ทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งสำคัญที่หลายหน่วยงานต้องรักษาเอาไว้
เพื่อช่วยให้เกิดเสถียรภาพในการทำงานและการเติบโตก้าวหน้าในองค์กร
เนื่องจากการได้คนเก่งดีมีความสามารถมาร่วมงานนั้น จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรและทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้
ดังนั้นแล้วจะเห็นได้ว่าหลายองค์กรมีการปรับตัวให้สอดคล้อง
ตอบรับการทำงานหรือพฤติกรรมคนทำงานที่เปลี่ยนไป
เพื่อสร้างความพึงพอให้ให้เกิดขึ้นในใจพนักงาน
เนื่องจากพนักงานที่มีความพึงพอใจต่อองค์กร เช่น รูปแบบการทำงาน
ระบบระเบียบปฏิบัติ วัฒนธรรมขององค์กร หรือสวัสดิการที่มีให้
รวมไปถึงความเป็นอยู่ที่ดีจากผลตอบแทนที่พวกเขาจะได้รับจากการทุ่มเทการทำงาน
จะทำให้พนักงานรู้สึกดีต่อองค์กรและมีความสุขในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและผลงานคุณภาพของพนักงานได้ด้วย
เหตุนี้ในยุค New Normal หรือ Next Normal ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในศตวรรษที่ 21 มุมมองความคิดเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคล จำต้องปรับเปลี่ยนไปให้เข้ากับยุคสมัย ทันต่อสถานการณ์รอบข้าง เพื่อสร้างความพึงพอใจให้คนทำงานที่เปลี่ยนไปในยุค New Normal และถูก Disruption จากเทคโนโลยี และเหตุการณ์ต่างๆ ที่องค์กรการทำงานในยุค 2021 ควรนำไปปรับใช้บริหารพนักงาน ดังแนวทางต่อไปนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
มุ่งเน้นไปที่ผลงาน (Output) ของคนทำงาน
ในอดีตที่ผ่านมาเรื่องหนึ่งที่องค์กรใช้รีเช็คพนักงาน ก็คือการควบคุมเวลาการเข้า-ออก ขาดลา มาสาย ของพนักงาน ผ่านแบบประเมินพฤติกรรม โดยไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ผลงานของพนักงานคนนั้นมากนัก ทำให้หลายครั้งองค์กรต้องพลาดโอกาสในการที่จะเก็บรักษาพนักงานฝีมือดีไว้ไปอย่างน่าเสียดาย จากการบีบคั้นและกดดันเรื่องมาตรฐานเวลาการทำงาน ซึ่งในยุค Next Normal การวัดผลคนทำงานด้วยกรอบเวลา อาจไม่สามารถนำมาใช้บริหารคนทำงานได้อีกต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ยังคงควบคุมไม่ได้ ที่ทำให้เกิดระบบการทำงานแบบ Remote และการทำงานแบบ Work From Home ขึ้นมา เพื่อปรับตัวให้ธุรกิจยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ การวัดค่าของคนทำงานด้วยผลงาน (Output) จึงเป็นสิ่งที่องค์กรในยุคต่อไปต้องให้ความสำคัญมากกว่าเวลาการทำงานที่ต้องยืดหยุ่น รองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่อาจถูก Disruption ได้ตลอดเวลา
สนับสนุนการทำงานด้วย Software และ Technology ที่เหมาะสม
เพื่อให้การทำงานนั้นเปฺ็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
ภายใต้การทำงานแบบ Remote และ work
From Home ที่อาจกลายมาเป็นรูปแบบการทำงานของพนักงานในยุค Next
Normal และคงอยู่ตลอดไปในระบบการทำงานทั่วโลก
หา Key Position ในผังระบบงาน
โดยองค์กรต้องหาให้ได้ว่า ตำแหน่งงานไหนมีบทบาทความสำคัญต่อระบบการทำงานที่เชื่อมโยงกัน
เพื่อทำผังงานทดแทนในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นแก่พนักงานตำแหน่งนั้น เช่น
