จากยุครุ่งเรืองด้วยการเติบโตเร็วและการทำกำไรสูงต่อเนื่องมาบัดนี้
ธุรกิจต่างเริ่มคิดถึงความจำเป็นที่จะต้องหาจิตวิญญาณที่แท้จริงให้เจอ
เมื่อก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ องค์กรก็ยิ่งต้องกลับไปทบทวนตนเองทั้งด้านเจตนารมณ์และจุดยืนของตนในโลก
ประเด็นเหล่านี้คือ ข้อเสนอแนะในรายงานฉบับใหม่ของเอคเซนเชอร์ (NYSE: ACN) ที่ชื่อว่า Fjord Trends 2020 (ฟยอร์ดเทรนด์ 2020) ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นปีที่ 13 จากการประเมินความเป็นไปในอนาคตของวงการธุรกิจ เทคโนโลยีและการออกแบบ จัดทำโดย Fjord ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและนวัตกรรมภายใต้กลุ่มธุรกิจ Accenture Interactive (เอคเซนเชอร์ อินเทอร์แอ็กทิฟ)
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ปี 2019
นับได้ว่าเป็นปีแห่งความตื่นตัวเรื่องวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก
ความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
ความเฟื่องฟูและการล่มสลายของธุรกิจอิสระ (gig economy) และเป็นปีแห่งการร่วมแสดงความมุ่งมั่นของซีอีโอชั้นนำของโลก
ในการกำหนดนิยามใหม่ของความมุ่งประสงค์ขององค์กรของตน (Statement of
Purpose of a Corporation)
กรอบแนวคิดที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ซึ่งมีปัจจัยเร่ง
คือเทคโนโลยีดิจิทัลได้ผลักดันให้ผู้นำองค์กรต่างๆ
ต้องหันกลับไปทบทวนหลักการพื้นฐานที่องค์กรของตนยึดถือร่วมกันเสียใหม่
รายงานฉบับนี้ ได้ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยด้านเศรษฐกิจกับการเมือง
แนวคิดแบบทุนนิยมกับทรัพยากรโลก ตลอดจนเทคโนโลยีกับสังคม
ล้วนแล้วแต่เกี่ยวพันใกล้ชิดอย่างแยกไม่ออกและมีผลเกี่ยวเนื่องซึ่งกันและกัน
และในตอนนี้ สังคมปัจจุบันเริ่มตระหนักและให้ความสำคัญกับประเด็นนี้แล้ว
“ปัจจุบันองค์กรล้วนแล้วแต่เล็งเห็นความสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืน”
นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าว “ค่านิยมเช่นนี้
จะเปลี่ยนมุมมองและตัวชี้วัดความสำเร็จ และการเติบโตของธุรกิจในทศวรรษหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ
แต่สิ่งหนึ่งที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนคือ
ผู้ชนะจะเป็นองค์กรที่มีโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน และมีวิสัยทัศน์ยาวไกล
มองเห็นภาพขององค์กร จุดยืนและบทบาทของตนที่มีต่อโลกและสังคมทั้งมวล”
นายนนทวัฒน์กล่าวเสริมว่า
“เราเริ่มเห็นลูกค้าหลายองค์กรปรับทิศทางให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์เช่นนี้ ในทศวรรษหน้าเราจะเห็นทั้งความท้าทายและโอกาสสำหรับธุรกิจ
ในการปรับเปลี่ยนสินค้าหรือบริการให้มีความหมายใส่ใจต่อผู้บริโภคและสังคม
และยั่งยืนยิ่งขึ้น การเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคจาก “เพื่อตัวฉัน” เป็น “เพื่อพวกเราทุกคน”
ส่งผลให้การออกแบบต้องเปลี่ยนจากที่เคยเน้นตัวผู้ใช้งาน (user-centered) มาเน้นความยั่งยืนสำหรับทุกชีวิต (life-centered) มากขึ้น”
แนวโน้มใหม่
7
ด้านที่กำหนดทิศทางธุรกิจในทศวรรษหน้า
1.
