เบื่อโตเกียว เกียวโต โอซาก้า หรือยัง???? ถ้าเบื่อแล้ว ครั้งหน้าถ้าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นลองไปเมือง “ซาวาระ”กันดีกว่า หนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่มาเดินเล่นชมเมืองเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ชวนหลงใหล ในกลิ่นอายของบ้านเมืองย้อนยุคสมัยเอโดะ
เมืองซาวาระ(Sawara) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองนาริตะ ในอดีตเมืองนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากเพราะเคยเป็นศูนย์กลางคมนาคมทางน้ำ
และเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งข้าวเข้าสู่เมืองเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) ซาวาระมีชื่อเดิมว่า “Little Edo “ ซึ่งมีความเจริญเทียบเท่ากับกรุงเอโดะ
ปัจจุบันเมืองซาวะระยังมีวิถีความเป็นอย่างแบบดั้งเดิมและอนุรักษ์บ้านเรือนโบราณไว้เกือบทั้งเมือง
มีตึกสมัยใหม่แทรกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ถ้ามาเที่ยวโตเกียวขอแนะนำว่าลองหาวันว่างสัก 1
วันเพื่อไปเที่ยวซาวาระกัน เมืองนี้ไปง่ายมากเพราะอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง
70 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถไฟไปลงที่สถานี JR Sawara แสนสะดวกสบาย
เมืองเล็ก ๆ อย่างซาวาระ
เที่ยวอย่างไรก็ไม่หลงทางแต่อาจจะหลงเสน่ห์เมืองนี้ก็ได้ แต่ถ้าอยากเที่ยวอย่างมีเป้าหมายสามารถแวะไปที่
information center ซึ่งอยู่ในสถานีรถไฟ เพื่อขอแผนที่ท่องเที่ยวเมืองนี้ได้เลย
ส่วนใครที่คิดว่ามาเดินเล่นชิว ๆ เพื่อมาสัมผัสเมืองเก่าของคนญี่ปุ่น คล้าย ๆ
เราไปเดินเล่นแถวอยุธยาเฉกเช่นเดียวกัน เดินได้เพลิน ๆ เพราะที่นี่มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก
จากสถานีรถไฟ เดินลัดเลาะนิดเดียวก็จะเจอตัวเมืองที่มีแม่น้ำโอโนะกาวะสายเล็ก ๆ คดเคี้ยวผ่านกลางเมือง แม่น้ำดูใสสะอาดที่คลาสสิค คือตลิ่งสองฟากของแม่น้ำก่อด้วยกำแพงอิฐศิลาเพื่อกันดินถล่ม และด้วยความเก่าของมันตลิ่งบางแห่งจึงมีวัชพืชเกาะอยู่ บางแห่งมีต้นหลิวที่กิ่งยาวทอดไปตามแม่น้ำ กลายเป็นภาพสีเขียวของต้นไม้ตัดกับตลิ่งสีดำตามอายุของมัน เหมือนภาพวาดโบราณที่ดูแล้วสบายอกสบายใจ
ถนนทาโคริเป็นทั้งทางเดินและทางรถจะแล่นคู่ไปกับสองฟากของแม่น้ำ โดยมีบ้านเรือนไม้เก่า ๆ สีทึม ๆ ปลูกเรียงรายไปตามถนน ท่ามกลางความเจริญที่คืบคลานเข้าไปสู่เมืองต่าง
ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง
แต่ชาวเมืองซาวาระยังสามารถเก็บอัตลักษณ์ของความเป็นเมืองโบราณไว้ได้อย่างดีเยี่ยมจนได้รับการยกย่องเป็นเมืองโบราณ นอกจากนี้ Green Michelin
Guide Japan คู่มือท่องเที่ยวชื่อดังได้ยกย่องให้เมืองซาวาระเป็นเมืองที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มานั่งเรือท่องเที่ยวชมเมืองไปตามสายน้ำโอโนะกาวา
เมืองที่มีแม่น้ำผ่ากลางเมืองเช่นนี้จะมีสะพานไม้เก่า
ๆ
หลายแห่งเพื่อเชื่อมทางสัญจรของชาวบ้านสองฟากฝั่งให้เดินทางไปมาหาสู่กันได้สะดวก แต่ถ้ามาเที่ยวแล้วต้องเดินหา JaJa Bridge ให้เจอ ถือเป็นหนึ่งไฮไลต์ของเมืองที่ต้องมาเดิน เพราะเป็นสะพานที่จะมีน้ำไหลออกมาจากด้านข้างทั้งสองด้าน
คล้าย ๆ ม่านน้ำตก ดูแล้วแปลกดี
มาซาวาระนอกจากเดินดูบ้านเรือนแล้ว ยังมีสถานทีท่องเที่ยวให้แวะชมอีก เช่น พิพิธภัณฑ์อิโนะทาดาทากะ(Ino Tadataka Museum) อิโนะทาดาทากะ เกิดในข่วงยุคเอโดะ เขาเป็นนักสำรวจผู้ที่บุกเบิกประเทศญี่ปุ่นและสร้างแผนที่ด้วยวัดการเดินด้วยเท้า ภายในพิพิธภัณฑ์จึงจัดแสดงเครื่องมือต่าง ๆ ที่เขาใช้สำรวจประเทศญี่ปุ่น บ้านเก่าของอิโนะทาดาทากะ ที่ยังคงอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิม ๆ
เดินเล่นเพลิน ๆ ถ้าเหนื่อยก็สามารถแวะพักเท้าด้วยการจิบกาแฟ
หรือทานอาหารตามร้านที่ดัดแปลงจากบ้านอาศัยมาทำเป็นร้านเล็ก ๆน่ารักน่านั่งไปตามเส้นทางเดิน หรือมีบ้านหลายแห่งที่เปิดบ้านขายของพื้นเมืองทั้งถ้วยชาดินเผาใบเล็ก ๆ เสื้อผ้า
กระเป๋าหรือของใช้ที่ทำจากผ้า เครื่องสาน ฯลฯ
เดินเพลิน ๆ ในเมืองซาวาระ
ก็เกือบจะหมด 1 วันแล้ว แม้จะไม่ได้สาระอะไรมากมาย แต่สิ่งที่ได้กลับไปคือความสุขสงบทางจิตใจกับเมืองโบราณอายุกว่า
200 ปีแห่งนี้
ร้อนนี้ที่ญี่ปุ่น ไปชมทุ่งลาเวนเดอร์ กันดีกว่า