ด้วยหัวใจและรากฐานที่เติบโตจากครอบครัวเกษตรกร
แม้จะมีโอกาสที่ดีด้านหน้าที่การงานในเมืองหลวง
แต่เมื่อถึงจุดที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากพอ ‘คุณจอน’ - เสาวลักษณ์ มณีทอง
ก็บอกลาทุกอย่าง เบนเข็มชีวิตสู่เส้นทางเกษตรกร เธอตั้งใจว่าวันหนึ่งข้างหน้าเธอจะมีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาเดิมๆ
ในภาคเกษตรให้เป็นอาชีพที่มั่นคง
มีรายได้ที่ดีและสร้างความยั่งยืนในชุมชนได้อย่างแท้จริง
ความรู้ที่เธอนำกลับมาใช้กับบ้านเกิดคือ ‘อีคอมเมิร์ซ’ ซึ่งมองว่าการตลาดออนไลน์จะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ขายสินค้าได้
ผนวกกับการประยุกต์ใช้ความรู้ในด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ยกระดับเกษตร Traditional ไปสู่การปลูกป่าสมุนไพรในรูปแบบ Organic Farming และสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูป
โดยรวมกลุ่มในชุมชนจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรปลูกรักเมื่อปี 2557
ที่ตำบลพระธาตุ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มฯ กว่า 300 คน สามารถสร้างงาน
สร้างรายได้ที่มั่นคงและให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
จาก
‘หัวปลี’ สู่ผลิตภัณฑ์เพื่อน้ำนมแม่
‘คุณจอน’ เล่าว่า เธอให้ความสนใจตลาดสมุนไพรไทยซึ่งสามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลาย
ช่วงต้นได้มีการรับซื้อผลผลิตสมุนไพรจากชาวบ้านในพื้นที่
ตั้งแต่การรับซื้อ ‘หัวปลี’
ที่ปกติไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์มากนัก เธอจึงเกิดแนวคิดนำหัวปลีมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์น้ำนมเเม่ควบคู่ไปกับการส่งเสริม
แนะนำชาวบ้านในพื้นที่ทำเกษตรแบบอินทรีย์ และปลูกพืชสมุนไพรตามความต้องการของตลาด
การดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรปลูกรัก
คือการรับซื้อวัตถุดิบในพื้นที่เพื่อนำมาแปรรูปในขั้นต้น เน้นทำการตลาดในลักษณะ B2B
(Business-to-Business) โดยซัพพลายวัตถุดิบสมุนไพรให้องค์กรใหญ่
และภาคเอกชนที่ออเดอร์สินค้าครั้งละมากๆ เช่น ขิง ขมิ้นชัน อัญชัน กระชาย มะขามป้อม
โดยจะมีการออเดอร์ล่วงหน้า
ขณะเดียวกันก็มีการทำตลาดออนไลน์โดยการจัดตั้งเป็นนิติบุคคลในนามบริษัท
ภาลักษณ์เจริญ จำกัด ดำเนินการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร แบรนด์ ‘Plant
love’ เครื่องดื่มสมุนไพรสำเร็จรูปสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร ที่เน้นขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์
ภายใต้จุดเด่นคือการทำเกษตรอินทรีย์ มีมาตรฐานการรับรองทั้ง อย., Halal, GAP, HACCP และ USDA Organic ทำให้ตลาดนี้เธอมียอดขายทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ
ด้วยเหตุนี้เธอจึงมีตลาดสมุนไพรทั้งในลักษณะขายส่งวัตถุดิบแปรรูปขั้นต้นทั้งแบบตากแห้งและแบบผง
รวมถึงตลาด Niche Market ที่เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปพร้อมดื่มแบรนด์
‘Plant love’ ซึ่งเธอเล่าว่ากว่าจะถึงจุดนี้ได้ผ่านการลองผิดลองถูกมามาก
“จอนไม่ได้เก่งทุกเรื่อง
จึงต้องมีทีมที่ดี มีคู่ค้าที่ดี ช่วยเหลือกัน และที่สำคัญคือการมุ่งมั่นที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง
คนกับป่าอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน”
คุณภาพและปริมาณต้องควบคู่กัน
