ภูสอยดาว นั้นตั้งอยู่ที่ อ.ชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก โดยสามารถเดินทางไปด้วยรถโดยสารประจำทาง หรือ รถยนต์ส่วนตัว หากใครที่เลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ก็สามารถหาซื้อตั๋วรถกันได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต เราจะซื้อตั๋วรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ไปลงที่ปลายทางจังหวัดพิษณุโลก และต่อรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งจังหวัดพิษณุโลกไปยัง อ.ชาติตระการ เมื่อไปถึงก็สามารถหารถสองแถวเหมารับส่ง ไปลงยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว และเตรียมตัวหาลูกหาบขึ้นภูกันได้เลย ซึ่งการขึ้นภูสอยดาวนี้เราจะเดินเท้าขึ้นไป และต้องนำเครื่องมือประกอบอาหารพร้อมอุปกรณ์การนอนอย่างเต้นท์และถุงนอนขึ้นไปกันเองนะคะ เนื่องจากบนภูสอยดาวนั้น ไม่มีร้านอาหารและที่พักให้บริการแบบภูกระดึง จึงต้องหาเสบียงตระเตรียมกันขึ้นไปด้วย ซึ่งในที่นี้แนะนำให้จ้างพี่ลูกหาบจะดีกว่าเพื่อที่เราจะได้เก็บแรงชมธรรมชาติ เนื่องจากหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลนัก
เอาล่ะค่ะเมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว เราก็เริ่มเดินทางขึ้นภูกันได้เลยค่ะ แนะนำว่าควรขึ้นตั้งแต่ตอนเช้า ๆ เลย เนื่องจากอากาศไม่ร้อนและใช้เวลาเดินได้สบาย ๆ ไม่เร่งรีบ ซึ่งเวลาที่อุทยานอนุญาตให้เดินขึ้นภูนั้นเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงบ่ายสองโมง หากเกินจากนี้ ทางอุทยานจะไม่อนุญาตให้เดินขึ้นแล้วค่ะ เพราะอาจจะขึ้นไม่ทันช่วงพลบค่ำ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ นี่แหละค่ะ เมื่อเริ่มออกเดินทางขึ้นภูเราจะผ่านเส้นทางที่เป็นเส้นทางของน้ำตกภูสอยดาว ตลอดเส้นทางจะมีอากาศเย็นสบายเดินกันได้เรื่อย ๆ ผ่านไปยังจุดแวะพักที่เรียกว่าเนินตั้งชื่อต่าง ๆ กันไปตั้งแต่เนินแรก คือเนินส่งญาติ จนถึงเนินสุดท้ายคือเนินมรณะ ชื่ออาจจะน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วที่มานั้นมาจากความชันแบบตั้งฉากของการเดิน จึงตั้งชื่อให้สมกับความยากลำบากไป หากผ่านจุดนี้ไปได้ เมื่อมองชมวิวกลับลงไปนั้น ก็ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้กำลังใจจากการชมวิวเบื้องล่างแล้วเราจะเดินหน้ากันไปต่อยังจุดหมายที่พักของเราคืนนี้ นั้นคือลานสน ซึ่งเราจะใช้พักแรมกัน เมื่อเดินทางกันถึงลานสนแล้วเราก็จะเข้าไปรับอุปกรณ์จากพี่ลูกหาบที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อเตรียมตั้งแคมป์และทำอาหารเย็น เตรียมพร้อมพักผ่อนเก็บแรงกันไว้ในวันพรุ่งนี้
ในเช้าวันรุ่งขึ้นเราจะเดินทางไปเที่ยวชมสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์หน้าฝนของป่าเมืองไทย คือทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ ที่แปลกหูแปลกตาชาวเมืองแบบเรา เช่น ดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณา ดอกหญ้ารากหอม ซึ่งออกดอกในช่วงฤดูฝน อวดโฉมรอให้นักท่องเที่ยวไปเดินชม เก็บภาพความงามกลับไปเป็นที่ระลึก และหากมีแรงและเวลาเหลือ แนะนำให้เดินทางไปชมน้ำตกสายทิพย์อีกแห่ง ถือเป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม มีความเขียวขจีของมอสที่ขึ้นปกคลุมทั่วแผ่นหินรอบ ๆ น้ำตก ก่อนกลับไปยังลานสน เพื่อเก็บแรงก่อนเดินทางลงภูสอยดาวกันในวันรุ่งขึ้น
หน้าฝนปีนี้ ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสกับธรรมชาติกันแบบใกล้ชิดที่ภูสอยดาว แทนการเดินเล่นหลบฝนในห้างสรรพสินค้ากันสักสุดสัปดาห์ เชื่อว่าทุกท่านจะได้ประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าประทับใจกันแน่นอนค่ะ

