5 เทคโนโลยี ‘สร้างประสบการณ์ใหม่’ท่องเที่ยวปี 2020

SME Update
29/12/2019
รับชมแล้วทั้งหมด 20877 คน
5 เทคโนโลยี ‘สร้างประสบการณ์ใหม่’ท่องเที่ยวปี 2020
banner

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับภูมิทัศน์การท่องเที่ยวไปทั่วโลก

ปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล ได้เปลี่ยนแนวคิดจาก "นักท่องเที่ยว" เป็น "นักเดินทาง" ขณะที่ "ตัวแทนจากองค์กรท่องเที่ยว" กลายเป็น "ผู้ให้คำแนะนำ" หรือ "ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว" ผู้บริโภคสามารถจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างๆ ด้วยตนเองผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่และแพลตฟอร์มต่างๆ ที่อยู่ในระบบอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น

นอกจากนี้เทคโนโลยีและนวัตกรรมยังเปลี่ยนตัวแปรสำคัญ ในการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการสตอบสนองความต้องการได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงการติดต่อสื่อสารกันอย่างไร้พรมแดน ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพในไทยต้องให้ความใส่ใจ และหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีที่มีอยู่รอบตัวให้เป็นประโยชน์เพิ่มมากกว่าเดิม

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 


ข้อมูลจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA  ได้เผย 5 เทคโนโลยีดิจิทัลสำคัญและจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีถัดไป ได้แก่

 AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) หรือการนำเสนอข้อมูลเชิงเสมือนที่ผสมผสานกับโลกของความเป็นจริง โดย AR และ VR เป็นเทคโนโลยีที่หลายอุตสาหกรรมกำลังค้นหาวิธีใช้งาน ส่วนในวงการท่องเที่ยวได้เริ่มมีการประยุกต์ใช้ AR แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการฉายภาพทิวทัศน์ต่างๆ ในระบบ 3 มิติเพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นก่อนนำมาตัดสินใจในการเลือกเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ เช่น ร้านอาหาร ที่พัก การนำมาใช้สำรวจการเปลี่ยนแปลงของสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ เป็นต้น

บล็อกเชน เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความปลอดภัยและแม่นยำของข้อมูล แต่อย่างไรก็ตามบล็อกเชนถูกมองว่าอาจนำมาประยุกต์ใช้กับการท่องเที่ยวได้แม้จะยังไม่มีตัวอย่างที่ชัดเจนนัก แต่มีแนวคิดว่าบล็อกเชนอาจนำมาใช้กับการยืนยันตัวตนที่สนามบิน การชำระเงินในต่างประเทศ หรือความโปร่งใสของรีวิวจากนักท่องเที่ยว

Recognition หรือเทคโนโลยีเพื่อการจดจำ ไม่ว่าจะเป็นการจดจำข้อมูลด้วยใบหน้า ลายนิ้วมือ หรือดวงตา การจดจำ ข้อมูลของนักท่องเที่ยวด้วยสิ่งเหล่านี้ จะทำให้การบริการมีศักยภาพที่ดีขึ้น เช่น โรงแรม เลานจ์ หรือสายการบิน สามารถใช้การจดจำข้อมูลลักษณะนี้ เพื่อคัดกรองแขกประจำที่สามารถเข้าไปใช้บริการพื้นที่พิเศษ หรืออาจใช้เพื่อตรวจจับผู้โดยสารหรือแขกที่มักจะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพื่อให้พนักงานเตรียมรับมือได้ทันท่วงที

สมาร์ทโฟน มีรายงานว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยว 45% ใช้สมาร์ทโฟนดำเนินการทุกอย่างที่เกี่ยวกับแผนท่องเที่ยว เพื่อให้กิจกรรมต่างๆมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยสมาร์ทโฟนเป็นโจทย์ที่ทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องต้องเร่งหาทางตอบสนอง เช่น ในระบบสายการบินที่ควรจะต้องมีบริการหรือแพลตฟอร์ม ที่ช่วยลดความยุ่งยากทางด้านเอกสาร บริการจองที่พักหรือร้านอาหารที่ต้องพัฒนาระบบจองคิว รวมทั้งแอพพลิเคชั่นนำเที่ยวที่ต้องมีการให้ข้อมูลเชิงลึกผ่านภาพ วิดีโอ หรือข้อความ เพื่อให้นักเดินทางสามารถตัดสินใจได้ทันท่วงที

