เดี๋ยวนี้ไปที่ไหนก็จะได้ยินคนพูดถึงว่า
“ความยั่งยืน” หรือ Sustainability โดยเฉพาะองค์กรหรือบริษัทหลายแห่งเริ่มหันมาให้ความสนใจเรื่องนี้กันมากขึ้น
ความจริง Sustainability
ไม่ใช่กระแสหรือแฟชั่นที่มาแล้วก็ผ่านเลยไป เพราะเมื่อหลายปีก่อนสมาชิกองค์การสหประชาชาติกว่า
193 ชาติได้ประกาศเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน Sustainable Development Goals หรือ SDGs 17 ข้อ เพื่อเป็นข้อกำหนดวิสัยทัศน์ในการยกระดับศักยภาพความยั่งยืนทั่วโลก
และตอบสนองผลประโยชน์ทั้งภาคธุรกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน จึงเป็นที่มาของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกต้องปรับนโยบายนำ SDGs 17 ข้อไปกำหนดนโยบายขององค์กร
สำหรับประเทศไทยนั้นนอกจากองค์กรใหญ่ๆ จะเริ่มหันมาทำกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนกันแล้ว หรือกิจกรรมด้าน CSR (Corporate Social Responsibility) ซึ่งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ก็มีพันธะกิจที่จะต้องบรรจุเรื่องความยั่งยืนให้เป็นหนึ่งในนโยบายขององค์กรด้วยเช่นกัน แต่การที่จะปรับองค์กรเข้าสู่โหมดความยั่งยืนนั้นเป็นเรื่องของกระบวนการที่ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน ใช้งบประมาณ และใช้เวลาอย่างต่อเนื่องพอสมควร แต่วันนี้พนักงานทุกคนในองค์กรสามารถร่วมใจกันเดินก้าวเล็กๆ 5 ก้าว เพื่อเป็นกุญแจสำคัญเตรียมความพร้อมสู่บริษัทยั่งยืนได้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. จัดการขยะในองค์กร ปัญหาเรื่องขยะกำลังเป็นวิกฤติของชาติ
ดังนั้นก้าวแรกที่ง่ายๆ แต่สำคัญเร่งด่วน คือการจัดการขยะในองค์กร เริ่มจากการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง
ในองค์กรควรมีถังขยะแยกตามประเภทของขยะ อาทิ ขยะทั่วไป ขยะรีไซเคิล ขยะอันตราย
และพนักงานควรสมัครใจให้ความร่วมมือในการทิ้งขยะให้ถูกที่เพื่อปลายทางจะสะดวกในการได้กำจัดอย่างถูกวิธี
นอกจากนี้ควรตั้งเป้าลดปริมาณขยะให้น้อยลงทุกๆ เดือน
2.
ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว จากปัญหาการจัดการขยะสู่การลดใช้พลาสติกที่มักจะได้รับการกล่าวถึงเป็นอันดับต้น
เนื่องจากพลาสติกมีคุณสมบัติไม่ย่อยสลายทางชีวภาพได้ ดังนั้นควรเริ่มที่ตัวเราที่ต้องพยายามลดใช้ถุงพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง
แต่ควรมีการนำมาใช้ซ้ำ ส่งเสริมการใช้ถุงผ้าแทน เตรียมกระบอกน้ำหรือแก้วกาแฟไว้ใช้ในออฟฟิศ
เพื่อจะได้ไม่ต้องซื้อน้ำบรรจุขวดพลาสติกหรือแก้วพลาสติกใส่กาแฟตามร้าน ลดใช้หลอดพลาสติก
เตรียมภาชะมาใส่อาหารกลางวันแทนการใช้กล่องโฟม ฯลฯ.
3.
ประหยัดไฟ
บริษัทถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใช้พลังงานมากที่สุด
วิธีการประหยัดไฟในที่ทำงานนั้นเป็นเรื่องไม่ยุ่งยากเลยถ้าทุกคนให้ความร่วมมือ
อาทิ ปิดคอมพิวเตอร์หรือปิดพักหน้าจอทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งาน ปิดไฟทุกครั้งที่ทำงานเสร็จหรือพักเที่ยง
ลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในโหมดประหยัดไฟ เปลี่ยนมาใช้หลอดประหยัดไฟ ฯลฯ
นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทแล้ว
ยังช่วยลดภาวะโลกร้อนที่กำลังคุกคามโลกอยู่
4.
เลือกใช้สินค้า Eco
Product
หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม
โดยในระหว่างการผลิตจะมีการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างประหยัด
รวมถึงลดของเสียและมลพิษในช่วงระหว่างการใช้งาน โดยสังเกตจากสัญลักษณ์ฉลากเขียว,
สัญลักษณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5, สัญลักษณ์ มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพ
และฉลากที่ระบุคาร์บอนฟุตพริ้นท์ อาทิ เลือกกระดาษทำจากเยื่อที่ได้จากป่าปลูก
หลอดประหยัดไฟ
5.
จิตอาสาช่วยชุมชน ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจจะต้องสนใจเรื่องสังคมและชุมชนควบคู่ไปด้วย
พนักงานบริษัทก็มีส่วนช่วยสังคมได้ และก็มีหลายบริษัทที่มีการตั้งชมรมของพนักงานขึ้น
เพื่อเป็นจิตอาสาออกไปช่วยชุมชนที่ด้อยโอกาสตามความสามารถ เช่น
ไปสร้างฝายให้กับพื้นที่ที่แห้งแล้ง ไปช่วยสอนอาชีพ ไปปลูกป่า ไปเก็บขยะ ฯลฯ นอกจากเป็นการช่วยเหลือสังคมแล้ว
ยังเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีและกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนเสียสละ
แม้เป็นเพียงการเริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ แต่ถ้าทุกองค์กรลุกขึ้นมาช่วยกัน จะกลายเป็นพลังที่ส่งผลดีต่อโลก สังคม และสิ่งแวดล้อม