Beyond Net Zero: กลยุทธ์การเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนสำหรับ SME
Beyond Net Zero คืออะไร?
ในยุคที่โลกกำลังเผชิญความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม แนวคิด "Beyond Net Zero" กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวงธุรกิจ องค์กรขนาดใหญ่เกือบทุกบริษัท กำลังมุ่งหน้าปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจครั้งใหญ่ เพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ แต่ต้องมุ่งเน้นถึงการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบด้วย และแน่นอนว่า สำหรับธุรกิจ SME ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนมูลค่า GDP ในประเทศไทย โมเดลธุรกิจแบบ Beyond Net Zero จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะนอกจากประเด็นในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว แนวคิดนี้ ยังเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่จะช่วยสร้างความเติบโตและความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเตรียมพร้อมสำหรับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเข้มงวดมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย
Net Zero คืออะไร และทำไมถึงสำคัญสำหรับ SME
Net Zero หมายถึง การที่ธุรกิจปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณที่สมดุลกับการดูดซับหรือกำจัดก๊าซเหล่านั้นออกจากชั้นบรรยากาศ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งสำหรับธุรกิจ SME การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่จะนำไปสู่เป้าหมาย Net Zero อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจโดยตรง
ในขณะที่แนวคิด Beyond Net Zero เป็นการต่อยอดจากเป้าหมาย Net Zero โดยมุ่งเน้นให้ธุรกิจก้าวไปไกลกว่า เพียงแค่การเป็นกลางทางคาร์บอน แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ซึ่งหมายรวมถึง การดูดซับคาร์บอนมากกว่าที่ปล่อยออกมา การฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ การสร้างมูลค่าทางสังคมควบคู่ไปกับการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และการเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทั้งในอุตสาหกรรมและชุมชน
กลยุทธ์สำคัญสำหรับ SME ในการก้าวสู่ Beyond Net Zero
การที่ธุรกิจ SME จะก้าวสู่การเป็น Beyond Net Zero ได้ จะต้องพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การขนส่ง การใช้งานผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการกำจัดซากผลิตภัณฑ์ ซึ่งการวิเคราะห์และปรับปรุงในแต่ละส่วนเช่นนี้ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกลยุทธ์ที่ SME สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ ได้แก่
การนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ ก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ SME สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อลดขยะและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิล สร้างระบบการรับคืนผลิตภัณฑ์หลังการใช้งาน ลดบรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นหรือใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึง พัฒนากระบวนการผลิตที่ลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด (Zero Waste)
การลดการปล่อยคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทาน ถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับ SME ที่ต้องการบรรลุเป้าหมาย Beyond Net Zero โดยจะต้องเริ่มตั้งแต่ การวิเคราะห์และติดตาม Carbon Footprint ตลอดห่วงโซ่อุปทาน การเลือกซัพพลายเออร์ที่มีนโยบายด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน การลดระยะทางในการขนส่งโดยเน้นวัตถุดิบและผู้ผลิตในท้องถิ่น และการใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีประหยัดพลังงานในกระบวนการผลิต
Carbon Offsetting และการลงทุนในโครงการสิ่งแวดล้อม โดย SME สามารถชดเชยการปล่อยคาร์บอนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผ่านการลงทุนในโครงการที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก อาทิ การร่วมมือกับองค์กรที่ดำเนินโครงการปลูกป่าหรือฟื้นฟูป่าชายเลน การสนับสนุนโครงการพลังงานหมุนเวียนในชุมชน การลงทุนในเครดิตคาร์บอนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน หรือแม้กระทั่งการสร้างโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของตนเอง เช่น การปลูกต้นไม้ในพื้นที่ของบริษัท
ESG-Driven Business Model คือ การผสมผสานปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เข้ากับโมเดลธุรกิจจะช่วยให้ SME สามารถสร้างคุณค่าในระยะยาว ซึ่งสิ่งที่ SME ต้องทำก็คือ การกำหนดพันธกิจและค่านิยมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ตั้งเป้าหมายด้าน ESG ที่ชัดเจนและวัดผลได้ สื่อสารความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนกับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยสนับสนุน Beyond Net Zero
