สหภาพยุโรปถือเป็นตลาดส่งออกเสื้อผ้ารายใหญ่สุดของกัมพูชา
คิดเป็นสัดส่วน 40% ของปริมาณการค้ากับต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันกัมพูชาถูกพิจารณาเพิกถอนสิทธิประโยชน์ที่เข้าถึงตลาดการค้าของสหภาพยุโรป
โดยได้รับการยกเว้นจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทยกเว้นอาวุธ (everything but arms : EBA) แล้ว
ซึ่งส่งผลทำให้สินค้าจากกัมพูชาจะต้องจ่ายภาษีนำเข้าให้กับสหภาพยุโรป โดยประเมินว่าเสื้อผ้าและรองเท้าอาจจะถูกเก็บภาษีตั้งแต่
10-25%
ล่าสุดสหราชอาณาจักรอนุมัติสิทธิพิเศษทางการค้า Generalized System of Preferences (GSP) ให้กับ กัมพูชา ส่งผลให้กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้าต่างๆ ยกเว้นอาวุธ ไปยังสหราชอาณาจักรได้ โดยจะได้รับการยกเว้น ภาษี และยกเว้นการกำหนดโควตา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
นาย Kaing Monika รองเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มในกัมพูชา
(GMAC) และ Oknha Lim Heng รองประธานหอการค้ากัมพูชา
กล่าวว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีของกัมพูชาในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอ
รองเท้า จักรยาน และข้าว ให้กลับมาฟื้นตัวมากขึ้น หลักจากที่สินค้าในกลุ่มดังกล่าวถูกยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้
everything but arms : EBA จากสหภาพยุโรปไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
และสิทธิพิเศษทางการค้าที่ได้รับจากสหราชอาณาจักรในครั้งนี้
จะสามารถช่วยรักษานักลงทุนรายเดิมให้ยังคงตั้งฐานการผลิตในกัมพูชาต่อไป
รวมถึงดึงดูดให้นักลงทุนรายใหม่ๆ ขยายฐานการผลิตเข้ามาในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ทางรัฐบาลกัมพูชาอยู่ระหว่างการหารือกับสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับรายละเอียดและกระบวนการต่างๆ
ในการนำเข้าและส่งออก ภายใต้สิทธิพิเศษฯ ดังกล่าว สหราชอาณาจักรเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญที่นำเข้าสินค้าจากกัมพูชามากเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรปรองจากเยอรมนี
โดยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหราชอาณาจักรในปี 2562 ที่ผ่านมา มีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 มีมูลค่าประมาณ
200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ
คิดเป็นมูลค่า 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดี
การที่กัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีจากสหราชอาณาจักร
จะช่วยส่งผลทางบวกในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ในอนาคต และเป็นที่ทราบกันดีว่า
ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยได้ไปลงทุนธุรกิจเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอในกัมพูชาอยู่มาก
ทำให้เรื่องนี้เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยด้วยเช่นกัน
แหล่งอ้างอิง : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ ธันวาคม 2563