแน่! หลังพ้นวิกฤต COVID-19

SME in Focus
04/06/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 4427 คน
นักท่องเที่ยวอินเดียกลับมาแน่! หลังพ้นวิกฤต COVID-19
banner

ภาพรวมการท่องเที่ยวในปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 39.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลี และลาว โดยประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 3.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.37% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ว่าในปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวของไทย จะได้รับผลกระทบในหลายด้านแต่ตัวเลขดังกล่าวก็ถือว่าทำได้ดี

ขณะที่ อินเดียนับเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดี และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปี 2561 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 1.99 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวอินเดียได้มากขึ้น ถูกหยิบยกมากล่าวถึงอีกครั้งภายใต้การคลี่คลายของโควิด-19 และธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมต่างเฝ้ารอวันที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาไทยอีกครั้ง

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

จากสถิติในปี 2562 นักท่องเที่ยวอินเดียเลือกนิยมเที่ยวกรุงเทพฯ พัทยา และมีแนวโน้มที่จะเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวใหม่เพิ่มมากขึ้น เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย เชียงราย กระบี่ พระนครศรีอยุธยา และเกาะช้าง ด้านกิจกรรมใหม่ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น คือ กลุ่มถ่ายทำภาพยนตร์ กลุ่มเดินทางเพื่อการประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล รวมถึงกลุ่มฮันนีมูนอีกด้วย

Thomas Cook (India) Ltd. บริษัทบริการด้านการท่องเที่ยว และ SOTC Travel LTd. บริษัทในเครือ ได้ทําการสํารวจผู้บริโภค 2,500 คน ในเมือง Tier 1 และ Tier 2 ทั่วอินเดีย เช่น มุมไบ เดลีเบงกาลูรู เจนไน โกลกาตา ไฮเดอราบัด ปูเน่ลัคเนาว์เป็นต้น โดยครอบคลุมกลุ่มอายุ 4 กลุ่ม คืออายุต่ำกว่า 30 ปี อายุ 31-44 ปี อายุ 45-59 ปีและ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถาม 76% มีอายุระหว่าง 28-55 ปี พบผลสํารวจที่สําคัญ ดังนี้

1. ชาวอินเดียพร้อมจะท่องเที่ยวอีกครั้ง ผลสํารวจพบว่าราว 14% ของผู้ตอบแบบสอบถามพร้อมที่จะเดินทางในปี 2563 หากมีการผ่อนปรนมาตรการแล้ว ในขณะที่ 45% เลื่อนแผนการเดินทางออกไปเป็นปี 2564 และอีก 41% ยังไม่ได้ตัดสินใจ โดยผู้ที่พร้อมเดินทางในปี 2563 วางแผนไว้ในเดือนพฤศจิกายน (29%) และธันวาคม (50%) เป็นส่วนใหญ่

2. แบรนด์ดังจะได้รับความนิยม ผู้ตอบแบบสอบถาม 72% จะเลือกแบรนด์ยอดนิยมในการเดินทาง ทั้งบริษัททัวร์เครือโรงแรม เป็นต้น และ 75% ให้ความสําคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 โดย 35% พร้อมที่จะจ่ายเงินมากกว่าเพื่อความมั่นใจ

3. เน้นการท่องเที่ยวในประเทศ ผู้ตอบแบบสอบถาม 64% เลือกที่จะเดินทางในประเทศ โดยจุดหมายหลัก ได้แก่ ลาดักห์(20%) กัว (17%) อินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ (15%) เกรละ (11%) รัฐหิมาจัลประเทศและแคชเมียร์ รวมถึงประเทศภูฏาน (17%) อีกทั้งยังเลือกที่จะเดินทางไปยังเมืองที่สามารถขับรถไปเองได้ เช่น คูร์ก อู ตีมัส ซูรี ชิมลา อัมริตสาร์ มุนนาร์ เป็นต้น ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามอีก 36% เลือกที่จะเดินทางไปต่างประเทศ โดย 41% เลือกจุดหมายใกล้เคียง เช่น ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ดูไบ และอาบูดาบี เป็นต้น ส่วนอุปสงค์สําหรับจุดหมายที่ไกลออกไป คาดว่าจะกลับมาในไตรมาส 4 ของปีนี้ เช่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (20%) สหรัฐอเมริกา (16%) และยุโรป (38%) โดยประเทศในยุโรปที่นักท่องเที่ยวอินเดียสนใจมากที่สุด ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐเช็ก

4. เดินทางเป็นกลุ่มเล็กลง ผู้ตอบแบบสอบถามมีแนวโน้มที่จะเดินทางเป็นกลุ่มเล็กลง เนื่องมาจากเหตุผลด้านสุขภาพและสุขอนามัย โดย 63% เลือกที่จะเดินทางไปกับญาติเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน อีก 25% เลือกเดินทางไปกับกลุ่มไม่เกิน 20 คน และอีก 12% เลือกเดินทางไปกับกลุ่มใหญ่ 35 คนขึ้นไป

5. ระยะเวลาพักผ่อนไม่เกิน 7 วัน ผลสํารวจพบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 86% เลือกที่จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-11 วัน (51% เลือกระหว่าง 4-7 วัน และอีก 35% ระหว่าง 8-11 วัน) ส่วนอีก 14% เลือกที่จะใช้เวลากับการเดินทางพักผ่อน 12 วันขึ้นไป

6. ชอบการเดินทางที่ประหยัดและคุ้มค่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 67% กล่าวว่าจะใช้จ่ายไม่เกิน 1 แสนรูปีต่อคน ในการเดินทางพักผ่อนครั้งต่อไป อีก 11% กล่าวว่าไม่เกิน 2 แสนรูปีต่อคน

