E-Waste คืออะไร? จากปัญหาสู่โอกาสทางธุรกิจเพื่อความยั่งยืน [2025]
เมื่อแผงโซลาร์เซลล์หมดอายุขัย หรือเซิร์ฟเวอร์ทั้งศูนย์ข้อมูล ต้องถูกปลดระวาง ขยะอิเล็กทรอนิกส์ชิ้นยักษ์เหล่านี้จะไปอยู่ที่ไหน? นี่คือความท้าทายด้านปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ในโลกยุคใหม่ ที่เป็นปัญหาใหญ่กว่าแค่ขยะมือถือ และยังเป็นโจทย์สำคัญที่ธุรกิจต้องเผชิญ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกปัญหา E-Waste ในระดับอุตสาหกรรม และค้นพบว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จะกลายเป็น “ขุมทรัพย์” และโอกาสทางธุรกิจที่ยั่งยืนได้อย่างไร
E-Waste คืออะไร? ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องเข้าใจ
นิยามของ E-Waste
E-Waste คือ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่สิ้นสุดอายุการใช้งาน ชำรุด หรือไม่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไป ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง E-Waste ได้กลายเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแหล่งกำเนิดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ได้แก่ แผงโซลาร์เซลล์ และ อุปกรณ์ในศูนย์ข้อมูล (Data Centers)
เจาะลึก E-Waste ภาคอุตสาหกรรม: กรณีศึกษาแผงโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์ Data Center
นวัตกรรมถูกสร้างขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน อาทิ แผงโซลาร์เซลล์ ที่ช่วยมอบพลังงานสะอาด ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล หรืออุปกรณ์ในศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่เป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI ทำให้เราเข้าถึงข้อมูลใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่นวัตกรรมเหล่านี้ ก็กำลังส่งผลให้เกิด E-Waste ตามมาด้วยเช่นกัน
แผงโซลาร์เซลล์
รู้หรือไม่ว่าแผงโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งานราว 20 ปี โดยประเทศไทยเริ่มใช้แผงโซลาร์เซลล์ ตั้งแต่ปี 2545 และในปี 2565 มี E-Waste จากแผงโซลาร์เซลล์ ประมาณ 620,000 – 790,000 ตัน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีโซลาร์ฟาร์มเกือบ 400 แห่งทั่วประเทศ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในอนาคตแผงโซลาร์เซลล์ที่ใช้แล้วจะมีจำนวนมหาศาล
ขณะที่ยังไม่มีเทคโนโลยีและการบริหารจัดการ E-Waste อย่างเป็นระบบ การกำจัดส่วนใหญ่ยังเป็นวิธีแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ซึ่งหากกระบวนการกำจัดไม่ถูกวิธีหรือถูกทิ้งเป็นกองขยะอาจทำให้มีโลหะหนัก เช่น แคดเมียม ตะกั่ว นิเกิล และอื่น ๆ ปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมและเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ศูนย์ข้อมูล (Data Center) เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Computational Science คาดการณ์ว่าภายในปี 2030 จะเกิด E-Waste จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใน Data Center เพิ่มขึ้นสูงถึง 5 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 1,000 เท่า การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้มี สาเหตุหลักมาจากการที่ AI ที่ต้องการพลังประมวลผลมหาศาล ทำให้ต้องมีการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงจำนวนมาก และเมื่ออุปกรณ์เหล่านี้ต้องเปลี่ยนหรืออัปเกรดเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็จะกลายเป็น E-Waste ทันที
ผลกระทบของ E-Waste ต่อสิ่งแวดล้อมและธุรกิจ
สารพิษปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม
E-Waste มักประกอบด้วยสารพิษที่เป็นอันตราย เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม และสารเคมีอื่น ๆ ซึ่งเมื่อถูกกำจัดอย่างไม่ถูกวิธี ผลเสียที่ตามมาจะไม่ใช่เพียงแต่ การทำให้สูญเสียวัตถุดิบมีค่าเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดการปล่อยสารเคมีเป็นพิษ เช่น การฝังกลบสารพิษจะปนเปื้อนลงสู่ดินและซึมเข้าสู่แหล่งน้ำใต้ดิน หรือ การเผาขยะก็สามารถปล่อยสารเคมีที่เป็นพิษก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและเป็นอันตรายระบบนิเวศใกล้เคียงได้
การกำจัดขยะ E-Waste ไม่ถูกวิธีเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าการสัมผัสกับสารปนเปื้อนจาก ขยะ E-Waste ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพมากมายโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กและสตรีมีครรภ์ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ การทำงานของปอดที่ผิดปกติ และปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งความท้าทายนี้กำลังเพิ่มขึ้นทุกวัน
ความเสี่ยงด้านกฎหมายและชื่อเสียงขององค์กร (Legal & Reputational Risks)
ในตลาดปัจจุบันที่ผู้บริโภคใส่ใจต่อประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การจัดการขยะ E-Waste ที่ดีจะช่วยป้องกันความเสี่ยงทางการค้าโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศซึ่งกฎหมายเกี่ยวกับ ขยะ E-Waste มีความเข้มงวด และแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคมรวมทั้งธรรมาภิบาลในการบริหารตามหลัก ESG ด้วย
พลิกวิกฤตสู่โอกาส: E-Waste ในฐานะ “เหมืองแร่ใจกลางเมือง” (Urban Mining)