‘คุณจอน’ เล่าว่า คุณภาพและมาตรฐานสินค้าสมุนไพรเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
ด้วยเหตุนี้การควบคุมคุณภาพและปริมาณของสมุนไพรที่จะแปรรูปออกสู่ตลาด จะมีการประชุมทำความเข้าใจกับเกษตรกรว่าตลาดต้องการสมุนไพรที่มีคุณภาพ
ปลอดสารเคมี โดยกลุ่มฯ จะมีการไปเยี่ยมชมแปลงปลูก มีการตรวจทางวิทยาศาสตร์เพื่อดูว่าสมุนไพรมีสารเคมีตกค้างหรือไม่
เน้นผลิตวัตถุดิบคุณภาพ ปลอดภัยและควบคุมปริมาณเพื่อไม่ให้ล้นตลาด
ตลอดเวลา
‘คุณจอน’ ต้องสำรวจตลาด ตรวจสอบปริมาณความต้องการวัตถุดิบของลูกค้า ซึ่งเธอบอกว่าความถนัดของเธอคืองานหลังบ้าน
คอยซัพพลายวัตถุดิบให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น
มีออเดอร์ขมิ้นชัน 500 ตัน ขิง 100 ตัน ก็จะนำออเดอร์ดังกล่าวมาวางแผนการผลิต โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกและจัดส่ง
ขณะเดียวกันก็จะมีการนำวัตถุดิบมาเเปรรูปผลิตภัณฑ์แบรนด์
Plant Love ด้วย เพื่อให้สามารถจัดการวัตถุดิบไม่ให้เกิดการล้นตลาด
ในส่วนงานด้านเทรดเดอร์ซึ่งเธอไม่ถนัดจะมีเพื่อนคู่ค้ารับไปดำเนินการอีกที
“เราพยายามทำความเข้าใจเกษตรกรว่า
เราไม่ได้เป็นพ่อค้าคนกลาง เเต่จะเคียงข้างเขาในฐานะเกษตรกรเหมือนกัน ตั้งใจจะเข้าหากันด้วยการเชื่อมความสัมพันธ์เเบบพี่น้อง
กลุ่มฯ จะพยายามทำให้ราคาผลผลิตสมุนไพรราคาสูงกว่าท้องตลาด เพราะเรามีตลาดรองรับ
และยังนำมาเเปรรูปเพิ่มมูลค่า”
สร้างป่าอาหาร
ชุมชนเติบโตยั่งยืน
“เมื่อใดที่ท้องยังหิว
เขาก็จะไม่มีทางที่จะสร้างป่าได้” พระราชดำรัส สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีฯ
ซึ่งคุณจอนน้อมนำมาปรับใช้ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างป่าอาหาร สร้างงาน และสร้างรายได้ให้บ้านเกิด
โดยการส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกสมุนไพรแบบปลอดสารพิษ และรับซื้อ
รวมถึงการน้อมนำทฤษฎีของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในเรื่องปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4
อย่าง คือการอยู่ร่วมและใช้ประโยชน์จากป่า
“สิ่งที่เห็นตอนนี้คือ การปลูกพืชเชิงเดี่ยวและการรุกป่าเพิ่มขึ้น จอนไม่อยากมองภูเขารอบตัวแล้วเห็นว่า ต้นไม้ ป่าไม้หายไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ทำได้นิดๆหน่อยก็ยังดี และพยายามทำต่อไป”
‘คุณจอน’ เชื่อมั่นว่า การปลูกป่า ถ้ายิ่งทำก็จะยิ่งมีรายได้ ยิ่งสร้างงาน สร้างเงิน ที่ผ่านมาเธอมีการรวมแปลงปลูกต้นไม้ และปลูกพืชสมุนไพรใต้ต้นไม้กว่า 200 ไร่ และให้กำลังให้เครือข่ายพี่น้องในชุมชนร่วมกับปลูกและรักษาป่า ด้วยการรับซื้อผลผลิต หาตลาดและใช้การแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตควบคู่ไปกับการสร้างป่าในชุมชนให้เป็นป่าอาหารที่สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้ชุมชน
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรปลูกรัก จะมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคใหม่
ซึ่งกลยุทธ์ในการประกอบธุรกิจของคุณจอนในปัจจุบันสามารถเรียกว่า ‘แนวคิด ESG’ ที่ประกอบด้วย 3 มิติ คือ มิติด้านสิงแวดล้อม (Environmental)
มิติด้านสังคม (Social) และ
มิติด้านธรรมาภิบาล (Governance)
ซึ่งแนวคิดนี้ไม่ใช่กระแสและเป็นเทรนด์ด้านความยั่งยืนในการทำธุรกิจ หรือ Sustainability ของธุรกิจยุคนี้และยุคต่อไป
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อ Bualuang
Green<<