การเดินทางท่องเที่ยวในอนาคตจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด 19 โดย Booking.com เปิดเผยแนวโน้มสำคัญสำหรับการเดินทางในอนาคต
จากการสำรวจนักเดินทางกว่า 20,000 คนจาก 28 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก พบว่านักเดินทางชาวไทยใส่ใจต่อความปลอดภัย
และแสดงความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยระหว่างการเดินทางมากที่สุดเป็นอันดับแรกของโลก
ผลสำรวจจากการคาดการณ์แนวโน้มสำคัญต่ออนาคตการเดินทาง แสดงให้เห็นว่านักเดินทางชาวไทยเป็นหนึ่งในนักเดินทางที่มองโลกในแง่ดี และมีประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุดในหลายๆ ด้านเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อการพักผ่อน แม้ว่าภาวะสถานการณ์ในปัจจุบันจะดำเนินติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว โดย Booking.com เห็นว่านักท่องเที่ยวจะยังคงหาวิธีตอบสนองต่อความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวเท่าที่สามารถทำได้ ตราบใดที่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะต้องปรับตัวให้ทันกับความต้องการที่เปลี่ยนไปของนักเดินทาง สำหรับอนาคตการเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไป มีดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. พร้อมสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์
ผลสำรวจพบว่าโดยเฉลี่ย 58% ของนักเดินทางทั่วโลก
กำลังมองหาการท่องเที่ยวในภูมิภาคใกล้เคียงหรือจุดหมายปลายทางที่เข้าถึงได้โดยรถยนต์
ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยมีตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 73% นับเป็นตัวเลขสูงสุดใน 28
ประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น 85% ของนักเดินทางชาวไทย ชอบการดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่เรียบง่าย
และ 80% เต็มใจที่จะแสวงหาประสบการณ์การท่องเที่ยวในต่างจังหวัดที่ไม่ค่อยมีใครไป
เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง รวมถึงกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ
ที่สำคัญที่สุดคือ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยถึง
82% ต้องการเห็นเงินของพวกเขาได้กลับไปช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่น โดย 84%
ของนักท่องเที่ยวชาวไทยต้องการเลือกการเดินทางที่สร้างประโยชน์
มีส่วนร่วมฟื้นฟูท้องถิ่น นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในบรรดานักท่องเที่ยวทั่วโลก สะท้อนถึงศักยภาพในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย
โดยมีการเปิดให้เดินทางภายในประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวยังแสดงความสนใจในการไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวภายในท้องถิ่น
สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนท้องถิ่น
2. นักเดินทางยุคดิจิทัล
นักเดินทางชาวไทยแสดงออกอย่างชัดเจนว่า
ต้องการกลับมาเดินทางมากกว่านักเดินทางในประเทศอื่นๆ โดยนักเดินทางชาวไทยถึง 68%
ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวเป็นประจำราวอาทิตย์ละครั้ง เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกเพียง
38% ซึ่งช่วงที่ต้องทำงานจากบ้านหรือ Work from Home ในปีนี้ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยเลือกทำงานแบบยืดหยุ่นมากขึ้น โดย 6
ใน 10 ของนักท่องเที่ยวชาวไทยกล่าวว่า เคยมองหาการจองที่พักช่วงวันทำงานเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
หรือที่เรียกว่า Workcation นับเป็นตัวเลขที่สูงเป็นอันดับสองของโลก
นอกจากนี้
คนไทยยังเชื่อมั่นในเทคโนโลยีมากที่สุดในบรรดานักเดินทางทั่วโลก โดย 81%
ยอมรับว่าเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการควบคุมความเสี่ยงด้านสุขอนามัยระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว
และนักเดินทางชาวไทยจำนวนเดียวกันที่ 81% เชื่อว่านวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการเดินทาง
จะถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้เห็นความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวและผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี
มาช่วยกันยกระดับการให้บริการ
เพื่อให้นักเดินทางได้รับความสะดวกสบายและความมั่นใจมากขึ้นเมื่อการแพร่ระบาดหยุดลง
3. ปลอดภัยไว้ก่อน
เมื่อพูดถึงมาตรการด้านสุขภาพระหว่างการเดินทาง คนไทยให้ความสำคัญกับมาตรการด้านนี้มากที่สุดในโลก และเลือกปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยทางสุขภาพ โดยนักท่องเที่ยวชาวไทย 86% ยอมให้ตรวจสุขภาพเมื่อเดินทางถึงที่พัก อีก 87% ยอมสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ และ 86% เลือกจองเฉพาะที่พัก ที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการด้านสุขภาพและอนามัยไว้อย่างชัดเจน เนื่องจากสุขภาพและความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ทาง Booking.com
ขอเป็นกำลังสำคัญในการเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว
โดยให้เหล่าที่พักคู่ค้าระบุมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยไว้อย่างชัดเจน
บนเว็บไซต์ Booking.com มีการใช้ฟีเจอร์ตัวกรอง "สุขภาพและความปลอดภัย"
เพื่อให้นักเดินทางค้นหาที่พักที่มีมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยได้ง่ายยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สองฟีเจอร์ดังกล่าวเป็นเพียงบางส่วนของมาตรการจาก Booking.com เพื่อตอบสนองต่อความเป็นจริงของการเดินทางที่เปลี่ยนไปเพื่อเชื่อมโยงนักเดินทางชาวไทยกับที่พักคู่ค้าได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น