พาทุกคนมาทำความเข้าใจ AI ทั้ง 3 ประเภทของที่ “ธุรกิจควรรู้จัก!”
ในยุคที่ AI เข้ามาเปลี่ยนโลกการทำงานและการแข่งขันทางธุรกิจ หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า Generative AI, Predictive AI และ Automation AI แต่บอกเลยว่า แค่รู้จักอาจยังไม่พอ ! เพราะ AI ทั้ง 3 รูปแบบแตกต่างกัน ซึ่งถามว่าแตกต่างกันอย่างไร? และส่งผลต่อธุรกิจแบบไหน?
—--------------------------------------
วันนี้มาลองทำความเข้าใจทีละประเภทไปพร้อมกัน
—--------------------------------------
1. Generative AI หรือ AI เชิงสร้างสรรค์ เป็นชื่อที่เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ ในยุคนี้
ซึ่ง Generative AI คือ AI ที่สามารถ “สร้างสิ่งใหม่ได้” เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ เพลง โค้ด หรือดีไซน์ โดยอาศัยโมเดลที่ถูกฝึกด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งมีประโยชน์ต่อธุรกิจหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
ช่วยสร้างคอนเทนต์และสื่อโฆษณาได้เร็วขึ้น ประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายในการผลิต
สามารถช่วยทำ Personalization ได้ในระดับที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มได้แบบเฉพาะเจาะจงได้มากกว่าเดิม ช่วยให้ธุรกิจสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น
ช่วยสร้างสรรค์ Prototype หรือทดสอบไอเดียสินค้าและบริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ช่วยทำให้ธุรกิจที่หันมาปรับใช้ Generative AI มีความคล่องตัว และสามารถเริ่มสร้างความแตกต่างให้โดดเด่นจากคู่แข่งได้จริง
ยกตัวอย่าง เช่น แบรนด์ Zalando ธุรกิจ E-commerce ด้านแฟชั่น ที่หันมาใช้ GenAI สร้างสรรค์ภาพโฆษณาแทนการถ่ายจริง ซึ่งสามารถช่วยลดเวลาในการผลิตผลงานจากปกติ 6–8 สัปดาห์ ให้เหลือเพียง 3–4 วัน พร้อมทั้งช่วยลดต้นทุนการผลิตโฆษณาได้กว่า 90%
2. Predictive AI หรือ AI เชิงคาดการณ์ เป็นอีกหนึ่ง AI ที่สามารถเข้ามาช่วยให้ธุรกิจสามารถคาดการอนาคตได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
ซึ่ง Predictive AI คือ เครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้ธุรกิจสามารถ “ทำนายอนาคต” โดยอาศัยข้อมูลในอดีตและปัจจุบัน เช่น คาดการณ์แนวโน้มลูกค้า ยอดขาย ความเสี่ยง หรือความต้องการสินค้า ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่เข้ามาสร้างประโยชน์ให้ธุรกิจได้หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
เข้ามาช่วยในการทำ Demand Forecasting เพื่อให้การวางสต็อกและซัพพลายเชนแม่นยำมทากยิ่งขึ้น
เป็นตัวช่วยคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้าที่อาจเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น กลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มเลิกใช้บริการ (Churn Prediction) เป็นต้น
ช่วยในการตรวจจับความเสี่ยงและการฉ้อโกงสำหรับธุรกิจด้านการเงิน
เพิ่มความแม่นยำในการวางกลยุทธ์และการลงทุน
ยกตัวอย่าง เช่น Walmart ที่มีการใช้ Predictive AI ในซัพพลายเชนและคลังสินค้า เพื่อลดการสูญเสียจากการคาดการณ์ผิดพลาด และเข้ามาช่วยเพิ่ม Margin ของธุรกิจอีกด้วย
3. Automation AI หรือ AI สำหรับงานอัตโนมัติ นับเป็นตัวช่วยลดการทำงานที่ซ้ำซากในอีกทางหนึ่ง
โดย Automation AI คือ ตัวช่วยที่เข้ามา “ช่วยทำงานแทนมนุษย์” สำหรับงานที่ซ้ำซาก และมีกฎชัดเจน เช่น งานด้านการประมวลผลเอกสาร, การตรวจสอบข้อมูล, การอนุมัติคำสั่งซื้อ รวมถึงการใช้หุ่นยนต์ในโรงงานที่เราเห็นได้มากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งนับว่าเป็นตัวช่วยใหม่ที่หลาย ๆ ธุรกิจหันมาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
ใช้ Automation AI เข้ามาช่วยลดต้นทุนและเวลา สำหรับงานที่จำเป็นต้องใช้แรงงานคนจำนวนมาก
ช่วยลดความผิดพลาดจากการทำงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ
ทำให้พนักงานมีเวลาสำหรับทงานที่ต้องใช้ความรู้ในเชิงกลยุทธ์และสร้างคุณค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ทำให้ธุรกิจสามารถขยายขนาดการทำงานได้โดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนคนเกินความจำเป็น
ยกตัวอย่าง เช่น
โรงงานด้านการผลิต ที่หันมาใช้ AI และ Robotics เพื่อช่วยตรวจสอบคุณภาพสินค้าแบบอัตโนมัติ นับเป็นอีกหนึ่งทางในการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความรวดเร็วในงานด้านการผลิต
บริษัท Walmart ที่ใช้ Automation AI ในคลังสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าและกระจายของสดได้มากยิ่งขึ้น
บอกเลยว่า ณ จุดนี้ AI ทั้งรูปแบบ 3 แบบทั้ง Generative AI, Predictive AI, และ Automation AI ไม่ได้แข่งขันกัน แต่เข้ามาช่วยเสริมการทำงานซึ่งกันและกัน เพื่อให้ธุรกิจสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และประหยัดมากยิ่งขึ้น
.
สรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ คือ Generative AI เข้ามาช่วยสร้างสรรค์และเร่งความเร็วในการทำคอนเทนต์หรือนวัตกรรม Predictive AI ช่วยให้ธุรกิจมองเห็นอนาคตและตัดสินใจได้อย่างแม่นยำขึ้น และ Automation AI ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับตัวงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ
การเข้าใจและเลือกใช้ AI แต่ละประเภทให้เหมาะกับองค์กร จึงนับเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันในยุคดิจิทัลนั่นเอง
#GenerativeAI #PredictiveAI #AutomationAI #AI #ArtificialIntelligence #BBO #thebigblueocean #digitaltransformation #transformationbuddy
สุดารัตน์ เรืองวิเศษ
พนักงานวิเคราะห์ 9
Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333
