อาชีพเพาะเห็ดนับเป็นธุรกิจหนึ่งที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทว่าปัญหาส่วนใหญ่ของเกษตรกรผู้เพาะเห็ด คือ ‘ตลาด’ เพราะในช่วงที่ผลผลิตออกมาพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้เกิดการล้นตลาดและระบายไม่ทัน แม้ที่ผ่านมาเกษตรผู้เพาะเห็ดจะมีการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยการนำเห็ดมาแปรรูป ทว่าก็ยังคงเผชิญกับความต้องการของตลาดรับซื้ออยู่ดี
ข้อมูลจาก IRI/FreshLook Marketing ระบุว่าในปี 2018 ยอดขายเห็ดอินทรีย์ (organic mushroom) เพิ่มขึ้นจากปี 2017 เป็นเกือบ 13.5 ล้านเหรียญฯ และยอดขายเห็ดอินทรีย์ (organic mushroom) คิดเป็นร้อยละ 14 ของยอดขายเห็ดรวมทั้งสิ้น (ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 11)
การเติบโตของยอดขาย ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจถึงคุณค่าทางอาหารของเห็ด นำไปสู่ความต้องการบริโภคและราคาค้าปลีกของเห็ดอินทรีย์ (organic mushroom)
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
แนวโน้มตลาดเห็ดอินทรีย์ในสหรัฐฯ
ปัจจุบันแนวโน้มการดำรงชีวิตของผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่เน้นให้ความสำคัญต่อสุขภาพและความต้องการบริโภคอาหารที่เป็น plant-based นำมาซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วของการบริโภคเห็ด ทั้งที่เป็นเห็ดธรรมดาและเห็ดอินทรีย์
ผู้บริโภคสหรัฐฯ มีความรู้ถึงคุณประโยชน์ของเห็ดและการบริโภคเห็ดมานาน โดยร้อยละ 97 ของเห็ดที่ผลิตได้ในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นเห็ดกระดุม ที่สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีแหล่งผลิตสำคัญอยู่ที่รัฐ Pennsylvania จึงเปิดกว้างต่อการบริโภคเห็ดอื่นๆ หลากหลายชนิด
ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ สำหรับผลิตภัณฑ์เห็ดมีศักยภาพสูงมาก เนื่องจากขนาดตลาดที่ใหญ่มากกว่า 100 ล้านคน โดยมีกลุ่ม ฮิสแปนิก อเมริกันกว่า 52 ล้านคน เอเซียนอเมริกันมากกว่า 22 ล้านคน คนอาฟริกันอเมริกันประมาณ 40 ล้านคน และอาจจะรวมถึงผู้บริโภคกลุ่ม caucasian อีกจำนวนมาก
ข้อมูลในระหว่างปี 2009 – 2014
การบริโภคเห็ดสดในสหรัฐฯ อยู่ในระดับเฉลี่ยปีละ 3.7535 ปอนด์ต่อคนต่อปี
ในขณะที่ระหว่างปี 2015 – 2018 การบริโภคเห็ดเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 3.945
ปอนด์ต่อคนต่อปี หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.61
โดยร้อยละ 87 ของเห็ดที่บริโภคในสหรัฐฯ มาจากการผลิตในประเทศ แต่การนำเข้ามีการเติบโตต่อเนื่องจากร้อยละ 4 ในปี 2000 เป็นร้อยละ 13 ในปี 2017 เห็ดสดที่สหรัฐฯ นำเข้าส่วนใหญ่ของมาจากคานาดา จีน เม็กซิโก และเกาหลีใต้ เห็ดกระป๋องส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากจีน อินเดีย อินโดนิเซีย และเนเธอร์แลน
สำหรับเกษตรกรและนักลงทุนไทยอาจพิจารณาใช้โอกาสดังกล่าว ในการส่งเสริมเพาะปลูกและแปรรูป หรือพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเห็ด เพื่อการบริโภคทั้งในประเทศและการส่งออก เพื่อตอบสนองต่อความต้องการบริโภคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากกระแสการบริโภคเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
สำหรับตลาดหลักของเห็ดอินทรีย์ คือ Millennial และ Gen Z จากการสำรวจของ Organic Fresh Trend 2020 พบว่า ผู้บริโภคอายุระหว่าง 18 – 39 ปี (ร้อยละ 39) มีแนวโน้มที่จะซื้อเห็ดอินทรีย์ (organic mushroom) มากที่สุด รองลงมาคือผู้บริโภคกลุ่มอายุ 40 – 49 ปี (ร้อยละ 23) ผู้บริโภคกลุ่มอายุ 50 – 58 ปี (ร้อยละ 18) และผู้บริโภคกลุ่มอายุ 59 และสูงกว่า (ร้อยละ 11)
มีข้อสังเกตว่า ครัวเรือนรายได้สูง (ตั้งแต่ห้าหมื่นเหรียญฯ ต่อปีจนถึงมากกว่าหนึ่งแสนเหรียญฯ ต่อปี) ไม่ใคร่จะบริโภคเห็ดอินทรีย์ ในขณะที่ครัวเรือนรายได้ต่ำกว่าสองหมื่นห้าพันเหรียญฯ ต่อปีนิยมซื้อเห็ดอินทรีย์มากกว่า
อย่างไรก็ตามในการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ไปต่างประเทศ ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการตามกฎระเบียบการส่งออก-นำเข้าเหมือนสินค้าทั่วไป และในประเทศที่มีกฎระเบียบเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วย
โดยระเบียบการนำเข้าสินค้าเกษตรอินทรีย์นั้น
จะกำหนดให้สินค้าต้องผ่านการตรวจรับรองตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของประเทศนั้นๆ
หรือตามระบบมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน ซึ่งในตลาดสหรัฐฯ
เกษตรอินทรีย์ไทยต้องได้รับรองมาตรฐาน USDA organic regulations 7 CFR
Section 205 และ Canada Organic Regime
ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แคนาดา
แหล่งอ้างอิง :
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<