ในห้วงเวลาที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเติบโต หนุ่มสมองใสสามคนคิดทำแพลตฟอร์มท่องเที่ยวชื่อ “TakeMe Tour” ทั้ง 3 คนคือ อมรเชษฐ์ จินดาอภิรักษ์ นพพล อนุกูลวิทยา และปัญจมพงศ์ เสริมสวัสดิ์ศรี แพลตฟอร์มนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดท่องเที่ยวนั่นคือ “การท่องเที่ยวกับคนท้องถิ่น หรือ Local Expert”
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
TakeMe Tour เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อระหว่างนักท่องเที่ยวต่างชาติกับผู้นำเที่ยวในพื้นที่
ผ่านแนวคิดการพาไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบเข้าถึงท้องถิ่น หรือ “local experience” เป็นธุรกิจกึ่งออนไลน์แบบ
C2C
แพ็กเกจที่มีการเสนอขายใน TakeMe Tour หลัก ๆ จะเป็น “วันเดย์ทริป” นำเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ ชูคอนเซ็ปต์ “เพื่อนนำเที่ยว” ซึ่งจะได้อะไรมากกว่าการไปแค่ชิม ช็อป แชะ เพราะการมีเพื่อนคอยเล่าให้ฟังนั้นช่วยให้ซึมซับแหล่งท่องเที่ยวนั้นอย่างลึกซึ้งและได้เรียนรู้เชื่อมโยงคนในท้องถิ่น
จุดเริ่มต้น “เพื่อนพาเที่ยว”
ย้อนไปยังจุดเริ่มต้น Take Me Tour เริ่มจากพัฒนาธุรกิจบนหน้า
“เฟซบุ๊ค” ให้นักท่องเที่ยวไทย และคนนำเที่ยวในต่างประเทศในแต่ละพื้นที่ให้มาเจอกันแต่เมื่อทำได้สักระยะพบว่ามีข้อจำกัดมาก
ทั้ง 3 คน จึงพลิกมุมทำธุรกิจใหม่ทำแบบ “กลับหัวกลับหาง” หันมาจับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในเมืองไทย
มีคนไทยที่เป็นผู้นำเที่ยวแทน
อย่างไรก็ตามการนำเที่ยวแบบเพื่อนเที่ยว
ไม่ใช่แค่ทัวร์ตลาดน้ำดำเนินสะดวกที่เราเห็นกันจนชินตา แต่เน้นการนำทัวร์สัมผัสชีวิตความเป็นไทย
หรือ “วิธีคิด” แบบคนไทยๆ เช่น ศาลพระภูมิ นักท่องเที่ยวมักสงสัยว่าเป็นบ้านใคร
หรือเรื่องอาหารตามสั่ง ซึ่งเป็นวิธีคิดแบบคนไทย
คนนำเที่ยวสามารถหยิบความหลากหลายภายใต้ร่ม “ความเป็นไทย”
นำเรื่องเหล่านี้ไปเล่าให้นักท่องเที่ยวฟังได้
เป็นเรื่องที่เขาชอบและสนใจเช่น เดินตลาดสด ทำผัดไทยที่บ้านอาม่า
ปิคนิคที่สะพานพระรามแปด นั่งรถไฟไปสระบุรี
เรียกว่าเป็นการท่องเที่ยวที่เข้าถึงวิถีชีวิตชุมชน เป็นประสบการณ์ตรงแบบ Local Experience ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับ
Take me Tour จึงไม่ใช่บริษัททัวร์ ไม่มีไกด์ และโปรแกรมท่องเที่ยว
จึงต้องชักชวนผู้ที่สนใจด้วยการนำเสนอขายทัวร์แบบวันเดียวโดย “คนพาเที่ยว”
จะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญคือ ต้องเป็นคนท้องถิ่น สื่อสารภาษาอังกฤษได้
หรือสื่อสารภาษาต่างประเทศอื่นๆ ได้ก็ยิ่งดี
อีกด้านหนึ่งก็ต้องทำมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ทั้งกูเกิ้ล, เฟซบุ๊ก เพื่อหานักท่องเที่ยวต่างชาติมาซื้อทริป
แม้ TakeMe Tour จะเป็นธุรกิจคอนเซ็ปต์ใหม่
ในลักษณะ ”แชร์ริ่ง เซอร์วิส” ใครมีเวลาว่าง ก็มาพาเพื่อนเที่ยวได้
แต่ก็ไม่ได้ละเลยเรื่องของความปลอดภัยและคุณภาพ ส่วนของไกด์ท้องถิ่น
