ภาพรวมการท่องเที่ยวในปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 39.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย
อินเดีย เกาหลี และลาว โดยประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 3.01 ล้านล้านบาท
เพิ่มขึ้น 2.37% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ว่าในปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวของไทย
จะได้รับผลกระทบในหลายด้านแต่ตัวเลขดังกล่าวก็ถือว่าทำได้ดี
ขณะที่ ‘อินเดีย’ นับเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดี และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ปี 2561 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 1.99 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวอินเดียได้มากขึ้น ถูกหยิบยกมากล่าวถึงอีกครั้งภายใต้การคลี่คลายของโควิด-19 และธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมต่างเฝ้ารอวันที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาไทยอีกครั้ง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
จากสถิติในปี 2562 นักท่องเที่ยวอินเดียเลือกนิยมเที่ยวกรุงเทพฯ
พัทยา และมีแนวโน้มที่จะเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวใหม่เพิ่มมากขึ้น เช่น ภูเก็ต
เชียงใหม่ สมุย เชียงราย กระบี่ พระนครศรีอยุธยา และเกาะช้าง
ด้านกิจกรรมใหม่ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น คือ กลุ่มถ่ายทำภาพยนตร์
กลุ่มเดินทางเพื่อการประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล
รวมถึงกลุ่มฮันนีมูนอีกด้วย
Thomas Cook
(India) Ltd. บริษัทบริการด้านการท่องเที่ยว และ SOTC Travel LTd. บริษัทในเครือ ได้ทําการสํารวจผู้บริโภค
2,500 คน
ในเมือง Tier 1 และ Tier 2 ทั่วอินเดีย
เช่น มุมไบ เดลีเบงกาลูรู เจนไน โกลกาตา ไฮเดอราบัด
ปูเน่ลัคเนาว์เป็นต้น โดยครอบคลุมกลุ่มอายุ 4 กลุ่ม คืออายุต่ำกว่า 30 ปี อายุ 31-44 ปี อายุ 45-59 ปีและ 60 ปีขึ้นไป
ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถาม 76% มีอายุระหว่าง
28-55 ปี
พบผลสํารวจที่สําคัญ ดังนี้
1. ชาวอินเดียพร้อมจะท่องเที่ยวอีกครั้ง
ผลสํารวจพบว่าราว 14% ของผู้ตอบแบบสอบถามพร้อมที่จะเดินทางในปี 2563 หากมีการผ่อนปรนมาตรการแล้ว
ในขณะที่ 45% เลื่อนแผนการเดินทางออกไปเป็นปี 2564 และอีก
41% ยังไม่ได้ตัดสินใจ
โดยผู้ที่พร้อมเดินทางในปี 2563 วางแผนไว้ในเดือนพฤศจิกายน (29%) และธันวาคม
(50%) เป็นส่วนใหญ่
2. แบรนด์ดังจะได้รับความนิยม
ผู้ตอบแบบสอบถาม 72% จะเลือกแบรนด์ยอดนิยมในการเดินทาง
ทั้งบริษัททัวร์เครือโรงแรม
เป็นต้น และ 75% ให้ความสําคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยเป็นอันดับ
1 โดย 35% พร้อมที่จะจ่ายเงินมากกว่าเพื่อความมั่นใจ
3. เน้นการท่องเที่ยวในประเทศ ผู้ตอบแบบสอบถาม
64% เลือกที่จะเดินทางในประเทศ
โดยจุดหมายหลัก ได้แก่ ลาดักห์(20%) กัว (17%) อินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ (15%) เกรละ
(11%) รัฐหิมาจัลประเทศและแคชเมียร์
รวมถึงประเทศภูฏาน (17%) อีกทั้งยังเลือกที่จะเดินทางไปยังเมืองที่สามารถขับรถไปเองได้
เช่น คูร์ก อู ตีมัส ซูรี
ชิมลา อัมริตสาร์ มุนนาร์ เป็นต้น ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามอีก 36% เลือกที่จะเดินทางไปต่างประเทศ
โดย 41% เลือกจุดหมายใกล้เคียง
เช่น ไทย สิงคโปร์
มาเลเซีย ดูไบ และอาบูดาบี เป็นต้น ส่วนอุปสงค์สําหรับจุดหมายที่ไกลออกไป คาดว่าจะกลับมาในไตรมาส
4 ของปีนี้
เช่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (20%) สหรัฐอเมริกา (16%) และยุโรป (38%) โดยประเทศในยุโรปที่นักท่องเที่ยวอินเดียสนใจมากที่สุด
ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐเช็ก
4. เดินทางเป็นกลุ่มเล็กลง
ผู้ตอบแบบสอบถามมีแนวโน้มที่จะเดินทางเป็นกลุ่มเล็กลง เนื่องมาจากเหตุผลด้านสุขภาพและสุขอนามัย
โดย 63% เลือกที่จะเดินทางไปกับญาติเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน
อีก 25% เลือกเดินทางไปกับกลุ่มไม่เกิน
20 คน