7. ยังคงเลือกจองการเดินทางแบบออฟไลน์ ผลสํารวจระบุว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 58% ยังคงเลือกที่จะจองการเดินทางผ่านร้านค้าปลีกหรือบริการที่บ้าน (38% ที่ร้านค้าปลีก และ 20% ที่บ้าน) ส่วนอีก 40% เลือกที่จะจองการเดินทางออนไลน์ (เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน) และอีก 12% เลือกที่จองผ่านวีดีโอแชท

 

ไทยปลายทางยอดนิยม ธุรกิจเตรียมรับมือ

ปัจจุบันแม้อินเดียจะยังคงอยู่ในช่วงล็อคดาวน์ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ แต่รัฐบาลอินเดียได้ออกประกาศอนุญาตให้มีการเปิดเที่ยวบินในประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะอนุญาตให้เปิดเที่ยวบินต่างประเทศได้เมื่อไร และเมื่อหลายประเทศยังคงห้ามเที่ยวบินต่างชาติรวมถึงอินเดีย ได้ส่งสายการบินพิเศษไปรับคนในประเทศกลับแล้ว จึงยังไม่มีความจําเป็นที่อินเดียจะอนุญาตให้มีเที่ยวบินต่างประเทศเร็วๆ นี้ และเมื่อถึงเวลาแล้วคาดว่าอินเดียน่าจะอนุญาตเฉพาะเที่ยวบินไปยังกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำก่อน

ขณะที่ผลการสํารวจโดย booking.com โดยเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างเดือนมีนาคมและเมษายน 2563 ยังสอดคล้องกับผลสํารวจข้างต้น ที่แสดงว่าชาวอินเดียกระตือรือร้นที่จะเดินทางอีกครั้งหลังช่วง COVID-19 และหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมก็คือประเทศไทย

ทั้งนี้จากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ในปี 2560 ไทยมีนักท่องเที่ยวอินเดียรวม 1.41 ล้านคน และเพิ่มขึ้นเป็น 1.59 ล้านคน ในปี 2561 และ 1.98 ล้านคนในปี 2562 และก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ยังมีการคาดการณ์ว่าในปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางไปไทยถึง 2.2-2.4 ล้านคน เป็นรองเพียงนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น ถึงแม้ชาวอินเดียยังไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ในเร็วๆ นี้

แต่ผลสํารวจพฤติกรรมการท่องเที่ยวชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป้าหมายอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ทําให้คาดการณ์ได้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวอินเดียจํานวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยหลังสถานการณ์คลี่คลายลง ผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมโรงแรม ที่พัก บริการต่างๆ บริษัทนําเที่ยว ร้านอาหาร ร้านค้า สินค้า และบริการสุขภาพ ที่เป็นที่นิยมของคนอินเดียก่อนหน้าไวรัส COVID-19 ระบาด

รวมทั้งควรศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกลุ่มสร้างเทรนด์ในบรรยากาศของวิถีปกติใหม่ (New Normal) ซึ่งหมายถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยว เพื่อให้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงให้น้อยที่สุด และควรสร้างความมั่นใจในการท่องเที่ยว เช่น การปฏิบัติเกี่ยวกับสุขอนามัยในการเดินทางและการใช้บริการ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ รูปแบบการโฆษณา การชําระค่าบริการ รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นจูงใจผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมสําหรับโอกาสทางธุรกิจที่จะมาถึง

 

แหล่งอ้างอิง : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

                       การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)

                       สคต.กรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย


สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 


ทำไม ? อินเดียเที่ยวไทยโตต่อเนื่อง

อินเดีย โจทย์ใหม่ธุรกิจท่องเที่ยวไทย


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

จากธุรกิจนำเข้า สู่เจ้าของกรรมสิทธิ์อุปกรณ์ ‘ตู้บริการสื่อสารเอนกประสงค์’ กล่องสมองกลควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร

จากธุรกิจนำเข้า สู่เจ้าของกรรมสิทธิ์อุปกรณ์ ‘ตู้บริการสื่อสารเอนกประสงค์’ กล่องสมองกลควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร

Bangkok Bank SME จะพาไปทำความรู้จักกับธุรกิจในกลุ่มบริษัทโทรคมนาคม (Telco) ที่เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่ารูปแบบของการดำเนินงาน มีภาพรวมของรายละเอียดอย่างไร…
pin
175 | 17/04/2024
‘วรุณา’ นำเทคโนโลยี AI ยกระดับภาคการเกษตรไทย พร้อมดันประเทศสู่สังคม Net Zero

‘วรุณา’ นำเทคโนโลยี AI ยกระดับภาคการเกษตรไทย พร้อมดันประเทศสู่สังคม Net Zero

ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกมีความตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อช่วยดูแลและช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่ปัจจุบันทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย…
pin
391 | 10/04/2024
‘เอเชี่ยนแอสฟัลท์’ ผู้เชี่ยวชาญด้านยางมะตอย ขยายไลน์สู่ผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง เจาะตลาด Home Use ครบวงจรด้วยเทคโนโลยี

‘เอเชี่ยนแอสฟัลท์’ ผู้เชี่ยวชาญด้านยางมะตอย ขยายไลน์สู่ผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง เจาะตลาด Home Use ครบวงจรด้วยเทคโนโลยี

ถนนลาดยาง คืออะไร?ยางมะตอย By-Product จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ ลักษณะสีดำ ข้น หนืด ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานต่อสภาพอากาศ ทนน้ำ ยึดเกาะกับวัสดุหินได้ดี…
pin
1321 | 01/04/2024
นักท่องเที่ยวอินเดียกลับมาแน่! หลังพ้นวิกฤต COVID-19