เจาะ Trend Content Marketing บนแพลตฟอร์มออนไลน์

เทคนิคการใช้ Content เพื่อเป็นเครื่องมือในการทำ Digital Marketing เป็นสิ่งที่ทรงพลังและมักใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังสามารถตอบโจทย์ได้ตรงใจ ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และอาจนำไปสู่การขายได้ด้วย แต่จะทำอย่างไรให้ Content นั้นมีพลังตอบโจทย์ดังกล่าวได้ทั้งหมด จึงเป็นเรื่องท้าทายให้นักการตลาดและผู้ประกอบการต้องตีโจทย์ให้แตกต่อไป บนทิศทางของ Trend Content Social Media ที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน และแนวโน้มที่จะเกิดต่อไปในอนาคต บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย อย่าง Twitter, Facebook, Instagram, Youtube และ Search เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้แล้วประสบความสำเร็จบนโซเชียลมีเดียดังกล่าว ดังนี้

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

1. Twitter จะกลายเป็นแหล่งข่าวสำคัญ

ทั้งระดับโลกและประเทศที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งการเงิน กีฬา ภาพยนต์ เกม ฯลฯ จึงเหมาะที่จะใช้เป็นแพลตฟอร์มในการกระจายข่าวสารสำคัญแบบอิงกระแส ซึ่งมีผู้ใช้งาน Twitter ในประเทศไทยในปี 2020 ทั้งหมด 6,545,000 บัญชี มากเป็นอันดับที่ 15 ของโลก บนการใช้งานที่เหมาะสมคือ Twit ข้อความความยาวไม่เกิน 280 คำ แต่การเขียนข้อความที่ความยาวเท่าเดิมคือ 140 คำ จะทำให้คนเห็นข้อความได้มากกว่า ส่วนพื้นที่ที่เหลือให้ใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องไว้แทน นอกจากนี้ Twitter ยังเป็นตัวช่วยทำ SEO ให้แบรนด์ได้ง่ายขึ้น เพราะมีการร่วมงานกันกับ Google จึงมีโอกาสที่บัญชีของเราจะติดอันดับต้นๆ ของการสืบค้นผ่าน Google Search ได้ด้วย และมีในส่วนของฟีเจอร์ Video และ Live เข้ามาทำให้สามารถสร้าง Content ที่หลากหลายบน Twitter ได้มากขึ้น

2. Facebook ออกลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่ๆ มาดึงดูดให้คนเข้าใช้งานใหม่ๆ เสมอ

ล่าสุดมีการปล่อยฟีเจอร์ อวตาร์ ออกมาเป็นสีสันที่สามารถใช้เป็นสติ๊กเกอร์หน้าอวตาร์ของตัวเองได้ด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้งาน นอจากนี้ยังมีการผลักดันฟีเจอร์ช่วยโปรโมทโฆษณาใน Facebook Stories ที่ผู้ประกอบการ SMEs สามารถสร้างโฆษณาได้ด้วยตัวเองจาก Temple สวยๆ ที่ Facebook หมุนเปลี่ยนมาให้ใช้เรื่อยๆ ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือช่วยโปรโมทธุรกิจที่น่าจับตา

และสิ่งที่เป็นจุดแข็งบนแพลตฟอร์ม Facebook ก็คือ การรับส่งข้อความใน Messenger โดยในอเมริกาพบว่าคนอเมริกันใช้ Messenger มากกว่า 1.3 ล้านบัญชีต่อเดือน มี 410 ล้านบัญชีใช้ vdo chat ใน Messenger มีการใช้ Messenger เป็นประจำกว่า 3 แสนบัญชี ในปี 2019 และเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี ทำให้การโฆษณาผ่าน Facebook Messenger มีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคแบบส่วนตัวได้มากขึ้น ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรง

จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะเป็นการส่งข้อความโฆษณาไปถึงผู้บริโภคที่สนใจในสินค้าและบริการของเราแบบเฉพาะบุคคล และเป็นส่วนตัว ทำให้มีโอกาสที่จะปิดการขายได้ง่ายหรือกระตุ้นให้ลูกค้ามีการชำระเงินผ่าน messenger ได้ทันที จากระบบการชำระเงินที่มีอยู่ใน Facebook ในส่วนของ Content Facebook ตามเทรด์ที่กำลังมา จึงเป็นเรื่องของการโฆษณาบน Facebook Story และ Messenger Direct