E-Waste ไม่ใช่แค่ขยะ แต่เปรียบเสมือน “เหมืองแร่ใจกลางเมือง” (Urban Mining) ที่เป็นแหล่งรวมทรัพยากรมีค่า เช่น ทองคำและทองแดง ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การจัดการ E-Waste อย่างถูกวิธี จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นโอกาสในการ สร้างธุรกิจใหม่ ที่สอดคล้องกับแนวคิด Circular Economy (เศรษฐกิจหมุนเวียน) ที่เน้นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปัน การให้เช่า การใช้ซ้ำ การซ่อมแซม หรือการรีไซเคิล เพื่อให้วัสดุและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ คงอยู่ในระบบเศรษฐกิจให้นานที่สุด และยังช่วยลดขยะ E-Waste ได้
3 โอกาสทางธุรกิจจาก E-Waste ที่กำลังเติบโต
จากรายงานของ Research Dive ระบุว่าตลาด E-Waste Recovery Market ในเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าสูงถึง 4,270.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2021 และคาดว่าจะเติบโตด้วยอัตราเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 7.2% ซึ่งสามารถเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับ SME ไทยเช่นกัน โดยอาจไม่ต้องลงมือเริ่มธุรกิจรีไซเคิลเอง แต่สามารถเป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นพาร์ทเนอร์กับธุรกิจเหล่านี้ได้
ธุรกิจรีไซเคิลและสกัดโลหะมีค่า (Recycling and Precious Metal Extraction)
ธุรกิจรีไซเคิลและสกัดโลหะมีค่า คือ การนำขยะ E-Waste มาผ่านกระบวนการทางเคมีและกายภาพ เพื่อกู้คืนและสกัดโลหะมีค่าที่ซ่อนอยู่ในชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น ทองคำ เงิน ทองแดง และแพลทินัม โดยธุรกิจจาก E-Waste มีรายได้จากการขายโลหะมีค่า การขายวัสดุรีไซเคิลอื่น ๆ หรือการขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ยังใช้งานได้
ธุรกิจซ่อมแซมและปรับปรุงสภาพ (Refurbishment and Remanufacturing)
การนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แล็ปท็อป โทรศัพท์ หรืออุปกรณ์ไอทีอื่น ๆ ที่อาจจะตกรุ่น มีตำหนิ หรือไม่ได้ใช้งานแล้ว มาผ่านกระบวนการตรวจเช็ก ซ่อมแซม และทำความสะอาดอย่างละเอียด เป็นวิธีนำ E-Waste กลับมาใช้ให้มีคุณภาพใกล้เคียงของใหม่มากที่สุด ช่วยยืดอายุการใช้งานและยังช่วยลดขยะ E-Waste ได้ เช่น การขายอุปกรณ์ที่ปรับปรุงสภาพแล้ว หรือการรับซ่อมชิ้นส่วนที่ซับซ้อน เช่น การซ่อมแผงวงจรให้กับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
ธุรกิจจัดการ E-Waste ครบวงจรสำหรับองค์กร (E-Waste Management as a Service - EaaS)
ธุรกิจจาก E-Waste ที่น่าสนใจคือบริการจัดการ E-Waste ครบวงจรสำหรับองค์กรที่ครอบคลุมตั้งแต่การรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การทำลายข้อมูล ไปจนถึงการรีไซเคิลอย่างครบวงจร เพื่อให้ธุรกิจมั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไม่รั่วไหลและกระบวนการเป็นไปตามมาตรฐานที่ถูกต้อง เช่น SK tes บริษัทระดับโลกที่ให้บริการจัดการ E-Waste และกำจัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร และมีสาขาอยู่ในประเทศไทยด้วย
Road Map: 4 ขั้นตอนสร้างกลยุทธ์จัดการ E-Waste สำหรับองค์กร
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบและแยกประเภท (Audit & Categorize)
เริ่มต้นจากการ สำรวจ E-Waste ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในองค์กร ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ที่หมดอายุการใช้งาน โทรศัพท์มือถือที่ไม่ใช้แล้ว ไปจนถึงเครื่องพิมพ์ที่ชำรุด โดยให้จัดทำรายการและแยกประเภทของขยะเหล่านี้อย่างละเอียด เพื่อให้ทราบปริมาณและชนิดของ E-Waste ทั้งหมดที่ต้องจัดการ
ขั้นตอนที่ 2: กำหนดนโยบายและเป้าหมาย (Set Policies & Goals)
เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ เช่น กำหนดนโยบายการกำจัดทรัพย์สินไอที (ITAD) ที่ระบุว่าขยะ E-Waste ทั้งหมดจะต้องได้รับการจัดการอย่างปลอดภัย และโดยอาจตั้งเป้าหมายเชิงปริมาณด้วย เช่น การนำอุปกรณ์กลับมาใช้ใหม่ (Reuse) 30% และส่งรีไซเคิล (Recycle) 60% เพื่อให้พนักงานทุกคนมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
ขั้นตอนที่ 3: เลือกพาร์ทเนอร์ที่ได้รับการรับรอง (Choose Certified Partners)
ขยะ E-Waste เป็นขยะที่มีความซับซ้อนในการกำจัด ธุรกิจควรหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัทมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ซึ่งควรมีมาตรฐานและได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่น มาตรฐาน ISO และ R2 (Responsible Recycling) การร่วมมือกับบริษัทเหล่านี้มีความจำเป็นและมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ จุดรับทิ้ง E-Waste ทั่วไป
ขั้นตอนที่ 4: สื่อสารและรายงานผล (Communicate & Report)
เมื่อดำเนินการตามแผนแล้ว การสื่อสารถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุด จัดทำรายงานเพื่อแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของการจัดการ E-Waste ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำรายงานด้านความยั่งยืน (ESG) ขององค์กรได้ การเปิดเผยข้อมูลเชิงบวกเหล่านี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งยังแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
กฎหมาย E-Waste ในประเทศไทย (พ.ร.บ. WEEE) มีความคืบหน้าอย่างไร?
