อาบน้ำแร่แช่ ‘ออนเซ็น’ เมืองไทยไม่ไปไม่รู้

ทุกๆ ปี มีคนไทยสายสุขภาพจำนวนมากที่เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อไปนอนแช่ออนเซ็น ไม่ว่าจะเป็นออนเซ็นที่ขึ้นชื่อว่าตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม อาทิ ฮอกไกโด คานากาว่า โออิตะ หรือเบปปุ ฯลฯ แต่ตอนนี้ไวรัส covid-19 กำลังระบาดอยู่ ลองหันมาสัมผัสบรรยากาศออนเซ็นในเมืองไทยดูบ้างดีกว่า ทั้งสวยทั้งถูก

การแช่ออนเซ็นหรือน้ำพุร้อน เป็นช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยในการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดความเหนื่อยล้าให้หายเป็นปลิดทิ้ง รวมถึงน้ำพุร้อนตามธรรมชาติมีแร่ธาตุมากมายที่ช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง รักษาโรคเกี่ยวกับผิวหนังได้ชะงัด

ความจริงน้ำพุร้อนออนเซ็นในเมืองไทยมีตั้งแต่เหนือจรดใต้ที่คนไทยยังไม่รู้จักอีกมาก แต่ขอแนะนำออนเซ็น UNSEEN ระดับ VIP ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาอันงดงามและมีความเป็นส่วนตัวให้คุณได้นอนดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ไม่รู้เบื่อ

น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง เป็นอุทยานที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่ท่ามกลางป่าไม้อากาศจึงเย็นสบาย ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยา มีกลิ่นกำมะถันอ่อนๆ อุณหภูมิของน้ำร้อน 70 – 80 องศาเซลเซียส สามารถต้มไข่สุกได้ภายใน 15 นาที นอกจากนี้ยังมีน้ำตกแจ้ซ้อนน้ำใสไหลเย็นให้เล่นอีกด้วย

มาที่นี่ขอแนะนำให้มานอนค้างแรมดีที่สุด เพราะจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสวยๆ ของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าท่ามกลางไอร้อนกรุ่นจากบ่อน้ำร้อนเป็นความสวยงามสุดบรรยาย  โดยมีทั้งแบบบ้านพักเป็นหลังๆ  หรือจะเลือกกางเต้นท์นอนดูดาวก็เพลิดเพลินไปอีกแบบ  ส่วนบ่อน้ำแร่แช่ตัวมีทั้งแบบห้องส่วนตัว หรือบ่อรวมในราคาประหยัด

น้ำพุร้อนฝาง

เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ เกิดจากความร้อนใต้ดิน มีไอร้อนคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา อุณหภูมิของน้ำประมาณ 40-88 องศาเซลเซียส ตั้งอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่  มีจำนวนหลายบ่อในพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้เขียวอุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

มาเทียวที่นี่สะดวกสบายมาก เพราะอุทยานแห่งชาติมีบริการห้องอาบน้ำแร่และอบไอน้ำ ทั้งบ่อสาธารณะแช่เท้าและแช่ตัวแบบบ่อรวมไม่เสียเงิน  แต่ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็มีห้องแช่แบบส่วนตัวหลายห้อง ในสนนราคาห้องละ 120 บาทเท่านั้น และยังมีบ้านพัก ร้านอาหารที่แม่ครัวทำอาหารได้อร่อยมาก

น้ำพุร้อนเทพพนม

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ จุดเด่นคือเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดตามธรรมชาติ ภายในบ่อน้ำร้อนจะมีแรงดันพุ่งขึ้นมากระทบน้ำเย็นใต้ดิน เกิดเป็นไอร้อนคุกรุ่นอยู่ตลอด  มีอุณหภูมิสูงถึง 99 องศาเซลเซียส และมีลำห้วยเล็กๆ รอบๆ บริเวณบ่อ จึงกลายเป็นธารน้ำร้อนและน้ำเย็นในบริเวณเดียวกัน พื้นที่ของบ่อน้ำพุร้อนกินบริเวณไม่กว้างนัก มีเขาล้อมรอบเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความเป็นส่วนตัวเพราะผู้คนไม่พลุกพล่าน ที่นี่มีทั้งบ่อกลางแจ้งที่นอนอิงแอบไปกับธรรมชาติ หรือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็มีห้อง VIP ให้นอนแช่คนเดียวสบายๆ

บ่อน้ำพุร้อนเค็ม บ้านห้วยขาว

ตั้งอยู่ใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เป็นบ่อน้ำพุประเภทน้ำพุร้อนเกลือ (Salt Spring) ถือเป็น unseen แหล่งน้ำพุร้อนเค็ม 1 ใน 2 แห่งของโลก โดยอีกแห่งอยู่ที่สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งมีลักษณะเป็นบ่อน้ำผุดมาจากชั้นใต้ดินตามธรรมชาติ สาเหตุที่มีรสชาติเค็มนั้นเกิดจากการผสมกันของน้ำร้อนและน้ำทะเลในระดับลึก ก่อนโผล่พ้นพื้นดินเกิดเป็นน้ำพุร้อน บริเวณรอบๆ เป็นพื้นที่ป่าชายเลนตามธรรมชาติ

บ่อน้ำพุร้อนเค็มนั้นอยู่ที่อุณหภูมิของน้ำในบ่อไม่ร้อนมากจนเกินไป มีอุณหภูมิสูงประมาณ 40-47 องศาเซลเซียส แช่ตัวแบบกำลังสบายๆ  ลักษณะน้ำใสสะอาดสะท้อนกับท้องฟ้าเป็นสีมรกตสวยงาม

น้ำพุร้อนโป่งเดือดป่าแป๋

เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นน้ำพุร้อนประเภทไกเซอร์ (Geyser type) คือน้ำพุร้อนที่ปล่อยกระแสน้ำร่วมกับไอน้ำออกมาเป็นระยะๆ ไม่สม่ำเสมอ การเกิดของน้ำพุร้อนประเภทนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะทางอุธกธรณีวิทยา  ซึ่งพบเพียงไม่กี่แห่งในโลก จึงจัดว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาดูได้ยาก

ธรรมชาติรอบๆ อุทยานยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ที่ปกคลุมหนาทึบ ที่นี่นอกจากมีบ่อน้ำร้อนให้แช่ตัวทั้งบ่อรวมและบ่อสาธารณะแล้ว ยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติให้เดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติอีกด้วย

เบตง ต้นแบบพัฒนาท่องเที่ยวปลายด้ามขวาน

สายบุญห้ามพลาด 10 วัดสวยอลังการที่สุดในเมืองไทย