3. Instagram หรือ IG เป็นอีกแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ

โดยเฉพาะในส่วนของ Video, IG Storie และ IGTV ที่กำลังมาแรง กลยุทธ์ที่ควรใช้ในการทำ Content เพื่อขับเคลื่อนการตลาดบน IG คือ การทำโฆษณาในส่วนของ IG Storie การติดแฮชแท็กที่ให้ผู้คนเข้าถึงเนื้อหาที่จัดทำได้ง่ายขึ้น ตามหมวดหมู่ ความสนใจ โดยใช้แฮชแท็กยอดนิยมและที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

ยกตัวอย่างเช่น การใส่แฮชแท็กแบรนด์ตัวเอง แล้วตามด้วยแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกันกับโพสต์ และแฮชแท็กอิงกระแสหรือยอดนิยม สำหรับ IG TV ที่เป็นลูกเล่นการนำเสนอ Content vdo ในแบบที่จะโชว์ตัวอย่างบนฟีดและสตอรีความยาว 1 นาที แล้วตามด้วยเนื้อหาในส่วนที่เหลือหากลูกค้าสนใจและทำการกดดูต่อ จึงทำให้สามารถนำเสนอเนื้อหาได้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น นอกจจากนี้ยังมีฟีเจอร์ shoppable ของร้านค้าออนไลน์บน Instagram เข้ามาช่วยให้ผู้ซื้อจาก Instagram ไปยังจุดของการขายได้ในทันที โดยร้านค้าออนไลน์บน Instagram จะ Tag รายละเอียดสินค้าไว้ที่รูปภาพผ่านคำสั่งไอคอน TAP TO VIEW PRODUCTS ที่ผู้ใช้งานสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดของสินค้าได้ที่ปุ่มนี้ในคลิกเดียว

4. Youtube เทรนด์การทำคอนเทนต์

ยอดนิยมยังคงเป็น Live Steaming Video ที่ยังคงดึงให้ผู้ชมหยุดสายตาและประสาทสัมผัสทั้งหมดไว้กับการรับชมได้ยาวนานกว่า Video ปกติถึง 8 เท่า และยังคงมีแนวโน้มในการรับชมมากขึ้นในอนาคต ด้วยการที่สามารถทำการโต้ตอบกับผู้ Live ได้โดยตรง ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวก ไปจนถึงสามารถโน้มน้าวดึงดูดคนเข้ามาใช้สินค้าหรือบริการได้อย่างแนบเนียน จากความรู้สึกผูกพันธ์กับแบรนด์ และ Live Steaming ยังให้ความรู้สึกทันเหตุการณ์ สดใหม่ ในการรับชม และ Content VDO ที่ยังคงไปได้ต่อตลอดกาลบน Youtube ก็คือ คอนเท้นท์วิดีโอแนวรีวิว How To รายละเอียดสินค้าและบริการ เพราะจากการสำรวจจาก Thinkeithgoogle พบว่า 80% ของลูกค้าจะทำการค้นหาและรับชมวิดีโอเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่สนใจบน Youtube ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยยังคงมี Influencer เป็นตัวชูโรงสำคัญ

5. Search Engine ยังคงมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ

การผลักดันแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักที่ยังคงต้องให้ความสำคัญต่อการทำ SEO ให้กับสินค้าและแบรนด์ต่อไป เพราะ Search Engine ยังคงเป็นช่องทางสุด Classic ที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีไม่แพ้โซเชียลมีเดีย เพียงแต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอและใช้ระยะเวลายาวนานกว่าจะเห็นผลชัดเจน โดยที่ถ้าทราบว่า มีรายการการค้นหาข้อมูลต่างๆ บน Google สูงถึง 63,000 รายการต่อวินาทีหรือคิดเป็น 228 ล้านครั้งต่อชั่วโมง ซึ่งการ Search Engine ผ่าน google ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้คนใช้ไม่เคยลดความนิยมลงแต่อย่างใด การทำธุรกิจหรือ Digital Marketing จึงไม่ควรมองข้ามเรื่องเว็บไซต์ของแบรนด์ที่เป็นเสมือนหน้าบ้านของตัวเอง

แหล่งอ้างอิง : https://stepstraining.co/ 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 

ทำ Digital Marketing สู่เป้าหมายได้ไม่ยากด้วยหลัก 5S 

5 กลยุทธ์ Social Commerce เพื่อเพิ่มยอดขาย