เกิดการติดเชื้อ เจ็บป่วย จนไม่สามารถปฏิบัติงานได้ เพื่อจะได้หาคนมาทำงานทดแทนในทันท่วงที
และสามารถรันงานนั้นๆ ได้ตามแผน โดยไม่เกิดความเสียหายในภาพรวม
หรือเกิดการสะดุดติดขัดในการดำเนินงาน เพราะท่ามกลาง New Normal นั้นยังคงมีเรื่องของเชื้อโควิด 19
เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ปรับเปลี่ยนผังการบริหารคนในองค์กรใหม่
โดยอาจต้องมีการปรับลดตำแหน่ง โยกย้ายคนทำงาน
เพื่อให้สามารถประครองธุรกิจต่อไปได้ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด
19 ทั้งนี้อาจต้องพิจารณาการว่าจ้างงานคนทำงานเป็นแบบ Out Source Contact เข้ามาช่วยงานเพิ่มเติม
ตามสถานการณ์ในปัจจุบัน
ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของ HR ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
ด้วยเทคโนโลยีหรือ Software ช่วยงานต่างๆ เพื่อลดขั้นตอนการทำงานลง
โดยที่ยังคงสามารถติดตามผลการทำงานของพนักงานได้อย่างต่อเนื่องต่อไป
ถึงแม้ว่าจะไม่มีระบบการเข้า-ออกงาน และการขาด ลา มาสาย มาช่วยประเมินก็ตาม
อาทิเช่น การสร้างระบบให้พนักงานยืนยันตำแหน่งการทำงานที่คงที่นับตั้งแต่วันแรกที่มีการแจ้งสถานที่
เพื่อปักหมุดการทำงานแบบ Work From Home หรือระบบรายงานตัวตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ร่วมกัน
เพื่อเช็คสถานการณ์ทำงานหรือระบบการประเมินการทำงานจากผลงานที่จับต้อง วัดผลได้
เป็นต้น
ส่งเสริมการฝึกอบรมทักษะความรู้ให้แก่พนักงานผ่านคอร์สออนไลน์
ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้รองรับการทำงาน
การประชุมสัมมนา และจัดอบรมที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน ภายใต้ต้นทุนในการบริหารจัดการที่ต่ำกว่าการจัดอบรมแบบปกติ
จึงไม่ใช่เรื่องที่องค์กรจะไม่สามารถจัดการอบรมสัมมนาให้ความรู้แก่พนักงานในเครือได้
แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะถ้าการจัดอบรมพนักงานนั้นจะนำมาสู่ประโยชน์อันดีต่อองค์กร อาทิเช่น
- ช่วยเสริมสร้างกำลังใจและทัศนคติที่ดีในการทำงาน
นอกจากการฝึกอบรมในแต่ละหลักสูตรจะสร้างความรู้ความชำนาญทางวิชาการแก่พนักงานแล้ว ยังสามารถช่วยให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลายจากสภาวะตึงเครียดที่เกิดจากการทำงาน
และยังสามารถเล็งเห็นว่าองค์กรนั้นมีความใส่ใจ พร้อมส่งเสริมพนักงานให้มีความก้าวหน้าในอาชีพการงานได้ด้วย
- เพิ่มทักษะในหน้าที่การงาน
หากการฝึกอบรมมีประสิทธิภาพ สิ่งที่สามารถสะท้อนกลับมา คือการที่พนักงานนำเคล็ดลับความรู้กลับมาใช้ในการทำงาน
สามารถปฏิบัติงานด้วยทักษะที่เพิ่มขึ้น ทั้งในด้านการแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงความชำนาญในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น
- ช่วยลดอุบัติเหตุจากการทำงาน ประโยชน์ที่สามารถเห็นชัดจากการฝึกอบรม โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวกับฝ่ายโรงงานหรือฝ่ายผลิตการลดอุบัติเหตุและความผิดพลาดในการทำงาน จะทำให้ระบบการทำงานในภาพรวมสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น