เติบโตหลากรูปแบบ (Many faces of growth) : แนวคิดแบบทุนนิยมกำลังเผชิญกับวิกฤตที่เป็นจุดเปลี่ยน
ผลกำไรของธุรกิจไม่ได้นับเป็นตัวชี้วัดการเติบโตเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
องค์กรจะต้องทบทวนเจตนารมณ์ บทบาท และจุดยืนของตนที่ยั่งยืนและคำนึงถึงสังคมโลก
2.
มองเงินเปลี่ยนไป (Money changers) : มุมมองที่เราเคยมีต่อเงินตราและวิธีการจ่ายเงินเพื่อแลกซื้อสิ่งต่างๆ
เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การทวีบทบาทของเงินดิจิทัล เช่น
การอนุมัติจ่ายด้วยลายนิ้วมือหรือเลนส์ม่านตา
ก่อให้เกิดโอกาสอีกมหาศาลสำหรับผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ
รวมทั้งผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาด
3.
บาร์โค้ดเดินได้ (Walking barcodes) : ปัจจุบันตัวจริงของเราสามารถถูกระบุตัวตนและติดตามได้ง่ายพอๆ
กับ 'ตัวตนในโลกดิจิทัล’ ราวกับบาร์โค้ดเดินได้
ด้วยเทคโนโลยีการรู้จำใบหน้าและร่างกาย
ซึ่งนำมาสู่ภาวะที่ต้องเลือกระหว่างความเป็นส่วนตัวและความสะดวกที่ได้รับ
4.
ผู้คนเปลี่ยนไป (Liquid people)
: พฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงไปโดยจะคำนึงถึงสังคมกับบทบาทของตน
และค้นหาความหมายในทุกสิ่งที่ตนทำมากขึ้น
สิ่งนี้นำมาซึ่งโอกาสอีกมากในการมอบประสบการณ์แบบใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้คนเหล่านี้ได้
5.
ปัญญาออกแบบได้ (Designing intelligence) : ประสบการณ์ของมนุษย์มีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
ก้าวต่อไปของการพัฒนาเอไอ (Artificial Intelligence)
คือ การออกแบบให้ก้าวไกลไปกว่าการใช้เป็นเพียงระบบอัตโนมัติ
ไปเป็นระบบที่ผสานทั้งภูมิปัญญาของมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์ ทำให้สองส่วนนี้ทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น
6.
แฝดเสมือนในโลกดิจิทัล (Digital doubles) : แฝดเสมือนในโลกดิจิทัลกำลังจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น
เช่น ดาต้าโมเดลที่รวมเอาข้อมูลส่วนตัวของเราทั้งหมดในโลกดิจิทัล
ช่วยให้เราเข้าถึงความบันเทิงและมอบประสบการณ์เฉพาะตนต่างๆ ได้อย่างตรงใจ
ในขณะเดียวกันก็จะทำให้เราสามารถควบคุมได้ดียิ่งขึ้น ว่าจะให้ใครเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้บ้างและมากน้อยเพียงใด
7. ออกแบบอย่างยั่งยืนเพื่อ 'เราทุกคน’ (Life-centered design) : แนวคิดของผู้คนกำลังเปลี่ยนไป จากการใช้ชีวิตที่มุ่งตอบสนองเพียงความต้องการของ “ตัวฉัน” ไปเป็นการคำนึงถึงสังคมส่วนใหญ่ หรือ “พวกเราทุกคน” คำถามคือ การออกแบบในอนาคต จะเปลี่ยนแนวทางจากการเน้นที่ตัวผู้ใช้หรือตัวบุคคลเป็นศูนย์กลาง (User-centered design) ไปเป็นการออกแบบโดยคำนึงถึงชีวิตของคนในสังคมเป็นศูนย์กลาง (Life-centered design) ได้หรือไม่
ทั้งหมดนี้เป็นเทรนด์ของโลกที่อาจเปลี่ยนรูปการดำเนินธุรกิจตลอดจนทิศทางของธุรกิจอนาคต ซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรทำความเข้าใจ ตลอดจนวางแผนธุรกิจรับมือสิ่งที่จะเกิดขขึ้นในอนาคต