สถานการณ์ตลาดและแนวโน้มการบริโภคตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในสิงคโปร์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2561 มูลค่าของตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในสิงคโปร์มีการเติบโตถึง 937 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.3 ต่อปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในสิงคโปร์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางออร์แกนิค จะได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคในสิงคโปร์
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ในปัจจุบันชาวสิงคโปร์มีการศึกษาข้อมูลและคุณประโยชน์ของส่วนผสมในผลิตภัณฑ์สินค้า
สุขภาพความงาม รวมถึงระมัดระวังการบริโภคมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นการบริโภคสินค้าจำพวกผลิตภัณฑ์ บำรุงผิวและเครื่องสำอางในตลาดสิงคโปร์
ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค (Organic) มากขึ้น
ข้อมูลจากบริษัทวิจัย Nielsen ได้ทำการสำรวจกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงจำนวน 1,001
ราย ได้ผลสรุปว่า 39% ของผู้ที่ทำการสำรวจ
มีความสนใจที่จะมองหาแบรนด์ใหม่ที่สินค้าผลิตมาจากธรรมชาติ
ปราศจากส่วนผสมหรือสารเคมีสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น แบรนด์ Kew
Organics แบรนด์ Balm Kitchen และแบรนด์ Katfood
ซึ่งล้วนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ผลิตจากออร์แกนิค
ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 20% - 30%
นอกจากนี้
ผลิตภัณฑ์สปาซึ่งเป็นที่นิยมของชาวสิงคโปร์
ยังถูกจัดให้อยู่ในรายการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
โดยผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสินค้าและการบริการสปาส่วนใหญ่ จะผลิตมาจากธรรมชาติหรือมีส่วนผสมจากสมุนไพร
ซึ่งสามารถแบ่งได้ 5 ประเภท
1. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skin Care)
2. สปา ส่วนตัวที่บ้าน (Home Spa)
3. สุคนธบำบัด (Aromatherapy)
4. น้ำมันหอมระเหย (Aroma Oil Perfume)
5. อุปกรณ์สปา (Accessories Spa)
ส่งผลให้ธุรกิจสปาของสิงคโปร์ในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น
อันเนื่องมาจากสภาวะเหนื่อยล้าของชาวสิงคโปร์จากการทำงาน และการรณรงค์ของภาครัฐ ให้ชาวสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี
จากการคาดการณ์แนวโน้มการบริโภคและความต้องการสินค้าผลิตภัณฑ์สปา
จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5 ต่อปี
โดยกลุ่มผู้บริโภคมีทั้งกลุ่มรายได้สูงและกลุ่มรายได้กลาง
ข้อมูลการค้าที่สำคัญ
ชาวสิงคโปร์ส่วนมากนิยมซื้อสินค้าสุขภาพความงามและผลิตภัณฑ์สปา
รวมถึงสินค้าสุขภาพความงามและสินค้าสปาของไทย นอกจากนี้ความนิยมไม่ได้หยุดอยู่แค่ชาวสิงคโปร์ในวัยทำงานเท่านั้น
แต่วัยหนุ่มสาวก็เริ่มให้ความสนใจในสินค้าสุขภาพความงามมากขึ้น
สินค้าสุขภาพความงามและสินค้าสปาในสิงคโปร์มีการแข่งขันที่สูงมาก
เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีเพียง 5.8 ล้านคน อีกทั้งสิงคโปร์ยังเป็นประเทศเปิด
มีบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่รายหลายเข้ามาดำเนินธุรกิจในสิงคโปร์
ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเข้ามาตลาดสิงคโปร์ของบริษัทไทย
ในปัจจุบันผู้บริโภคชาวสิงคโปร์เริ่มให้ความสนใจและหาความรู้ด้านสมุนไพรมากขึ้น
แตกต่างจากในอดีตที่ชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่มีความเชื่อว่า สินค้าจากประเทศตะวันตกมีคุณภาพดีกว่าสินค้าจากเอเชีย
โดยเฉพาะสินค้าที่มีส่วนผสมจากสมุนไพร
ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีของผลิตภัณฑ์สินค้าบำรุงผิว
และสินค้าสปาของไทยที่จะขยายตลาดออกมาสู่สิงคโปร์
เทคนิคการเจาะตลาดความงานในสิงคโปร์
การใช้สื่อออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์สินค้า
เนื่องชาวสิงคโปร์นิยมเลือกหาและซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์
นอกจากนี้การเจาะตลาดสิงคโปร์ผ่านทางออนไลน์ จะใช้ต้นทุนน้อยกว่าการเข้ามาเปิดบริษัทในสิงคโปร์
ทำให้ผู้ประกอบไทยมีศักยภาพในแข่งขันมากขึ้น
การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในสิงคโปร์ ถือว่าเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งในการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์สินค้าไทย ในระดับประเทศได้เป็นอย่างดีเช่น งานแสดงสินค้า Beauty Asia
ประเด็นที่ธุรกิจไทยต้องให้ความสำคัญ
สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจที่จะขยายตลาดออกมาสู่สิงคโปร์
ควรให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของ สินค้าและการประชาสัมพันธ์ ทั้งในด้านตัวผลิตภัณฑ์และส่วนผสมของผลิตภัณฑ์
เพื่อตอบสนองความ ต้องการด้านความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ที่ชาวสิงคโปร์นิยมสอบถามข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อ
นอกจากนี้การจัดทำเว็บไซต์
ก็มีส่วนสำคัญสำหรับการขยายตลาดมาสู่สิงคโปร์
เนื่องจากชาวสิงคโปร์นิยมซื้อของออนไลน์
และนิยมหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าผ่านทางสื่อออนไลน์
รวมทั้งระเบียบการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
(Cosmetic Product) ในสิงคโปร์ ควบคุมดูแลโดยหน่วยงาน Health
Sciences Authority (HSA) ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์
เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลเครื่องสำอางในสิงคโปร์
ขั้นตอนและระเบียบการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในสิงคโปร์มีความซับซ้อน
ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาข้อมูลโดยละเอียด
อ้างอิง : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์