ผู้ช่วยเสมือนอัจฉริยะ ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับ Siri หรือ Alexa แต่เป็นผู้ช่วยที่ฝึกฝนมาเพื่อช่วยเหลือหรือให้ประสบการณ์เฉพาะเกี่ยวกับการท่องเที่ยว พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวว่าสามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย มีความปลอดภัย และได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง  

 

นอกจากเทคโนโลยีต่างๆ จะมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแล้ว สิ่งที่ผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ และผู้พัฒนานวัตกรรมในธุรกิจดังกล่าว ต้องปรับตัวให้ทันอีกหนึ่งเรื่องคือ พฤติกรรมต่างๆ ของนักเดินทางที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่พักที่ต้องมีทางเลือกมากขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการในรูปแบบที่เน้นคุณค่าและบ่งบอก ลักษณะเฉพาะตัวมากขึ้น เช่น มีอินเทอร์เน็ตฟรีทุกพื้นที่ มีบริการที่เข้าถึงง่าย มีการสร้างปฏิสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยว

ประเด็นถัดมาคือ การค้นหาข้อมูลที่ทำได้ฉับไวรวดเร็วขึ้น ส่งผลต่อระยะการวางแผนล่วงหน้าที่เคยเฉลี่ยอยู่ที่ 60 วันก่อนการเดินทางเป็นอย่างต่ำ เปลี่ยนเป็นใกล้วันเดินทางแบบนาทีสุดท้ายหรือ last minute booking จนกลายเป็นเทรนด์หลักของนักเดินทางยุคปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการเดินทางที่เปลี่ยนจากยุคของกรุ๊ปทัวร์มาสู่การเดินทางด้วยตัวเอง (Free Independent Traveller: FIT) ซึ่งในปีนี้มีการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยกว่า 19.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงการพัฒนาสื่อรูปแบบใหม่ๆ ที่ช่วยมอบประสบการณ์ให้กับผู้มีแนวโน้มที่จะเดินทางมาเยือนพื้นที่ต่างๆ เพื่อเป็นการตอกย้ำศักยภาพทางการท่องเที่ยว และเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้น


จากการคาดการณ์ขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ด้านการท่องเที่ยว (Tourism Landscape) จะปรากฏชัดในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งจะมีนักเดินทางทั่วโลกกว่า 1,600 ล้านคน ขับเคลื่อนมาสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถึง 416 ล้านคน หรือครองสัดส่วน 1 ใน 4 โดยมีประเทศไทยเป็นปลายทางสำคัญ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนับเป็นผลดีสำหรับผู้ดำเนินธุรกิจต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางเป็นอย่างมาก และการเติบโตทั้งหมดนี้ จะต้องขับเคลื่อนด้วยการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์


กรณีศึกษาความสำเร็จของ “แอร์บีเอ็นบี”

ธุรกิจต้องรู้ ! 8 เทรนด์ท่องเที่ยวปี 2020



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

Digital Transformation คืออะไร? เปิดคู่มือสำหรับผู้นำยุคใหม่

Digital Transformation คืออะไร? เปิดคู่มือสำหรับผู้นำยุคใหม่

ก่อนหน้านี้ เราอาจเคยได้ยินสุภาษิตที่ว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” กันจนชินหู แต่ปัจจุบันต้องบอกว่าไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เพราะ “ปลาเร็วกินปลาช้า”…
pin
1 | 23/09/2025
AI Search Optimization: 10 วิธีให้ AI เลือกแสดงสินค้าคุณ

AI Search Optimization: 10 วิธีให้ AI เลือกแสดงสินค้าคุณ

หน้าผลการค้นหาของ Google (SERPs) ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อ AI เข้ามามีบทบาทในการ “สรุป” และ “แนะนำ” สินค้าแก่ผู้บริโภคโดยตรง แต่คำถามที่ผู้ประกอบการหลายคนมักสงสัย…
pin
1 | 22/09/2025
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) คืออะไร? คู่มือซื้อ-ขาย-ใช้ฉบับสมบูรณ์ [อัปเดต 2568]

รถยนต์ไฟฟ้า (EV) คืออะไร? คู่มือซื้อ-ขาย-ใช้ฉบับสมบูรณ์ [อัปเดต 2568]

รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันบนท้องถนนในประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด โดยกระแสความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์…
pin
2 | 21/09/2025
5 เทคโนโลยี ‘สร้างประสบการณ์ใหม่’ท่องเที่ยวปี 2020