ในระหว่างที่พวกเราส่วนใหญ่ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” อยู่นี้ ทำให้มีเวลาหันมาใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น ผ่านพฤติกรรมในชีวิตประจำวันภายในบ้าน มาดูกันว่าเราสามารถเริ่มต้นดูแลสิ่งแวดล้อมได้ง่ายๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้ได้อย่างไรบ้าง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. ลดขยะจากภาชนะและบรรจุภัณฑ์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากิจกรรมยอดฮิตช่วงกักตัวอยู่บ้านในวิกฤตการณ์โควิด-19
คงหนีไม่พ้นฟู้ดเดลิเวอรี่ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมา คือขยะจากภาชนะและพัสดุ ในหนึ่งออร์เดอร์ของการสั่งอาหารเดลิเวอรี่อาจประกอบไปด้วยภาชนะมากมาย
ทั้งกล่องพลาสติกใส่อาหาร ถุงพลาสติก ซองแยกน้ำจิ้ม และช้อน-ส้อมพลาสติก
แต่เราสามารถลดการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ได้ด้วยการทำกับข้าวรับประทานเองที่บ้าน
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดจำนวนขยะจากกล่องใส่อาหารเดลิเวอรี่
แถมยังเป็นกิจกรรมในการสร้างช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันภายในครอบครัว ให้ผ่อนคลายในช่วงกักตัวอยู่บ้านอีกด้วย
หรือหากเพื่อนๆ มีความจำเป็นต้องสั่งอาหารก็สามารถสั่งครั้งเดียว แต่สามารถรับประทานได้หลายมื้อ
หรือปฏิเสธการรับช้อน-ส้อมพลาสติกจากร้านค้าได้
2. แยกประเภทของขยะ
การคัดแยกขยะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ขยะไม่ปนกัน
และง่ายต่อการนำไปจัดการอย่างถูกต้องและรีไซเคิล
นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระให้กับพนักงานเก็บขยะ ที่นอกจากจะไม่ได้หยุดกักตัวอยู่บ้านเฉกเช่นคนทั่วไป
ซึ่งการปฏิบัติงานอาจทำให้เจ้าหน้าที่เก็บขยะมีความเสี่ยงสูง ในการติดเชื้อจากการจัดการขยะในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย เพื่อนๆ สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ
ด้วยการแยกขยะออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1) ขยะเปียก
เช่น เศษอาหาร
2) ขยะย่อยสลายไม่ได้
เช่น กล่องโฟม และถุงพลาสติกปนเปื้อนอาหาร
3) ขยะรีไซเคิล
เช่น กระดาษ ขวดแก้ว และขวดพลาสติก
4) ขยะมีพิษ
เช่น หน้ากากอนามัยที่ผ่านการใช้แล้ว และถ่านไฟฉาย เป็นต้น
3. Work from Home ลดมลพิษทางอากาศ
ในช่วงการระบาดของโควิด-19 หลายบริษัทให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work
from Home) ซึ่งทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่กำหนดเอง อีกทั้งยังส่งผลให้มลพิษทางอากาศที่สำคัญบางตัว
อาทิ ไนโตรเจนไดออกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้คุณภาพของอากาศดีขึ้นชัดเจน
4. ลดการใช้พลังงาน
การปิดและถอดสวิทช์เราเตอร์
และเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน ตลอดจนการไม่เปิดตู้เย็นบ่อยเกินไป
รวมถึงการตั้งอุณหูมิแอร์ให้อยู่ที่ 25-27 องศา
ก็สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านลงได้ อีกวิธีหนึ่ง คือการใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย
ระบายเหงื่อ
และไม่ยับง่ายหลังซักก็จะช่วยให้เราอยู่บ้านได้อย่างสบายและไม่ต้องรีดผ้ามากนัก
แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกทางหนึ่งด้วย
5.
ใช้น้ำอย่างรู้ค่า
ภัยแล้งก็เป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องของเมืองไทยในขณะนี้
เราทุกคนสามารถมีส่วนช่วยลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรน้ำได้ง่ายๆ
เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประจำวันเล็กๆ น้อยๆ เพียงท่องว่า “ฝักบัวดีกว่า
ภาชนะดีกว่า ปิดดีกว่า” ทุกครั้งที่เราใช้น้ำ
‘ฝักบัวดีกว่า’ หมายถึง การอาบน้ำและรดน้ำต้นไม้ด้วยฝักบัวประหยัดน้ำกว่าการอาบน้ำในอ่างหรือตักอาบ
หรือการรดน้ำต้นไม้ด้วยสายยาง
ส่วน ‘ภาชนะดีกว่า’ หมายถึงเราควรรองน้ำใส่ภาชนะเมื่อแปรงฟัน
และล้างจานแทนการเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้
และสุดท้าย ‘ปิดดีกว่า’ คือปิดก๊อกน้ำให้สนิททุกครั้งที่ไม่ใช้งาน
ด้วย 5 วิธีง่ายๆ
เพียงเท่านี้ก็ทำให้การอยู่บ้านทั้งวันของเรา นอกจากจะช่วยชาติให้พ้นภัยโควิด-19 แล้ว ยังเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี การทำงานไม่สะดุด
รวมถึงรักษาสิ่งแวดล้อมอันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งนับเป็นวาระระดับนานาชาติที่องค์กรต่างๆ
ให้ความสำคัญ
สำหรับใครที่มีไอเดียแปลกใหม่สำหรับการทำ New Challenge ‘อยู่บ้านแบบรักษ์โลก’ ก็สามารถส่งไอเดียมาร่วมสนุกในช่องทางเฟซบุ๊กแฟนเพจของเราได้ เพื่อที่เราจะได้ไอเดียๆ ดีของคุณส่งต่อให้คนอื่นๆ ได้รู้ด้วย เชื่อว่าหากทุกคนช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมโดยเริ่มจากตัวเอง โลกจะยิ่งน่าอยู่มากขึ้น