การก้าวไปสู่ Beyond Net Zero จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย รวมถึงการบูรณาการแนวคิดต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนและเอื้อต่อการพัฒนาที่สมดุล โดยในปัจจุบัน มีหลากหลายเทคโนโลยีที่สามารถนำเข้ามาช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจและบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย อาทิ
AI & IoT ในการบริหารพลังงาน:
ระบบอัจฉริยะที่ควบคุมการใช้พลังงานในสำนักงานหรือโรงงาน
อุปกรณ์ IoT ที่ตรวจวัดและวิเคราะห์การใช้พลังงาน
แพลตฟอร์ม AI ที่คาดการณ์และปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสม
ระบบอัตโนมัติที่ช่วยลดการใช้พลังงานเมื่อไม่จำเป็น
Renewable Energy และการใช้พลังงานแสงอาทิตย์:
ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคารหรือพื้นที่ว่าง
ลงทุนในสัญญาซื้อขายพลังงานสะอาด (Green Power Purchase Agreement)
ใช้ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
พิจารณาพลังงานทางเลือกอื่น ๆ เช่น พลังงานลม หรือพลังงานชีวมวล ตามความเหมาะสมของพื้นที่
Green Manufacturing และการพัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม:
ใช้กระบวนการผลิตที่ลดการใช้น้ำและพลังงาน
เลือกใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่ยั่งยืนและได้รับการรับรอง
พัฒนาหรือเลือกใช้วัสดุชีวภาพทดแทนพลาสติกและวัสดุที่มาจากฟอสซิล
นำเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D มาใช้เพื่อลดของเสียในกระบวนการผลิต
Case Study: ตัวอย่างการประยุกต์ใช้แนวคิด Beyond Net Zero สำหรับธุรกิจ
Café Amazon คือ ตัวอย่างขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับการผนวกแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมเข้าไปในทุกกระบวนการของธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำ (Upstream) ถึงปลายน้ำ (Downstream) ภายใต้แนวคิด “กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก” โดยเริ่มตั้งแต่ การให้ความรู้เกษตรกรในการเพาะปลูกต้นกาแฟโดยไม่ใช้สารเคมี สร้างองค์ความรู้ในการเพิ่มมูลค่าและยกระดับมาตรฐานผลผลิตทางการเกษตร รับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรด้วยราคาที่เป็นธรรม (Fair Trade) ตลอดจนช่วยสร้างอาชีพให้กับผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คนในชุมชน
ในการมุ่งสู่การเป็นร้านกาแฟสีเขียว Café Amazon มุ่งเน้นการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ผ่านมาตรการสำคัญหลายประการ อาทิ การจัดการขยะและการบำบัดน้ำเสีย ควบคู่กับการลดปริมาณพลาสติกด้วยการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึง การนำนวัตกรรม Upcycling มาแปรรูปวัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การนำแกลลอนนมพลาสติกมาสร้างเป็นกระถางสวนแนวตั้ง และการรีไซเคิลแก้ว PET เป็นเสื้อพนักงาน นอกจากนี้ Café Amazon ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างง่าย ๆ ด้วยการนำแก้วส่วนตัวมาใช้บริการเพื่อรับส่วนลดพิเศษอีกด้วย
จากทั้งหมดนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของ Café Amazon ในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การที่องค์กรมีเป้าหมายและลงมือทำอย่างต่อเนื่อง มีส่วนสำคัญมากต่อการผลักดันให้เกิดการผลิตและบริโภคอย่างมีจิตสำนึก ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างโอกาสให้กับคนทุกกลุ่มให้กับสังคม ยังช่วยส่งต่อความภูมิใจให้กับผู้บริโภคในฐานะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม ชุมชน และโลกใบนี้อย่างแท้จริง
บทสรุปและแนวทางการเริ่มต้นสำหรับ SME
แม้ว่าการพัฒนาสู่ Beyond Net Zero จะเป็นเส้นทางที่ยาวนานและท้าทาย แต่ก็มาพร้อมกับโอกาสมหาศาล ซึ่งธุรกิจ SME สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยขั้นตอนดังนี้:
ประเมินสถานะปัจจุบัน: วิเคราะห์ Carbon Footprint ของธุรกิจเพื่อระบุจุดที่ต้องปรับปรุง
ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: กำหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวด้านความยั่งยืน
เริ่มจากสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ: เช่น ลดการใช้พลังงาน ปรับปรุงประสิทธิภาพ และลดของเสีย
สื่อสารเป้าหมายให้ชัดเจน: แบ่งปันเป้าหมายและความคืบหน้าให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ
หาพันธมิตร: ร่วมมือกับธุรกิจอื่นๆ หรือองค์กรที่มีเป้าหมายด้านความยั่งยืนเช่นเดียวกัน
ในวันที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจ SME ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านความยั่งยืน จะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวก ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในขณะเดียวกัน ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค นำไปสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และมีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งในระยะยาวได้อย่างแน่นอน