ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับที่เที่ยวแห่งนี้กันสักนิด วังเวียงที่เราจะไปหานี้ ตั้งอยู่ ณ แขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองเวียงจันทน์ไปประมาณ 160 กิโลเมตร การเดินทางไปเดี๋ยวนี้ก็สะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมาก เพราะแต่เดิมเราต้องข้ามฝั่งจากประเทศไทยไปยังเมืองเวียงจันทน์ก่อน แล้วจึงจะต่อรถจากเวียงจันทน์ไปยังวังเวียง แต่ปัจจุบันเราสามารถหาเที่ยวบินจากสายการบินใดก็ได้แล้วแต่สะดวก ไปลงยังจังหวัดอุดรธานี และนั่งรถประจำทางปรับอากาศพิเศษ จากสถานีขนส่งจังหวัดอุดรฯมุ่งหน้าไปยังวังเวียงได้เลยค่ะ
การเดินทางจากสถานีขนส่งจังหวัดอุดรธานีไปยังวังเวียงนั้นใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง อาจจะดูช้าไปสักนิดหากเปรียบเทียบจากระยะทางประมาณ 230 กิโลเมตร เนื่องจากสภาพเส้นทางระหว่างเวียงจันทน์ไปยังวังเวียงนั้นค่อนข้างจะแคบ เป็นถนนสวนทางกันเพียงเลนเดียวเท่านั้น รู้ข้อมูลกันแล้วก็อย่ามัวแต่กังวลกันไป นั่งชมทิวทัศน์ภูเขาสองข้างทางไปเพลิน ๆ เพียงอึดใจใหญ่ ๆ ก็ถึงวังเวียงกันแล้วแหละค่ะ
หากออกจากอุดรธานีในช่วงเช้า เราจะถึงวังเวียงในช่วงบ่าย ๆ เมื่อลงรถแล้วขอแนะนำให้ลองเดินหาที่พักที่ถูกใจตามชอบได้เลย เพราะมีที่พักตั้งเรียงรายอยู่ตลอดริมน้ำซองหรือแม่น้ำซอง ที่เป็นแม่น้ำสายใจกลางเมืองวังเวียง ราคาก็มีให้เลือกกันหลายระดับ ตั้งแต่บังกะโลเรียบง่ายไปจนถึงบูติคโฮเทล เมื่อได้ที่พักตามชอบใจแล้ว ต่อไปเราก็หาพาหนะคู่ใจกันดีกว่าค่ะ ที่นี่มีให้เลือกเช่าทั้งจักรยานและจักรยานยนต์ คราวนี้ก็แล้วแต่ชอบกันเลยค่ะ ว่าอยากชิล ๆ หรือต้องการความรวดเร็ว จากนั้นอย่ารอช้า เรารีบมุ่งหน้าไปคลายร้อนกันที่แรกเลยค่ะ
ที่นี่คือ Blue Lagoon ค่ะ เราจะขี่รถข้ามฝั่งแม่น้ำจากตัวเมืองวังเวียงมาประมาณครึ่งชั่วโมง เราจะถึง Blue Lagoon ซึ่งที่นี่เป็นบ่อน้ำสีฟ้าสดขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่อากาศเย็นสบาย และสามารถลงเล่นน้ำคลายร้อนกันได้อีกด้วย หลังจากเล่นน้ำกันชุ่มฉ่ำแล้ว เราก็จะกลับเข้าเมืองวังเวียง เพื่อพักผ่อนเตรียมตัวไปล่องน้ำซองกันในวันรุ่งขึ้นค่ะ
เช้ารุ่งขึ้น เราจะตื่นกันแต่เช้าเพื่อเดินทางไปยังต้นน้ำซอง และล่องมาตามสายน้ำ ซึ่งที่นี่เขามีให้เราเลือกเล่นทั้งนอนลอยมาตามห่วงยาง หรือพายเรือคายัคล่องมาก็ได้ตามชอบ ใช้เวลาล่องแม่น้ำไปเรื่อย ๆ กันไป ปล่อยอารมณ์ชมธรรมชาติคลายร้อนกันไปได้ตลอดเส้นทาง แนะนำควรเตรียมกระเป๋ากันน้ำไปใส่ของมีค่าพกติดตัวกันไว้ด้วยนะคะ วันนี้เราจะปล่อยเวลาไปเรื่อย ๆ กับสายน้ำจนช่วงบ่ายก็จะล่องกลับมาถึงตัวเมืองวังเวียง และเตรียมตัวพักผ่อนก่อนเดินทางกลับมายังประเทศไทย
ทริปนี้เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งทริปหลบร้อนที่จะทำให้เปลี่ยนบรรยากาศการเดินทางแบบช้า ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติกันให้มากขึ้น ใช้เวลาไม่มาก ยังไงลองหาเวลาว่างสักสองสามวันไปคลายร้อนกันดูนะคะ