ประเทศไทยได้มีการจัดทำร่างพระราชบัญญัติจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (พ.ร.บ. WEEE) ตั้งแต่ปี 2558 โดยปัจจุบันร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาและปรับปรุงแก้ไข และมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศกระทรวงห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ฉบับปรับปรุง มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 เพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าไทยจะไม่เป็นปลายทางของขยะอิเล็กทรอนิกส์จากทั่วโลก และหันมาให้ความสำคัญกับการจัดการขยะภายในประเทศ
อย่างไรก็ตามหาก พ.ร.บ. WEEE มีการบังคับใช้ จะเป็นก้าวสำคัญของภาคธุรกิจและสังคมไทยในการจัดการปัญหา E-Waste อย่างเป็นรูปธรรมจะช่วยเสริมสร้างระบบการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ ป้องกันและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนในระยะยาว
การจัดการ E-Waste จะช่วยสร้างรายได้หรือลดค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจได้อย่างไร?
การจัดการขยะ E-Waste ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ใหม่ การซ่อมแซมและปรับปรุงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ทำให้ธุรกิจไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่บ่อย ๆ เป็นการลดต้นทุนไปได้มาก ขณะที่อุปกรณ์ที่เสียหายจนซ่อมไม่ได้แล้วยังมีชิ้นส่วนที่มีมูลค่า เช่น แผงวงจร แรม หรือสายทองแดง ซึ่งสามารถส่งให้บริษัทรีไซเคิลเพื่อสกัดโลหะมีค่าไปขายได้ ขณะเดียวกันยังสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการมีนโยบายจัดการ E-Waste ที่ชัดเจนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในสายตาคู่ค้าและลูกค้า ซึ่งอาจนำไปสู่โอกาสในการทำธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต
บทสรุป: E-Waste ไม่ใช่จุดจบ แต่คือจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมธุรกิจที่ยั่งยืน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า E-Waste หรือ ขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้นมีปริมาณมหาศาลและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วัน และหากกำจัดไม่ถูกวิธีก็จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และธุรกิจด้วย แต่อย่างไรก็ตามขยะ E-Waste เหล่านี้ก็เปรียบเสมือน “เหมืองแร่ใจกลางเมือง” ที่เป็นแหล่งรวมทรัพยากรมีค่า ไว้ และยังเป็นโอกาสที่น่าสนใจให้ธุรกิจ SME โดยอาจไม่ต้องลงมือเริ่มธุรกิจรีไซเคิลเอง แต่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมรีไซเคิลได้ โดย SME สามารถเริ่มต้นได้ง่ายจากการแก้ปัญหา E-Waste ในองค์กร โดยเริ่มจากการสำรวจ และตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เลือกพาร์ทเนอร์ที่น่าเชื่อถือเพื่อดำเนินการจัดการ และสุดท้าย สื่อสารรายงานผลเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรทั้งยังสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนในภาพรวมด้วย
ข้อมูลอ้างอิง
อว.-บพข.เปิดเวทีระดมสมอง มุ่งสู่ NET ZERO ไม่ทิ้งซาก “โซลาร์เซลล์” ไว้ข้างหลัง สืบค้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 จาก https://pmuc.or.th/netzero-solarcell/
E-Waste from AI computers could 'escalate beyond control' สืบค้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 จากhttps://www.dw.com/en/E-Waste-from-ai-computers-could-escalate-beyond-control/a-70619724
Electronic Waste: Environmental Impact And Pollution สืบค้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 จากhttps://shunwaste.com/article/how-does-the-electronic-waste-pollute-the-environment
Mining’s new frontier: Recycling metal for a more sustainable future สืบค้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 จากhttps://www.weforum.org/stories/2024/12/mining-s-new-frontier-developing-copper-recycling-for-a-more-sustainable-future/
Sustainable IT: What’s the difference between Remanufactured and Refurbished? สืบค้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 จาก https://www.canon-europe.com/business/insights/articles/remanufactured-vs-refurbished/