เมื่อดูที่พฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดเวียดนาม สังเกตได้ว่าเวียดนามเป็นประเทศที่ยาวติดทะเลระยะทาง 3,300 กิโลเมตร และพฤติกรรมการบริโภคตั้งแต่ตอนบนจรดตอนใต้ของประเทศก็มีความแตกต่างกัน สินค้าที่จะประสบความสำเร็จในภาคเหนือ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จทางตอนกลางและใต้ ที่สำคัญจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างชายแดนเวียดนามและจีนในปีที่ผ่านมาก็เป็นผลกระทบต่อการบริโภค เนื่องจากเวียดนามเคยบริโภคสินค้าจากจีนเพราะราคาถูก แต่ไม่ค่อยมีคุณภาพ ก็ปฏิเสธสินค้าทั้งหมดจากจีน สุดท้ายจึงต้องหาสินค้าจากประเทศอื่นเข้ามาทดแทน โดยสินค้าจากไทยก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่คนเวียดนามนิยม เนื่องจากราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพ อีกทั้งยังสามารถตอบสนองความต้องการของชาวเวียดนามได้เป็นอย่างดี
สำหรับอุปสรรคในด้านการค้ากับเวียดนามคือ เรื่องของกฎระเบียบที่มักมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยที่การแข่งขันก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น ในขณะที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีปัญหาและยากลำบากในเวียดนาม เพราะการหาผู้จัดการกลางที่มีประสบการณ์และค่าจ้างนั้นค่อนข้างแพง ผู้ประกอบการควรเตรียมความพร้อมโดยการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ดี อีกทั้งยังต้องมีการทดสอบตลาดก่อนโดยการจัดนิทรรศการสินค้าไทยในเวียดนามในหลายจังหวัดและหลายครั้ง จากความร่วมมือและสนับสนุนจากทางภาครัฐบาลผ่านทางกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งหากว่าสินค้าของผู้ประกอบการชาวไทยมีผลตอบรับที่ดี จะมีตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นมากมายเข้ามาในงานนิทรรศการ โดยผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทน และยังสามารถจัดตั้งบริษัทจำหน่ายสินค้าในเวียดนามโดยการนำเข้าสินค้าและจัดจำหน่ายได้เองอีกด้วย
ด้านตัวแทนการจัดจำหน่ายสินค้าในเวียดนามนั้น ผู้ประกอบการชาวไทยสามารถทำการค้าผ่านกลุ่ม BJC ที่ทำหน้าที่สำคัญในช่องทางจัดจำหน่ายในเวียดนาม เช่น Thai Corp, Phu Thai, Metro รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ B’Smart ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ขณะที่เซ็นทรัลได้ตั้งโรบินสันในฮานอยและ HCMC ซึ่งจะเปิดให้บริการในอนาคต ถ้าเล็กลงมาหน่อยก็ บริษัท Chance & Challenge มีการจัดจำหน่ายสินค้าของไทยในตลาดเวียดนามอยู่มากเช่นกัน ผู้ประกอบการที่สนใจอยากทำการติดต่อตัวแทนจัดจำหน่ายในเวียดนาม สามารถติดต่อผ่านหน่วยงานในประเทศไทยและเวียดนามได้โดยตรง ผ่านทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ในแง่กฎหมายที่ผู้ประกอบไทยควรตระหนักก่อนทำการค้าขายและการลงทุนในเวียดนาม จำเป็นต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน โดยทุกการชำระเงินในต่างประเทศต้องมีหลักฐานเสมอ เวียดนามนั้นเปิดกว้างมากสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งตอนนี้ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของโรงงาน บริษัทจัดจำหน่าย หรือแม้แต่เจ้าของร้านอาหารในเวียดนามได้ 100% แล้ว
ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศที่ SME ในประเทศและจากญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้ จับมือกันในลักษณะห่วงโซ่อุปทาน ทำให้การขายของเวียดนามมีเสถียรภาพ เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานที่ง่ายสำหรับการสำรวจตลาดเกิดใหม่ในเวียดนาม ส่วนนี้เองที่จะสร้างความยากลำบากให้กับ SME ไทย จนกลายเป็นคู่แข่งกับ SME ประเทศเหล่านั้นทันที เพราะฉะนั้น SME ไทยควรจับมือกันในรูปแบบห่วงโซ่อุปทานเช่นกัน เพื่อสนับสนุนกันและกันในเรื่องการทำธุรกิจ สร้างความแข็งแกร่งในการต่อสู้กับ SME ท้องถิ่น และจากต่างประเทศ
ธนาคารกรุงเทพ ใส่ใจให้บริการนักลงทุนในย่านอาเซียนด้วยบริการเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน เรามีสาขาของธนาคารอยู่ในย่านอาเซียน 9 สาขาใน 10 ประเทศเพื่อให้บริการท่าน สนใจติดต่อได้ที่ศูนย์ AEC Connect ชั้น 2 สำนักธุรกิจ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ อีเมล: AECconnect@bbl.co.th สายด่วน 1333