ก่อนนำทริปขึ้นไปขายในระบบ จะต้องตรวจเช็คอีเมล เบอร์โทรศัพท์ บัตรประชาชน
พาสสปอร์ต เช็คบัญชีธนาคาร ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลทุกอย่างต้องถูกต้องตรงกัน
หากเกิดปัญหาจะต้องตามตัวเจอ
เช่นเดียวกับทางฝั่งนักท่องเที่ยว ที่จะต้องจ่ายเงินจองทริปเข้ามาก่อน บริษัทก็จะมีข้อมูลบัตรเครดิตเก็บไว้ กระทั่งจบทริปถึงจะโอนรายได้ให้คนนำเที่ยวภายใน 3-7 วัน TakeMe Tour จะมีรายได้จากค่าคอมมิชชั่น 20% ต่อทริป กรณีทริปจบแบบไม่แฮปปี้ ไม่ว่าจะเกิดกับฝั่งใด ก็จะคืนเงินให้ ส่วนราคาพาเที่ยว Local Expert จะเป็นคนกำหนด ทางบริษัทจะไม่เข้าไปควบคุมราคา แต่กลไกตลาดเสรีจะทำหน้าที่คัดกรอง เพื่อให้ทุกฝ่าย วิน-วิน
กระแสแรง 700 แพ็กเกจพาเที่ยวต่อเดือน
ปัจจุบันแพลตฟอร์มของ TakeMe Tour มีคนนำเที่ยวประมาณ
10,000 คน พาเที่ยวได้ 45 จังหวัดทั่วไทย ซึ่งอาจมีสถานที่ซ้ำบ้าง ทางบริษัทจะให้ Local Expert แต่ละราย
พยายามสร้างจุดต่างของทัวร์ เพื่อแข่งขันกันที่ “คุณค่า” มากกว่า “ราคา” จะว่าไปแล้วธุรกิจนี้เป็นส่วนผสมระหว่างสถานที่เที่ยว
คนพาเที่ยว และประสบการณ์ที่บริษัทสร้างขึ้นมาเพื่อนำเสนอให้กับนักท่องเที่ยว
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เคยใช้บริการ TakeMe Tour พบว่า
เป็นกลุ่มที่มีกำลังจับจ่ายสูง พักโรงแรม 3-5 ดาว ใช้จ่ายเฉพาะค่าที่พักไม่ต่ำกว่า
2,000 บาทต่อวันนับตั้งแต่เปิดให้บริการพบว่าในปีล่าสุดมีการเติบโตทุกเดือน
เดือนละ 50% เฉลี่ยเดือนละ 700 แพ็กเกจ ทั้งวันเดย์ทัวร์ และไพรเวตทัวร์
จากจำนวนคนที่เข้ามาเสนอบริการนำเที่ยวกว่า 2 หมื่นคน
ส่วนใหญ่เสนอขายทัวร์พาไปชิมอาหารที่ถนนเยาวราช, พาไปชิมอาหารฝีมืออาม่าที่บ้าน, พาไปทำงานอดิเรกด้วยกัน, พาไปชมทุ่งดอกทานตะวัน เป็นต้น และมีให้เห็นตั้งแต่ราคา 500-7,000 บาทต่อคน แต่ราคานำเที่ยวที่คนซื้อกันมากนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000 บาทต่อคน
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการ
TakeMe Toure กลุ่มใหญ่สุดเป็นนักท่องเที่ยวสหรัฐ รองลงมาเป็นสิงคโปร์ มาเลเซีย
และยุโรป ส่วนกลุ่มคนจีน ยังมีอุปสรรคเรื่องภาษา
ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวในกรุงเทพฯ อยู่ถึงราว 60% ส่วนอีก 40%
เป็นพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดรวม 50 เมืองทั่วไทย
อย่างไรก็ตามหัวใจหลักของธุรกิจนี้คือ
“เทคโนโลยี” ที่จะช่วยเลือก Local Tour ในระบบที่ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวมากที่สุด
มานำเสนออย่างถูกที่ ถูกเวลา แต่สิ่งที่ลงทุนมากที่สุดคือ “บุคลากร” คนยิ่งเก่ง
ระบบยิ่งฉลาด การบริการยิ่งดี ให้ความรู้ได้ดี
มองในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ แพลตฟอร์ม TakeMe Toure นับว่าช่วยส่งเสริมได้ดีอย่างมาก สอดรับพฤติกรรมการชื่นชอบประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ภาพจาก https://www.takemetour.com/