จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่ได้ทำการวิเคราะห์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโต และเป็นธุรกิจดาวเด่นในปี 2564 โดยได้ทำการวิเคราะห์จากข้อมูลทางธุรกิจที่มีอยู่ ตั้งแต่สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ จำนวนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ สถานที่ตั้ง งบการเงิน ผลการประกอบธุรกิจ และข้อมูลปัจจัยทางธุรกิจและเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอก ร่วมกับความสอดคล้องจากข้อมูลและผลการศึกษาจากหน่วยงานวิจัยด้านธุรกิจอื่นๆ เช่น ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นต้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
โดยข้อสรุปว่ามี 12 ธุรกิจที่น่าจับตามอง เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยม
และเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงในปี 2564 ประกอบด้วย
1. ธุรกิจการค้าออนไลน์ (e-Commerce)
2. ธุรกิจแพลตฟอร์ม
สำหรับการเป็นตลาดกลางออนไลน์
3. ธุรกิจสื่อโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์
(Online) และออฟไลน์ (Offline)
4. ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ
(Delivery)
5. ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์
6. ธุรกิจออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์
(Packaging)
7. ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม
8. ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์
9. ธุรกิจเวชภัณฑ์ยา ธุรกิจขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์
10. ธุรกิจพัฒนาโปรแกรม Software และ Application
11. ธุรกิจการเงิน Fintech และ e-Payment
12. ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ
เช่น ร้านสะดวกซัก เครื่องเติมเงิน เครื่องเติมน้ำ
โดยใน 12 ธุรกิจสามารถจำแนกออกเป็นกลุ่มธุรกิจได้เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
4 กลุ่มธุรกิจดาวเด่นกระแสแรงในปี
2564
กลุ่มที่ 1 ธุรกิจด้านการค้าและการตลาดออนไลน์ ได้แก่ ธุรกิจการค้าออนไลน์ (e-Commerce)
ธุรกิจแพลตฟอร์มสำหรับการเป็นตลาดกลางออนไลน์
และธุรกิจสื่อโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ (Online) และออฟไลน์ (Offline)
โดยธุรกิจในกลุ่มนี้
มีการเติบโตที่สอดคล้องและเกื้อหนุนกันกับพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนในปัจจุบันที่มีการซื้อขายสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
ทั้งจากช่วงก่อนหน้านี้ และช่วงที่เกิดมีการแพร่ระบาดของโควิด 9 ซึ่งสะท้อนจากจำนวนธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการจัดตั้งธุรกิจใหม่
เช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีการเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจใหม่
จากปีละ 310 รายในปี 2561 มาเป็นปีละ 798
รายในปี 2563 ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสและความท้าทายให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ เข้ามาดำเนินธุรกิจได้มากขึ้น
กลุ่มที่ 2 ธุรกิจด้านขนส่ง โลจิสติกส์ และบรรจุภัณฑ์ เช่น ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ
(Delivery) ธุรกิจขนส่ง โลจิสติกส์ (Logistic)
และธุรกิจออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ (Packaging) โดยเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลดีจากพฤติกรรมการบริโภคในการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์
และการเติบโตของกลุ่มธุรกิจด้านการค้าและการตลาดออนไลน์
ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน
สังเกตได้จากแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างมาก เช่น
ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ (Delivery) มีรายได้ตลอดปี
2562 เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึงร้อยละ 57 และธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ (Logistic) มีกำไรตลอดปี
2562 เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึงร้อยละ 116
กลุ่มที่ 3 ธุรกิจด้านสุขภาพ สุขอนามัย และการแพทย์ ได้แก่ ธุรกิจบริการทางแพทย์และความงาม
ธุรกิจเครื่องมือแพทย์
และธุรกิจเวชภัณฑ์ยาและขายสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์
เป็นกลุ่มธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลดีจากพฤติกรรมของคนในสังคมที่ใส่ใจเรื่องของสุขภาพและการแพทย์
รวมทั้งความระแวดระวังจากการแพร่ระบาดของโรคที่เกิดขึ้น
ซึ่งสะท้อนจากจำนวนธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการจัดตั้งธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจเครื่องมือแพทย์’ มีการเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจใหม่ จากปีละ 68
รายในปี 2561 มาเป็นปีละกว่า 114 รายในปี 2563 และธุรกิจเวชภัณฑ์ยาและขายสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์’ ที่มีการเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจใหม่ จากปีละ 945 รายในปี
2561 มาเป็นปีละกว่า 1,158 รายในปี 2563
กลุ่มที่ 4 ธุรกิจด้านเทคโนโลยีเพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ธุรกิจพัฒนาโปรแกรม
Software และ Application ธุรกิจการเงิน Fintech และ e-Payment ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เครื่องซักผ้า เครื่องเติมเงิน และเครื่องเติมน้ำ เนื่องจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่ตอบสนองต่อการบริโภคของคนในสังคม
เพื่ออำนวยความสะดวกและพัฒนาการให้บริการต่างๆ
ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยีมากขึ้น
สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สังเกตได้จากแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างมาก
เช่น ธุรกิจการเงิน Fintech และ e-Payment มีกำไรตลอดปี 2562 เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น จากปี 2561 ถึงร้อยละ 324 และธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เครื่องซักผ้า เครื่องเติมเงิน และเครื่องเติมน้ำ
มีกำไรตลอดปี 2562 เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึงร้อยละ 94
แหล่งอ้างอิง :
https://www.commercenewsagency.com/