และอีก 12% เลือกเดินทางไปกับกลุ่มใหญ่
35 คนขึ้นไป
5. ระยะเวลาพักผ่อนไม่เกิน
7 วัน
ผลสํารวจพบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 86% เลือกที่จะใช้เวลาเดินทางประมาณ
4-11 วัน (51% เลือกระหว่าง
4-7 วัน
และอีก 35% ระหว่าง
8-11 วัน)
ส่วนอีก 14% เลือกที่จะใช้เวลากับการเดินทางพักผ่อน
12 วันขึ้นไป
6. ชอบการเดินทางที่ประหยัดและคุ้มค่า
ผู้ตอบแบบสอบถาม 67% กล่าวว่าจะใช้จ่ายไม่เกิน
1 แสนรูปีต่อคน ในการเดินทางพักผ่อนครั้งต่อไป
อีก 11% กล่าวว่าไม่เกิน
2 แสนรูปีต่อคน
7. ยังคงเลือกจองการเดินทางแบบออฟไลน์
ผลสํารวจระบุว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 58% ยังคงเลือกที่จะจองการเดินทางผ่านร้านค้าปลีกหรือบริการที่บ้าน
(38% ที่ร้านค้าปลีก
และ 20% ที่บ้าน)
ส่วนอีก 40% เลือกที่จะจองการเดินทางออนไลน์
(เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน) และอีก 12% เลือกที่จองผ่านวีดีโอแชท
‘ไทย’ปลายทางยอดนิยม
ธุรกิจเตรียมรับมือ
ปัจจุบันแม้อินเดียจะยังคงอยู่ในช่วงล็อคดาวน์ไปจนถึงวันที่
31 พฤษภาคมนี้
แต่รัฐบาลอินเดียได้ออกประกาศอนุญาตให้มีการเปิดเที่ยวบินในประเทศได้ตั้งแต่วันที่
25 พฤษภาคมที่ผ่านมา
แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะอนุญาตให้เปิดเที่ยวบินต่างประเทศได้เมื่อไร
และเมื่อหลายประเทศยังคงห้ามเที่ยวบินต่างชาติรวมถึงอินเดีย ได้ส่งสายการบินพิเศษไปรับคนในประเทศกลับแล้ว
จึงยังไม่มีความจําเป็นที่อินเดียจะอนุญาตให้มีเที่ยวบินต่างประเทศเร็วๆ นี้ และเมื่อถึงเวลาแล้วคาดว่าอินเดียน่าจะอนุญาตเฉพาะเที่ยวบินไปยังกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำก่อน
ขณะที่ผลการสํารวจโดย booking.com โดยเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างเดือนมีนาคมและเมษายน
2563 ยังสอดคล้องกับผลสํารวจข้างต้น
ที่แสดงว่าชาวอินเดียกระตือรือร้นที่จะเดินทางอีกครั้งหลังช่วง COVID-19 และหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมก็คือประเทศไทย
ทั้งนี้จากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า
ในปี 2560 ไทยมีนักท่องเที่ยวอินเดียรวม
1.41 ล้านคน
และเพิ่มขึ้นเป็น 1.59 ล้านคน
ในปี 2561 และ 1.98 ล้านคนในปี 2562 และก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อ
COVID-19 ยังมีการคาดการณ์ว่าในปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางไปไทยถึง
2.2-2.4 ล้านคน
เป็นรองเพียงนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น ถึงแม้ชาวอินเดียยังไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ในเร็วๆ
นี้
แต่ผลสํารวจพฤติกรรมการท่องเที่ยวชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป้าหมายอันดับต้นๆ
ของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ทําให้คาดการณ์ได้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวอินเดียจํานวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยหลังสถานการณ์คลี่คลายลง
ผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมโรงแรม ที่พัก บริการต่างๆ บริษัทนําเที่ยว
ร้านอาหาร ร้านค้า สินค้า และบริการสุขภาพ
ที่เป็นที่นิยมของคนอินเดียก่อนหน้าไวรัส COVID-19 ระบาด
รวมทั้งควรศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกลุ่มสร้างเทรนด์ในบรรยากาศของวิถีปกติใหม่ (New Normal) ซึ่งหมายถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยว
เพื่อให้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงให้น้อยที่สุด
และควรสร้างความมั่นใจในการท่องเที่ยว เช่น
การปฏิบัติเกี่ยวกับสุขอนามัยในการเดินทางและการใช้บริการ
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ รูปแบบการโฆษณา
การชําระค่าบริการ รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นจูงใจผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมาย
เพื่อเตรียมความพร้อมสําหรับโอกาสทางธุรกิจที่จะมาถึง
แหล่งอ้างอิง : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)
สคต.กรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย