แม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล
แต่ขณะเดียวกันคนญี่ปุ่นก็มีวัฒนธรรมการนำแมลงมาปรุงเป็นอาหารเช่นกัน อาทิ
การรับประทานตั๊กแตนในนาข้าว แม้ปัจจุบันจะไม่ใช่เมนูอาหารปกตินัก
แต่ก็ถือว่าเป็นเมนูเปิบพิสดารที่คนญี่ปุ่นยอมต่อคิวรอนานๆ เพื่อให้ได้ลิ้มลองหรือผลิตขึ้นมาแล้วขายหมดในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ตัวอย่างเช่น บะหมี่ราเม็ง "สึเกะเม็งหน้าแมลง" ของร้านอาหารราเม็งนางิ ในกรุงโตเกียว บะหมี่ดังกล่าวโรยหน้าด้วยจิ้งหรีดและหนอนนกทอดกรอบสิบกว่าตัว เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปที่ปรุงรสด้วยจิ้งหรีด ตั๊กแตน และตัวไหม ทอดบดเป็นผง ที่ทำขึ้นเพียงวันละ 100 ชามเท่านั้น ราคาของราเม็งเต็มชุดอยู่ที่ 3,000 เยน (ประมาณ 900 บาท) ประกอบด้วย ราเม็งแมลง ข้าวเปล่า 1 ถ้วยโรยหน้าด้วยจิ้งหรีด หนอน เปาะเปี๊ยะทอด และไอศกรีมราดด้วยผงแมลงทอดบด
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ล่าสุดช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท Ryohin Keikaku เจ้าของร้านขายปลีกสินค้าญี่ปุ่นชื่อดัง
“Muji” เริ่มจำหน่ายขนมเซมเบ้ (ขนมข้าวอบกรอบญี่ปุ่น)
ที่ใช้ผงจิ้งหรีดมาเป็นส่วนผสม ซึ่งแปรรูปจากจิ้งหรีดเลี้ยงในฟาร์มใน จ.โอกินาว่า
ซึ่งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น สินค้าบรรจุใส่ซองขนาด 55 กรัม จำหน่ายในราคา 190 เยน (ราว 60 บาท) โดยจำหน่ายบนร้านออนไลน์ของ Muji ในจำนวนจำกัด ผลปรากฏว่าสินค้าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคและขายหมดในวันเดียว
ผู้ที่ได้ชิมส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า “เซมเบ้จิ้งหรีด”
มีกลิ่นและรสชาติอร่อยคล้ายกับเซมเบ้กุ้ง
ปัจจุบันบริษัทฯ กำลังเร่งเพิ่มวัตถุดิบให้เพียงพอ
โดยสามารถเริ่มกลับมาจำหน่ายได้อีกครั้งในช่วงกลางเดือนมิถุนายน และเตรียมวางจำหน่ายตามร้าน
Muji เพิ่มเติมในบางสาขาทั่วประเทศ นอกเหนือจากช่องทางออนไลน์
เรื่องนี้ทำให้มองไปในช่วงที่ผ่านมา เริ่มเห็นกระแสการใช้แมลงเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือก
เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาภาวะขาดแคลนอาหารทั่วโลกในอนาคต
โดยจิ้งหรีดได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โปรตีนในจิ้งหรีดมีมากกว่าเนื้อวัว
เนื้อหมู หรือเนื้อไก่ถึง 3 เท่า โดยข้อดีของการเลี้ยงแมลงบริโภค ซึ่งประหยัดทรัพยากรในการเลี้ยงมากกว่าปศุสัตว์อื่นเนื่องจาก
1. จิ้งหรีดต้องการอาหารและน้ำน้อยกว่าสัตว์ใหญ่และต้องการพื้นที่
เลี้ยงน้อยกว่าวัว หมู และไก่อีกด้วย
2. จิ้งหรีดสามารถโตเต็มวัยภายใน
35 วัน อีกทั้งใช้เวลาในการสืบพันธุ์สั้นมาก
3. จิ้งหรีดสามารถกินอาหารได้เกือบทุกอย่าง
ตั้งแต่พืชผัก ผลไม้ ไปจนถึงเศษอาหาร จึงเลี้ยงง่ายและช่วยแก้ปัญหาขยะอาหาร หรือ
"food loss" ได้
ปัจจุบันการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ใช้แมลงเป็นส่วนผสมยังไม่เป็นที่แพร่หลายในญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดีผู้บริโภคญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะพิจารณาเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ประกอบในการเลือกซื้อสินค้า
ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสําคัญที่ทําให้ขนมเซมเบ้จิ้งหรีดสามารถจําหน่ายหมดภายในวันเดียว
นอกจากนี้ผงโปรตีนจากจิ้งหรีดสามารถนําไปใช้ในการผสมลงในอาหารประเภทต่างๆ
ได้ หลายชนิด อาทิพาสต้า คุกกี้ เค้ก พิซซ่า ฯลฯ
ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานอยู่แล้ว ปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้อาจเป็นจุดเริ่มที่ทําให้ตลาดญี่ปุ่น
หันมาให้ความสําคัญกับการใช้แมลงเป็นอาหารทางเลือกใหม่มากยิ่งขึ้น
ภาพจาก https://www.muji.com/jp/ja/store/cmdty/detail/4550344162897